เยียวยาอุทกภัย จ่ายหลังละ5พัน สิ้นเดือนนี้ถึงมือ


เพิ่มเพื่อน    

 ครม.ไฟเขียว 7.6 พันล้าน แจกครัวเรือนละ 5 พัน ช่วยน้ำท่วม 29 จังหวัด "บิ๊กป้อม" ขีดเส้นภายในสิ้นเดือนนี้เงินถึงมือประชาชน พร้อมกำชับต้องโปร่งใสไร้ทุจริต คกก.กองทุนสาธารณภัยเคาะหลักเกณฑ์ "ค่าจัดการศพ-เงินทุนเลี้ยงชีพ-ซ่อมบ้าน"

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 กันยายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท ใน 29 จังหวัด และการซ่อมแซมบ้าน โดยใช้งบกลาง และให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำให้รวดเร็ว ทั้งนี้ เป็นมาตรการระยะสั้น และจะมีมาตรการระยะยาวต่อไปอีก จะทำอย่างไรให้ประชาชนได้กลับเข้าบ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะได้มีกำลังใจ รัฐบาลจะทำให้เร็ว ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
    เมื่อถามว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะถึงมือประชาชนเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เงินจะโอนถึงมือประชาชนทุกครัวเรือนภายในสิ้นเดือนนี้ ยืนยันจะทำให้เร็ว และได้บอกทางกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำลังสำรวจอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องการป้องกันการทุจริตได้กำชับไว้เรียบร้อย รัฐบาลจะไม่ทำให้เกิดความคลุมเครือ จะทำให้เกิดความโปร่งใสที่สุดเท่าที่ทำได้ และให้เงินถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) จำนวน 7,642,400,000 บาท โดยจะแบ่งเป็น 1.ช่วยเหลือผู้ประสบภัยครัวเรือนละ 5,000 บาท และ 2.แบ่งเป็นเงินช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำหรับการช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท มีหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1.น้ำต้องท่วมขังถึงบ้านพักอาศัยแบบฉับพลัน 2.ถูกน้ำท่วมขังไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินเสียหาย และ 3.บ้านพักเสียหายจากอุทกภัย วาตภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน  
    ทั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้น ขณะนี้มีอยู่ 29 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ชุมพร เชียงใหม่ ตราด นครพนม น่าน พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ลำปาง ศรีสะเกษ สกลนคร สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้สำรวจ และต้องมีประชาคมหมู่บ้าน รวมถึงเอกสารรับรองผู้ประสบอุทกภัยที่อำเภอออกให้ หากมีการซ้ำซ้อนกันทั้ง 3 หลักเกณฑ์ จะช่วยเหลือแค่กรณีเดียว และจากพายุโพดุล หรือคาจิกิ จะช่วยเหลือเพียงเหตุการณ์เดียว
    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อ ครม.มีมติอนุมัติแล้ว กระทรวงมหาดไทยโดยท้องถิ่นจะต้องรายงานข้อมูลเข้ามา โดยไม่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีก ตอนนี้ขออนุญาตไม่บอกตัวเลขครัวเรือนที่จะต้องเยียวยาว่ามีจำนวนเท่าใด ยืนยันว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวตามความเป็นจริง จะเกินจะขาดและมั่วไม่ได้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
    สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาทนั้น ไม่รวมกับการจ่ายเงินให้บ้านเรือนที่เสียหายและต้องได้รับการซ่อมแซม ซึ่งต้องมีการสำรวจอีกครั้ง รวมถึงความเสียหายทางด้านการเกษตร โดยสรุปพื้นฐานจะช่วยเท่าไหร่ และจะช่วยพิเศษอีกเท่าไหร่ ตรงนี้จะต้องทำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้ง เพื่อช่วยตามเกณฑ์ สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือน ถ้าเป็นเงินเล็กน้อยก็ใช้เงินท้องถิ่นซ่อม แต่ถ้าบ้านเรือนเสียหายมากหรือพังทั้งหลัง ต้องใช้เงินของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และถ้าไม่พออีก ก็ต้องใช้เงินที่ได้รับจากการบริจาคเข้าไปเพิ่มเติม โดยการซ่อมแซมบ้านเรือนต้องทำให้เร็วที่สุด
    รมว.มหาดไทยกล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์พื้นที่ใดที่ยังมีปัญหาอุทกภัย ต้องดูแลประชาชนทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก การอยู่อาศัย การสัญจร สุขภาพอนามัย และศูนย์ที่พักพิงที่ยังมีอยู่ใน จ. อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยแล้ว จะอยู่ในขั้นการพื้นฟู มีการบูรณาการทุกภาคส่วนดูแลความสะอาด โดยท้องถิ่นกับส่วนของอำเภอจะเริ่มจากการสำรวจโดยเร็วที่สุด ทั้งความเสียหายของที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพ ซึ่งมีการสำรวจพื้นที่นาแล้วเกือบ 3 ล้านไร่ นอกจากนี้ ต้องเร่งฟื้นฟูบูรณะโรงเรียน สถานพยาบาล สถานที่สาธารณูปโภค 
    ที่ห้องประชุม 109 สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนผู้ประสบสาธารณภัย โดยที่ประชุมมีมติกำหนดกรอบแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากสถานการณ์พายุโซนร้อนโพดุลและพายุโซนร้อนคาจิกิ และสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตกและภาคใต้ ประกอบด้วย ค่าจัดการศพรายละ 50,000 บาท, ค่าเงินทุนเลี้ยงชีพครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 30,000 บาท กรณีผู้เสียชีวิตมีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ ให้เพิ่มขึ้นครอบครัวละ 50,000 บาท, ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย โดยเสียหายทั้งหลัง (เสียหายเกิน 70 เปอร์เซ็นต์) ไม่เกินหลังละ 220,000- 230,000 บาท เสียหายมาก (เสียหายถึง 30-70 เปอร์เซ็นต์) ไม่เกินหลังละ 70,000 บาท เสียหายน้อย (เสียหายน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์) ไม่เกินหลังละ 15,000 บาท
    นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติกรณี จ.นครศรีธรรมราช ขอรับความช่วยเหลือซ่อมแซมสิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึก จำนวน 5 รายการ โดยให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณหรือขอใช้เงินงบกลาง กรณี จ.ชุมพร ขอรับความช่วยเหลือก่อสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยให้ทางจังหวัดขอรับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นก่อน ทั้งนี้ ยังขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งสำรวจความเสียหายภายหลังน้ำลด และแจ้งขอรับการช่วยเหลือตามกรอบแนวทางการช่วยเหลือของกองทุน
    วันเดียวกัน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลและพายุโซนร้อนคาจิกิ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน (24 ก.ย.62 เวลา 06.00 น.) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 4,943 หลัง ผู้เสียชีวิต 35 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 คน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 17,939 คน ในพื้นที่ 2 จังหวัด รวม 44 จุด ได้แก่ อุบลราชธานี 41 จุด รวม 17,777 คน ศรีสะเกษ อพยพประชาชน 3 จุด รวม 162 คน.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"