ที่แท้ก็เลี้ยงแกะ!ย้อนดูความเห็น 'กรณ์' กรณี Blind Trust


เพิ่มเพื่อน    

25 ก.ย.62 - จากกรณีการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินรวมคู่สมรส (นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ) ประมาณ 5.6 พันล้านบาทเศษ โดยมีรายการเงินลงทุนรวมคู่สมรสประมาณ 3.2 พันล้านบาท และยังไม่มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช. ว่าดำเนินการโอนสินทรัพย์และหุ้นให้กับกองทุนดูแล หรือ Trust ตามที่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2562 นายธนาธร เคยแถลงข่าวลงนามบันทึกข้อตกลงการทำ Trust หรือที่นายธนาธรเรียกว่า ‘Blind Trust’ (บลายด์ทรัสต์) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด (มหาชน) นั้น โดยสำนักข่าวอิศรา ระบุว่า ไม่พบการแจ้งข้อมูลกับ ป.ป.ช. นั้น

กรณีดังกล่าว ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้ง นายกรณ์ จาติกวณิช เคยให้ความเห็นไว้ใน 4 ประเด็นว่า 1. “Blind Trust” ยังไม่มีจริงในประเทศไทย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ เพราะฉะนั้นที่คุณธนาธรลงนามไปนั้น ไม่ใช่ blind trust และไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน 2. นายธนาธรได้โอนทรัพย์สินให้สถาบันการเงินดูแล อันนี้หลายคนน่าจะเคยทำเหมือนกัน ผมก็เคยและวันนี้ก็ยังมีอยู่ โดยที่ผมก็ได้ลงนามสัญญาให้เขาบริหารโดยอิสระเช่นเดียวกัน 3. ตัวนายกรณ์เองเคยมี Trust อยู่ที่ต่างประเทศ และรายงานรายละเอียดทั้งหมดกับ ปปช. ตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการรายงานบัญชีทรัพย์สิน และ 4. หลายปีมาแล้วที่นายกรณ์ตัดสินใจทำสวนทางกับที่นายธนาธรพยายามที่จะทำ คือนายกรณ์ได้ยกเลิก Trust ที่มีอยู่ เนื่องจากคิดว่าความโปร่งใสสำคัญกว่า

“ผมคิดว่าประเด็นที่น่ากังวลที่สุดในสิ่งที่คุณธนาธรได้ประกาศวันนี้ ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนแรกหรือไม่ แต่ที่ท่านบอกว่าทรัพย์สินที่ท่านโอนไปนี้จะ ‘มองไม่เห็น’ มันเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะเมื่อทุกคนบอดสนิทกับข้อเท็จจริงว่าท่านมีทรัพย์สินอะไรบ้าง การตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจะเกิดขึ้นไม่ได้ จริงๆ แล้ววิธีที่ชัดเจนที่สุดที่จะปลดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคือการขายขาด อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีที่สุดคือ เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบได้ และที่ไม่ควรเลยคือการโอนเข้าไปในที่ ๆ มองไม่เห็น ” นายกรณ์ ตั้งข้อสังเกตในวันนั้น

แหล่งข่าวจากนักวิชาการทางการเงินระบุว่า ประเด็นเรื่องนี้คือ นักการเมืองทุกคนต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน นายธนาธรต้องยื่นเพราะเป็นนักการเมือง นายธนาธรบอกว่าจะยกระดับมาตรฐานนักการเมืองด้วยการตั้ง blind trust แต่ก็ไม่ได้ทำ และไม่ชี้แจงเอง ทั้งที่ช่วงก่อนเลือกตั้งแถลงไว้อย่างครึกโครม 

“สรุปให้ง่าย ๆ คือ ณ วันนี้ Blind trust ในเมืองไทยไม่มีกฎหมายรองรับ  คุณกรณ์พูดถูกว่ามันไม่มีตั้งแต่แรก แต่การไม่มีถือว่าเป็นเรื่องดีกว่า เพราะเราจะสามารถเห็นได้ว่านักการเมืองแต่ละคนมีอะไรบ้างตามที่รายงานในการเปิดเผยของปปช. และในกรณีที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน นักการเมืองจะไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบด้วยการอ้างว่า ‘โอนเข้า Blind trust แล้ว’ และการที่นายธนาธรอ้าง Blind trust เป็นการยกระดับมาตรฐานนั้น เป็นเรื่องไม่จริงก็แย่อยู่แล้ว ตอนนี้ให้คนอื่นๆ ในพรรคมาย่ำว่าบอกจะทำแต่ไม่ได้ทำนั้นแย่ยิ่งกว่า” แหล่งข่าวระบุ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"