24 ก.ย.62- เพจพรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party อ้างคำพูด หมอเอก เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส. เขต 1 จ.เชียงราย พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า
"...ในภาวะการเมืองที่ตึงเครียด เข้มข้น จากการพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยังคงไว้ซึ่งอำนาจของคนกลุ่มหนึ่งและทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม
พรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นภัยคุกคามของขั้วอำนาจเก่า แต่ผมยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย
เพราะอะไรผมถึงกล้าพูดเช่นนั้น ผมจะขอเล่าเรื่องราวของผมเริ่มต้นจากเมื่อปีกว่าที่แล้วให้ได้อ่านกันครับ...
เมื่อกว่าปีที่ผ่านมา ผมบังเอิญได้เห็นหน้าฟีดของเฟสบุ๊คที่เพื่อนแชร์เรื่องราวของกลุ่มอนาคตใหม่ ที่ตอนนั้นยังไม่มีสถานะเป็นพรรคการเมือง เป็นเพียงกลุ่มการเมืองที่ไปยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองตามระบบ
ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และตอนนั้นผมยังไม่รู้จักธนาธร ไม่รู้จักปิยบุตร ไม่รู้จักใครเลยในกลุ่มอนาคตใหม่นี้ ผมได้ลองลงทะเบียนเป็นผู้สนใจสมัครสมาชิกพรรคเพื่อรับข้อมูลข่าวสารพรรคผ่านทางการลงทะเบียนออนไลน์
จากนั้นผมจึงเริ่มค้นหาข้อมูลของกลุ่มอนาคตใหม่นี้ ยิ่งค้นหายิ่งรู้สึกสนใจ ยิ่งอ่าน ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดพื้นฐานตรงกัน
ในตอนนั้นผมได้กรอกแบบสอบถามเพื่อเตรียมการรับสมัครสมาชิกของอนาคตใหม่โดยเขียนในช่องข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ผมพร้อมที่จะลงสมัครเป็นผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่
เมื่อเริ่มมีการรับสมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการ ผมจึงได้สมัครผ่านไปทางออนไลน์ซึ่งในเวลานั้นผมก็ยังไม่เคยได้เจอธนาธร ปิยบุตร หรือ พรรณิกา เลยครับ เป็นการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแรกในชีวิตของผม แถมด้วยสมัครสมาชิกตลอดชีพด้วยครับ เป็นการสมัครด้วยอุดมการณ์และอยากทำงานเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคม
เมื่อผมได้เข้ามาทำงานในพรรค ได้มาพบเจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมายที่ต่างก็มีที่มาหลากหลายซึ่งล้วนต้องการเข้ามาทำงานผลักดันประเด็นเฉพาะในความถนัดและสนใจของแต่ละคน จะสังเกตว่าเวลาแต่ละคนลุกขึ้นมาอภิปรายในสภานั้นมีการพูดตามข้อมูลหลักการทางวิชาการที่ถูกต้อง มีข้อมูลตัวเลขที่ถูกต้องมานำเสนอ และประสบการณ์จากการทำงานจริงกับประชาชน ซึ่งสิ่งที่เราทำนี้คือความตั้งใจแต่แรกของพวกเราที่จะยกระดับการทำงานในสภาของนักการเมืองไทย ให้ประชาชนเปลี่ยนภาพจำเดิมที่มีต่อนักการเมือง
***ในวันนี้ที่พรรคอนาคตใหม่ต้องถูกพูดปลุกปั่นว่ามีโอกาสถูกยุบพรรคเพราะกรณีกู้เงินธนาธรมา ผมรู้สึกหดหู่กับสังคมไทยที่การทำอะไรตรงไปตรงมา โปร่งใส เปิดเผยกลายเป็นความผิด ในขณะที่กับบางพรรคการเมืองมีการใช้จ่ายเงินมากมายมหาศาลแต่ไม่มีการสืบสวนใดๆ ว่ารับเงินมาจากไหน ก็น่าคิดที่ว่าการพยายามทำให้ถูกกฏหมาย พยายามเล่นในกติกาเป็นเรื่องยากมากๆ ในสังคมไทย
สังคมที่การทำถูกนั้นทำได้ยากกว่าการทำผิดแล้วใช้กลวิธีทางกฏหมายและอำนาจปกปิดความผิดไว้***
