การใช้รถยนต์ในประเทศไทยปัจจุบันนั้นมีข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมายอยู่แล้ว ถ้าคนขับรถเองก็จะรู้ดีว่าแต่ละครั้งที่จะซื้อรถต้องทำอะไรบ้าง นอกจากจะต้องมีใบขับขี่ มี พ.ร.บ.รถยนต์ การต่อประกัน รวมถึงการดูแลรักษาแล้วนั้น ปัจจุบันเมื่อไม่นานมานี้รถยนต์ในเมืองไทยบางรุ่นจะต้องมีกำกับป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO sticker (อีโค สติกเกอร์) ที่กำหนดขึ้นโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย

                ซึ่ง ECO sticker มีขึ้นเพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรรถยนต์จากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยระบบ ECO Sticker ได้เปิดให้บริการมาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี และได้มีการอนุมัติ ECO Sticker ไปมากกว่า 8,600 ป้าย โดยการประเมินผลการดำเนินงานปรากฏว่า ระบบ ECO Sticker ได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากผู้ประกอบการยานยนต์ไทย เพราะเกิดความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส สามารถเข้าใช้งานระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกสถานที่ สอดคล้องกับนโยบายการให้บริการของภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ

                ECO Sticker ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 5 ส่วน ได้แก่ 1.ข้อมูลแสดงสมรรถนะของรถยนต์ 2.ข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ 3.ข้อมูลผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า 4.รายการอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงาน และ 5.ราคาขายปลีกแนะนำ (ภาษีสรรพสามิต)

                นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สศอ. ออกมากล่าวว่าระบบ ECO Sticker ประกอบกับโครงสร้างภาษี CO2 เป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดย ECO Sticker จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติที่แท้จริงของรถยนต์แต่ละรุ่น ทั้งในด้าน “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ เมื่อประกอบกับการเก็บภาษีตามอัตราการปล่อย CO2 อัตราการใช้น้ำมัน และมาตรฐานความปลอดภัย ย่อมเป็นการสนับสนุนให้บริษัทรถยนต์ต้องพัฒนาคุณสมบัติรถยนต์ให้ทัดเทียมรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศชั้นนำ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป ออสเตรเลีย หรือสหรัฐอเมริกา

                ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในประเทศ ที่จะสามารถใช้รถยนต์ที่มีคุณสมบัติด้านความสะอาด ประหยัด ปลอดภัยสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ในประเทศให้ทัดเทียมประเทศชั้นนำอีกด้วย ทั้งนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคมองหารถยนต์ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน ปล่อยก๊าซพิษน้อย และมาตรฐานความปลอดภัยสูง เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

                อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นให้เกิดผลดีครั้งนี้ จึงส่งผลให้ผลงานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO sticker ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2562 สาขาบริการภาครัฐในประเภทพัฒนาการบริการ จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งเป็นรางวัลแรกของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยรางวัลดังกล่าวเพื่อเชิดชูหน่วยงานรัฐที่มีแนวความคิดริเริ่มใหม่ๆ มาพัฒนาระบบการให้บริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวก และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ

                ซึ่งตั้งแต่รัฐบาลประกาศใช้ระบบ ECO sticker ร่วมกับโครงสร้างภาษี CO2 นี้เมื่อปี 2555 ได้ส่งผลให้บริษัทรถยนต์เกือบทุกค่าย ดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยี และเริ่มมีการนำเสนอรถยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีอัตราการใช้น้ำมันที่ลดลง อัตราการปล่อย CO2 ที่ลดลง และมีการติดตั้งระบบ ABS และ ESC ที่ได้มาตรฐานออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก

                อย่างไรก็ตาม จึงสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานสำคัญของประเทศอย่างกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ สศอ.เอง  ก็ได้เดินตามนโยบายที่จะพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนและระบบการบริหารของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการรับบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ รวมถึงยังเป็นมิติใหม่ที่จะพัฒนาเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัลในยุค 4.0 อีกด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องให้กำลังแรงใจเพื่อให้เกิดการผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า