24ก.ย.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้กำชับให้ทุกกระทรวงลงพื้นที่หลังน้ำท่วมในภาคอีสาน เพื่อวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดตามหน่วยราชการของตัวเองที่รับผิดชอบ โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตนได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า ศธ.มีงบประมาณสำหรับการฟื้นฟูสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ จำนวน 200 ล้านบาท โดยตัวเลขในจำนวนนี้เป็นของงบประมาณ ปี 2562 จำนวน 50 ล้านบาท และงบประมาณปี 2563 จำนวน 150 ล้านบาท เพื่อให้การฟื้นฟูสถานศึกษาหลังน้ำลดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเร็วๆ นี้ ตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาหลังน้ำลดด้วย

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนยังได้วางแผนระบบติดตามข้อมูลกลุ่มจังหวัดใหม่ โดยจะนำเทคโนโลยีให้เข้ามาเชื่อมต่อการรายงานข้อมูลสถานการณ์การศึกษาเรื่องต่างๆ ในระดับพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อให้การรายงานข้อมูลระดับพื้นที่และส่วนกลางมีความรวดเร็วมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาข้อมูลที่ตนได้รับทุกวันเรื่องน้ำท่วมก็บริหารจัดการดีอยู่แล้วแต่ตนต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและเรียลไทม์ให้เร็วกกว่านี้ในเรื่องการวางระบบแผนงานมากกว่า โดยเฉพาะการวางแผนการจัดการเรียนการสอนชดเชยให้แก่นักเรียนที่โรงเรียนโดนน้ำท่วมจนต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว

“นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พูดถึงกิจการของลูกเสือไทย โดย ครม.ต้องการให้กิจการลูกเสือเน้นความเข้มแข็งและทำงานผสมผสานกับจิตอาสา เพราะกิจการลูกเสือเป็นองค์กรใหญ่สามารถช่วยเหลือสังคมได้หลายเรื่อง  ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้กำชับถึงการใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 ของทุกกระทรวงในการดำเนินโครงการต่างๆต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยงบประมาณของ ศธ.ในปี 2563 ก็เป็นไปตามตัวเลขเดิม คือ 368,000 ล้านบาท ซึ่งจำนวนตัวเลขงบประมาณนี้ไม่ได้มากขึ้นหรือน้อยลงถือว่าได้งบประมาณเท่าเดิม อีกทั้งศธ.ยังถือว่าเป็นกระทรวงที่ได้งบประมาณมากที่สุดด้วย”รมว.ศธ.กล่าว