พรรคอนาคตใหม่ออกแบบมาให้คนธรรมดาอย่างผม ไม่ได้เติบโตมาจากตระกูลการเมือง ไม่ได้เกิดในตระกูลร่ำรวยระดับเจ้าสัว กล้าที่จะออกจากมุมสบายในชีวิต มาทำงานการเมืองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง
สำหรับการทำงานในพรรคอนาคตใหม่ เรากล้าที่จะพูดคุยถกเถียงกับแกนนำพรรค หัวหน้าพรรคด้วยเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาเพราะผมและเพื่อนอีกหลายคนถือว่าเรามาทำงาน ไม่ได้มาเป็นลูกน้องคอยเดินตามใคร เหมือนที่ธนาธร และ ปิยบุตร ชอบพูดว่าเขาเห็น ส.ส. ในพรรคอนาคตใหม่เป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างในตัวเอง
ลองมองไปรอบๆ สิครับ ว่ามีพรรคการเมืองไหนเป็นแบบนี้บ้าง เป็นพรรคที่ทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าพรรคอนาคตใหม่จึงให้ความสำคัญกับสมาชิกและการระดมทุนรูปแบบต่างๆ
การทำงานพรรคการเมืองมีค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายประจำสำนักงานที่มีสาขาทั่วประเทศซึ่งต้องใช้เงินมากมายในแต่ละเดือน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าพรรคการเมืองอื่นเอาเงินมาจากไหนไปใช้จ่ายกัน
อย่างโต๊ะจีนระดมทุนที่มีชื่อผู้ซื้อโต๊ะเป็นหน่วยงานราชการซึ่งถือว่าผิดชัดเจนก็เห็นปล่อยให้เงียบไป
ที่ผ่านมาประเทศไทยเราทำเรื่องที่ผิดปกติมากๆ อย่างการยุบพรรคการเมืองให้กลายเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับที่เราชาชินกับรัฐประหารจนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่เป็นเรื่องที่ผิดอย่างรายแรง
อยากให้วังวนของการเมืองแบบเดิมหยุดที่รุ่นเราแล้วสร้างสังคมแห่งอนาคตให้ลูกหลานของเราต่อไป ในตอนนี้ผู้แทนราษฎรอนาคตใหม่กำลังเร่งสร้างผลงานผ่านสภาและกรรมาธิการต่างๆ แต่กลับมีเรื่องรบกวนจิตใจด้วยข่าวเชิงลบต่อพรรคมากมาย
ต้องยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้สร้างความรำคาญและรบกวนจิตใจผมบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้มาเปลี่ยนความตั้งใจในการทำงานของผมไปจากเดิม
เมื่อวันนั้นผมตัดสินใจถอดเสื้อกาวน์มาสู่สนามการเมือง ผมก็คิดเหมือนกับทุกงานที่ผมเคยทำผ่านมา คือ ต้องทำเรื่องที่ดีให้คนจดจำและพูดถึงผลงานของผมต่อไปได้แม้ในวันที่ผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วก็ตาม
ผมบอกได้เลยว่าเมื่อตัดสินใจก้าวมาทำงานการเมืองในสภาวะการณ์แบบนี้ เราต่างทำใจว่าต้องทำงานกันยาวๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีถอยแน่นอน
พรรคอนาคตใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งหรือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นพรรคที่ไม่มีนายทุนแต่เป็นพรรคของมวลชน พรรคที่เชื่อในความเท่าเทียมกันของคน
คุณไม่มีทางจะทำให้โลกหมุนกลับได้ คุณไม่มีทางจะทำให้เวลาเดินถอยหลังได้...ดังนั้นคุณไม่มีทางที่จะยับยั้งการก้าวไปสู่อนาคตใหม่ได้...".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |