26 ก.ย.62 - ที่ศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง ทนายความ ได้พานางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 46 ปี อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และภรรยาของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งนางระพิพรรณเป็นจำเลยที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จฯ เข้าแสดงตัวต่อศาลฎีกาฯ หลังจาก เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับนางระพิพรรณ เนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าว และให้ติดตามตัวมารับโทษตามคำพิพากษานั้น
โดยก่อนเข้ามอบตัวต่อศาล นางระพิพรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ที่ผ่านมาที่ไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาไม่มีเจตนาหลบหนี เพียงแต่มีภาระเรื่องบุตรสาวคนเล็กที่อายุเพียง 13 ปี ต้องจัดการก่อน เพราะหากตนต้องถูกจำคุก บุตรสาวต้องอยู่คนเดียว เรื่องคดีในวันนี้ยื่นขอประกันตัว และจะยื่นอุทธรณ์ตามช่องทางของกฎหมายต่อไป เนื่องจากมั่นใจในข้อเท็จจริง ว่าตนเองมิได้ร่ำรวยผิดปกติ มิได้ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน มิได้ทุจริต ซึ่งในสำนวนของ ป.ป.ช. ก็ไม่มีเรื่องทุจริต ดังนั้นตนขอพิสูจน์ตนเองในกระบวนการยุติธรรม ส่วนศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ แล้วแต่ความเมตตาของศาล
ต่อมาภายหลังจากที่นางรพิพรรณมาแสดงตัวต่อศาลฎีกาฯ แล้ว ก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาด้วย กระทั่งเมื่อเวลา 13.35 น. นายกัณต์พัศฐ์ ทนายความ ระบุว่า หลังจากที่ยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีแล้ว ศาลก็พิจารณาเห็นว่า ในวันนัดอ่านคำพิพากษา จำเลยไม่ได้มาศาล ซึ่งมีพฤติการณ์น่าจะหลบหนี ดังนั้นหากปล่อยชั่วคราวก็เกรงว่าจะหลบหนี ศาลจึงให้ยกคำร้อง อย่างไรก็ตาม ในการที่มาแสดงตัวต่อศาลในวันนี้ ก็ประสงค์ที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไปด้วยทั้ง 2 คดี คือคดีอาญาที่ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ และคดีแพ่งที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ทรัพย์สินของนางระพิพรรณตกเป็นของแผ่นดิน โดยการแสดงตัวต่อศาลตามหมายจับวันนี้ ก็ไม่ได้แถลงเกี่ยวกับเหตุผลที่ในวันนัดฟังคำพิพากษาไม่ได้มาฟังด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ นางระพิพรรณก็จะต้องถูกนำตัวไปควบคุมยังทัณฑสถานหญิงกลางก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญา ที่ ป.ป.ช.กล่าวหานางระพิพรรณยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จในคดีหมายเลขดำ อม.1/2562 นั้น ศาลฎีกาฯ พิพากษา ให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ศาลได้ออกหมายจับ ให้ติดตามตัวนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา มาบังคับตามคำพิพากษาโดยไม่มีกำหนดอายุความด้วย
ส่วนคดีแพ่ง ที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่า 42,816,226 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ในคดีหมายเลขดำ อม.77/2561 นั้น ศาลฎีกาฯ ก็มีคำพิพากษาในวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ให้ทรัพย์สินมูลค่า 42,816,226.64 บาท พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 38 ประกอบมาตรา 83 โดยให้คืนรถยนต์ BMW รุ่น 730 Ld เลขทะเบียน ถ-8988 (ป้ายแดง) แก่บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้านที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับทรัพย์สิน ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ดังนี้ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท, ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวนเงิน 1.9 ล้านบาท
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |