26 ก.ย.62 - นายปรีดา เทียนส่งรัศมี หัวหน้าโครงการคุ้มครองนกเงือก (ส่วนภาคใต้) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงขบวนการล่านกชนหินในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีข้อความว่า ขณะที่พิมพ์ข้อความอยู่นี้ ผมนอนอยู่ในเปลบนเขาตะโหนด อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ใจสับสนและกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มาว่า ตอนนี้มีพรานจากรือเสาะและยะลากำลังขึ้นเขามาล่าสัตว์ และสัตว์ที่เขามาล่าคือ หัวนกชนหิน ซึ่งมีตลาดรับซื้ออยู่ในเมืองนราธิวาส เขาให้ราคาถึงหัวละหมื่น ชาวบ้านมาบอกว่าสองวันก่อนเขาเจอพรานมาซุ่มยิงนกเงือกที่ต้นไทรสุก พบยิงนกชนหินถึง 4 ตัว ใจหายและรู้สึกโกรธจะทำอย่างไรกันดี?
สิ่งที่เราช่วยกันดูแลรักษากำลังถูกทำลาย และผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เพียงแค่บันทึกบอกกล่าวและได้ระบายอะไรบ้าง ชาวบ้านที่ให้ข้อมูลเขาก็กลัวเพราะพวกมันมีปืน ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า"ผมเคยเตือนเขาแล้วว่าอย่ายิงนกเงือก เขาอนุรักษ์กัน มันกลับท้ายิงผมอีก
หลายปีที่ผ่านมาสำหรับผมคือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หากปล่อยให้เหตุการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป จะมีประโยชน์อะไรสำหรับงานอนุรักษ์นกเงือกที่บูโด ขอพื้นที่ตรงนี้ได้บอกเล่าความจริงเผื่อว่าจะมีทางออกที่ดีกว่าและมาช่วยกันหาทางแก้ไขต่อไป ซึ่งเวลานี้ผมก็เพียงแค่ภาวนาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาบูโดขอให้คุ้มครองพวกมันด้วยเถิด
ทั้งนี้ได้มีผู้แชร์ข้อความดังกล่าวอย่างแพร่หลายเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งปรามปรามขบวนการล่าและค้านกชนหินอย่างเด็ดขาดทั้งในพื้นที่จนถึงเครือข่ายใต้ดิน
นกชนหิน เป็นนกเงือกสายพันธุ์โบราณ มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกับนกเงือกอื่น คือมีโหนกตันคล้ายงาช้าง ซึ่งกลายเป็นความต้องการของตลาดนักสะสม นกชนหินจึงมีราคาค่าหัว ถูกไล่ล่าจนใกล้สูญพันธุ์ ในประเทศไทยเหลือนกชนหินดำรงเผ่าพันธุ์อยู่เพียงประปรายในป่าดิบภาคใต้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |