ทำเนียบขาวเปิดเผยบทสนทนาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีแล้ว ทรัมป์ย้อนความพยายามถอดถอนเขาพ้นตำแหน่งเป็นเรื่องตลก ขณะเดโมแครตชี้ทรัมป์ข่มขู่ผู้นำยูเครนแบบเจ้าพ่อมาเฟีย สมาชิกคองเกรสเผยเอกสารร้องทุกข์ของผู้เปิดโปงมีคำกล่าวหาการกระทำผิดที่น่ากังวลใจมาก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี หารือนอกรอบที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธ / AFP

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า เอกสารร้องทุกข์ดังกล่าวไม่เป็นเอกสารลับอีกต่อไปตามการเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ของคริส สจวร์ต กรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยชัค ชูเมอร์ ส.ว.เดโมแครตที่ได้อ่านคำร้องนี้แล้ว กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ชวนให้ไม่สบายใจ เช่นเดียวกับ ส.ว.เบน แซสส์ จากพรรครีพับลิกัน ที่บอกว่ามีหลายอย่างที่น่ากังวล

    ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าเขาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ จากการรบเร้าประธานาธิบดีเซเลนสกีซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เปิดการสอบสวนอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และลูกชาย ที่ทำธุรกิจอยู่ในยูเครน เมื่อวันพุธทำเนียบขาวเผยแพร่ถ้อยคำสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนั้นยืนยันว่า ทรัมป์ขอให้ผู้นำยูเครนสอบสวน 2 พ่อลูกไบเดนจริง

    บทสนทนานี้เผยแพร่ออกมา 1 วัน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ตัดสินใจเปิดกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ต่อกรณีที่มีรายงานข่าวของสื่อว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองนิรนามรายหนึ่งทำหนังสือร้องเรียนว่าประธานาธิบดีทรัมป์ต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบไม่ซื่อกับผู้นำยูเครน แต่ทำเนียบขาวและหน่วยงานด้านข่าวกรองปฏิเสธจะมอบเอกสารนี้ต่อคณะกรรมาธิการหลายชุดของคองเกรสที่เกี่ยวข้องกับข่าวกรอง

    วันพฤหัสบดี โจเซฟ แมกไกวร์ รักษาการผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ก็มีกำหนดเข้าให้การต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวด้วย

    ทรัมป์ตอบโต้เดโมแครตอีกครั้งเมื่อวันพุธว่า ความพยายามถอดถอนที่เขาเรียกว่าการล่าแม่มดนี้เป็นแค่เรื่องตลก เดโมแครตจะถอดถอนเขาด้วยเหตุผลอะไร เพราะการประชุมหรือการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ยอดเยี่ยมอย่างนั้นหรือ

    ก่อนหน้านี้ทรัมป์ยืนกรานว่าเขา "ไม่ได้กดดัน" ผู้นำยูเครนให้สอบสวนไบเดนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐ เซเลนสกีก็ยืนยันด้วยเช่นกันระหว่างที่ทั้งคู่พบกันนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธ

    เซเลนสกีและทรัมป์คุยโทรศัพท์กันเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เป็นเวลาราวครึ่งชั่วโมง แต่เนื้อหาคำสนทนาที่ทำเนียบขาวเผยแพร่ ซึ่งไม่ได้เป็นการถอดคำพูดแบบคำต่อคำนั้น มีความยาวราว 12 นาที และนักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่ามีการเว้นว่างถ้อยคำอย่างน้อย 3 ช่วงด้วยกัน ทั้งหมดเป็นช่วงที่ทรัมป์ร้องขอบางอย่างต่อเซเลนสกี ขณะที่มิตต์ รอมนีย์ ส.ว.รีพับลิกัน กล่าวว่า การสนทนานี้น่ากังวลใจอย่างยิ่ง

    ทรัมป์และพันธมิตรของเขาในคองเกรสอ้างว่า คำสนทนานี้ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าทรัมป์ยื่นหมูยื่นแมว เพื่อให้ผู้นำยูเครนสอบสวนไบเดน แต่พรรคเดโมแครตกลับมองตรงกันข้าม อดัม ชิฟ ส.ส.เดโมแครตที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คำพูดของทรัมป์เป็นเหมือนคำพูดของเจ้าพ่อมาเฟีย ที่บีบให้อีกฝ่ายช่วยเหลือเป็นการตอบแทน

    รายงานกล่าวว่า คำสนทนาไม่ได้ระบุชัดว่าทรัมป์โยงความช่วยเหลือทางทหารกับการสอบสวนไบเดน แม้ทั้งคู่จะหารือกันเรื่องความช่วยเหลือที่ว่านี้ ซึ่งทรัมป์สั่งระงับก่อนหน้านั้นไม่นาน ขณะเดียวกันมีบางตอนที่ทรัมป์ขอให้เซเลนสกีช่วยเหลือในประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับไบเดน โดยทวงบุญคุณว่าสหรัฐทำดีกับยูเครนมามาก.