"บิ๊กแป๊ะ" การันตีคุมคดีเจ้าสัวล่าเสือดำใกล้ชิด เผยยังไม่พบพิรุธในการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ จึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนตัว เว้นแต่พบความไม่ชอบมาพากลก็ต้องปรับเปลี่ยนแน่นอน ด้านความคืบหน้าทางคดี คืบแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ ยันส่งอัยการภายใน 24 มี.ค.ทันแน่นอน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ ยืนยันว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเปลี่ยนตัว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. จากการกำกับดูแลสำนวนคดีล่าสัตว์ป่าของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตัลไทย ตามที่กระแสโซเชียลฯ เรียกร้อง
"ผมเป็นผู้นำองค์กร คดีนี้ผมดูคดีอย่างใกล้ชิด ย้ำว่าดูอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นคดีใหญ่ที่ประชาชนสนใจ ขณะนี้ผมยังไม่พบพิรุธในการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ไม่เหมือนคดี 30 ล้าน (คดีชิงเงินสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ที่พบว่า พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เข้าไปพัวพัน) ถ้าพบพิรุธเมื่อไหร่ไม่ต้องห่วง ผมไม่ช้าแน่นอน ต้องลงไปแก้ไข ตำรวจต้องอำนวยความยุติธรรมให้กับสังคมและประชาชน แต่ขณะนี้ยังไม่พบพิรุธ"
ผบ.ตร.ชี้แจงด้วยว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ไม่ได้ทำสำนวนคดีนี้ เพียงแต่ไปควบคุมกำกับดูแลกองบัญชาการสอบสวนกลาง ถ้าพบพิรุธไม่ชอบมาพากลก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแน่นอน
"ถ้าเป็นอย่างหวยเมืองกาญจน์เปลี่ยนแล้ว โอนมาแล้ว ผมมีรอง ผบ.ตร.ทุกหน้างาน เมื่อใช้เขาก็ต้องไว้ใจเขา และก็ต้องตรวจสอบ ขอให้เข้าใจด้วย ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศ คุณเปรมชัย เป็นเรื่องของศาล ผมไม่ไปก้าวก่าย" พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงการที่นายเปรมชัยมีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 9 มี.ค.
ด้านความคืบหน้าทางคดี วันเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปติดตามการรวบรวมพยานหลักฐานการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวก ในข้อหาลักลอบล่าสัตว์ป่า ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เพื่อเร่งรัดผลตรวจชิ้นเนื้อ คราบเลือด และร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนดังกล่าว คืบหน้าไปแล้วกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะสรุปสำนวน 9 ข้อหา ส่งอัยการได้ทันภายในวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยวันนี้มาสอบนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ถึงประเด็นผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะจุดที่พบมีด 2 เล่มในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรวจพบดีเอ็นเอเสือดำบนมีด จึงคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ชำแหละเสือดำ พร้อมทั้งสั่งเร่งรัดการตรวจดีเอ็นเอของบุคคลบนมีดอีโต้และเขียงที่พบบริเวณเต็นท์ของนายเปรมชัยกับพวก หลังได้รับรายงานว่ามีดีเอ็นเอเสือดำบนมีดอีโต้และเขียง เพื่อหาว่าใครเป็นผู้ใช้มีดดังกล่าวชำแหละเสือดำ นำมาประกอบสำนวนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าไปเก็บหลักฐาน ดีเอ็นเอมีการปนเปื้อน ทำให้ดีเอ็นเอไม่ชัดเจน
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้นำหลักฐานและวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ 2 ครั้ง คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ แต่เมื่อได้รับผลตรวจกลับมา ปรากฏว่ายังไม่ครบถ้วน ขาดอีกหลายประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ
ขณะที่นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า ได้นำรายงานพฤติการณ์ของนายเปรมชัยกับพวก พร้อมผลการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ การจำลองเหตุการณ์ พร้อมภาพถ่ายต่างๆ มามอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เพื่อประกอบสำนวนคดีด้วย ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอบนมีดอีโต้ มีดทำครัว และเขียงนั้น จะเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ส่งรายงานอย่างเป็นทางการในเย็นวันเดียวกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |