ยังคงเป็นประเด็นร้อนของสังคมไทยในการเสียชีวิตพริตตี้สาว น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ “ลัลลาเบล” อายุ 25 ปี แม้ล่าสุดจะมีผู้ต้องหาและออกหมายจับเพียงคนเดียว คือ “รัชเดช วงศ์ทะบุตร” หรือ “น้ำอุ่น” แต่ดูเหมือน “สังคมยังกังขา” กับบ้านที่จัดปาร์ตี้ รวมถึงผู้ร่วมงานรื่นเริงดังกล่าวว่าน่าจะต้องโดนหางเลขด้วย ซึ่งงานนี้คงต้องตามติดกันอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ที่แน่ๆ งานนี้อาจทำให้ “ทะแนะ” รวมถึง “เซเลบโหนกระแส” บางรายเสียรังวัดหรือเสียหมาก็เป็นได้ ...๐

ดูง่ายๆ จากบรรดา “ม็อบ” รับจ้างที่ไปประท้วงหน้าโรงแรมพลาซา แอทธินี นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อยกป้ายและประท้วง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพราะชาวต่างชาติ 25-30 คนดังกล่าวนั้นพูดภาษาอังกฤษยังแทบไม่ได้ แล้วที่สำคัญเมื่อถามว่ารู้จัก “ประเทศไทย” ไหม ก็ตอบว่าไม่รู้ แต่กลับมายกป้ายเรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศไทย พิโธ่! จ้างม็อบทั้งทีก็ไม่ลงทุนเอาซะเลย “ทฤษฎีโลกล้อมประเทศ” ของลิ่วล้อ "อัศวินคลื่นลูกที่ 4” ที่นำคำสั่งมาปฏิบัติ ถ้าไม่กั๊กหัวคิว ก็แสดงว่า “โง่บัดซบ” เพราะงานไม่เนียนจริงๆ ...๐

ยังมีผลพวงการประชุมยูเอ็นในพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะระดับสูงว่าด้วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (High-level Meeting on Universal Health Coverage) โดย “ลุงตู่” ได้กล่าวถึงความสำเร็จในเรื่องสาธารณสุขไทย ซึ่ง ถือเป็นการส่งเสริมให้ไทยที่ต้องการเป็น “ฮับสุขภาพ” ของโลก นอกจาก “ฮับครัวโลก” ให้น่าเชื่อถือในสายตานานาชาติมากยิ่งขึ้น แต่พอหันมาดูนักการเมืองไทยกลับน่าอนาถอย่างยิ่ง เพราะ แยกเรื่องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองกับผลประโยชน์ของพรรคพวกพ้องตัวเองไม่ได้ ไล่มาตั้งแต่ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” มาจนถึง “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” และ “เหวง โตจิราการ” ที่ทั้งกัด ทั้งกระแนะกระแหน “พล.อ.ประยุทธ์” ในเรื่องดังกล่าว ...๐

ไม่แปลกใจว่าทำไมนับวันพรรคฝ่ายค้านจะเริ่มเป็นฝ่ายแค้น เพราะเล่นมองการกระทำของ “บิ๊กตู่” ไม่ว่าจะเป็นแค่การหายใจเข้า-ออกก็เป็นความผิดแล้ว มิได้ดูบริบทหรือเนื้อหาแต่ประการใด แล้วอย่างนี้ “การเมืองไทย” จะก้าวไปทันยุค 4 จีได้อย่างไร ซึ่งหากดูระดับหัวในกรณี “ดูด” ส.ส.แล้วก็ไม่น่าแปลก เพราะ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยที่ออกมาตีข่าวเรื่องมีคลิปมีหลักฐาน เรื่องดังกล่าว แต่พอถูก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ รวมถึง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ท้าให้เปิดคลิปดังกล่าว กลับบอกแค่ว่าได้รวบรวมให้ฝ่ายกฎหมายแล้ว ชาวบ้านร้านถิ่นเขาเลยมองกันว่า นี่ ไม่ต่างจากการ “ตีหัวเข้าบ้าน” หรือการเมืองย้อนยุคอย่างไรอย่างนั้น ...๐

โธ่! ได้ยินได้ฟังคนดีของประเทศไทยอย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ไปร่วมเดินสายพบสื่อกับ 7 พรรคฝ่ายค้านในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วก็ ไม่รู้จะทำ “หน้าเบ้ ตามองบน” อย่างไรดี เพราะบอกถึงการที่ ส.ส.รัฐบาลมาเข้าร่วมวงแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าอาจเป็นการไฮแจ็กประเด็น!!! พระเจ้าจอร์จ แล้วถ้าใช้เสียงฝ่ายค้านถ่ายเดียวมันจะผ่านวาระแรกได้อย่างไรเล่า แล้วถามหน่อยเถอะ 7 พรรคฝ่ายค้านที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น “ตกผลึก” หรือยังว่าจะแก้ทั้งฉบับ หรือจะแก้เฉพาะมาตรา ขนาดแค่นี้ “พ่อคนดี” เสียเหลือเกินยังไม่สามารถชี้แจงแถลงไขให้ชัดเจนได้เลย และ ด้วยความเป็นคนดีคนเก่งอยู่คนเดียวอย่างนี้นี่เอง ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จึงต้องฟรีซการทำหน้าที่ไว้ เพราะนี่ขนาดเรื่องไม่ใช่ของตัวเองแท้ๆ ยังสร้างปัญหาได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นเรื่องของตัวเองก็เชื่อว่าคงเป็นตามเอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ 10/2562 เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ในมติ 8 ต่อ 1 ที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกร้อง (ธนาธร) อาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้” ...๐

ความไม่ชัดเจนของเป้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรียกว่าไม่ต่างจากกรณีสถานะ ส.ส.ของ “นวัธ เตาะเจริญสุข” ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ภายหลังจากที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาประหารชีวิตคดีจ้างวานฆ่า ซึ่งเรียกว่ามีหลายกระแสความคิดเสียเหลือเกินว่าพ้นหรือไม่พ้นทั่นผู้แทนฯ กันแน่ ขนาดทีมกฎหมายสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 15 คน เสียงข้างมาก 11 เสียงเห็นว่าต้องพ้น แต่อีก 4 เสียงมองว่ายังไม่พ้น ยังต้องโยน “เผือก” ดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สะเด็ดน้ำ แต่ถ้าถามไอ้เรือง! โดยยกเทียบคดีของ พระชั้นผู้ใหญ่ในคดีเงินทอนวัดและคดีทำร้ายร่างกาย เมื่อถูกคุมขังยังต้องขาดจากความเป็น “พระ” กันเลย งานนี้ก็ไม่น่าจะต้องตีความอะไรกันแล้วมั้ง ...๐

...ท.ศักดิ์