23 ก.ย.62- พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวเองเสียชีวติหลายรายใช่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ฝากความเสียใจไปถึงครอบครัวรวมถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจด้วย ขณะนี้มีอัตราพนักงานสอบสวนทั่วประเทศประมาณ 17,500 ราย แบ่งเป็นพนักงานสอบสวนชาย 11,000 พนักงานสอบสวนหญิง 550ราย และยังมีตำแหน่งที่ว่างอยู่อีก 5,900 ราย ซึ่งการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องของงานล้นมือ การแต่งตั้งผิดฝั่งผิดฝาหรือความไม่ชำนาญงาน ผบ.ตร.ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร.ให้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมกำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด 3 มิติ 

โดย 1.เรื่องการแต่งตั้งที่จะมาถึงคือ รอง ผบก.-สว. ให้หลักการไม่ใช่เฉพาะงานสอบสวน การแต่งตั้งโยกย้ายเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมที่ประสงค์ย้ายไปภูมิลำเนาหรือขอย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ตัวเองคิดว่าถนัด สามารถทำเรื่องสมัครใจในการโยกย้ายเพื่อพิจาณา แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ขอมาจะได้หมดทุกคน ผู้ที่มีหน้าที่แต่งตั้งต้องไปดูอัตราที่มีความเหมาะสม 2.สำรวจผู้มีคุณวุฒิสามารถไปดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนได้ ทั้งจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้มีปริญญาตรีทางกฎหมาย ทั้งกฎหมายอาญา กฎหมายลักษณะพยาน หรือผู้มีคุณวุฒิเทียบเท่า และ3.การเพิ่มเจ้าหน้าที่ธุรการทางคดีหรือผู้ช่วยพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเงินเพิ่มตำแหน่งงานสอบสวน ให้ตามพึงมีพึงได้ ระดับ รองสารวัตร รับเงินเพิ่ม 12,000 บาท ,สารวัตร 14,000 บาท  ,รอง ผกก.17,300 บาท, ผกก.20,800 บาท รอง ผบก.หรือเทียบเท่า 25,000 บาท  ผบ.ตร.พยายามเจียดเงินงบประมาณพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้

รองโฆษก ตร.เผยว่า ช่วงระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายประมาณเดือนละ 1 ราย แต่บางกรณีสาเหตุการฆ่าตัวตายอาจจะไม่ใช่สาเหตุมาจากกการปฏิบัติหน้าที่สายสอบสวน เพราะถ้าไปดูภูมิหลังของแต่ละคนไม่ใช่งานสอบสวนเป็นหลัก หลายๆคนผ่านงานสอบสวนมาแล้วไม่ได้แย่อย่างที่คิด ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเวลา บางรายมีโรคประจำตัว  ปัญหาส่วนตัว ทำให้เหมารวมมาจากทำงานหน้าที่สายสอบสวน ส่วนการแต่งตั้งผู้ที่ขอโยกย้ายจากงานสอบสวนแต่ไม่สมหวัง ต้องยอมรับว่าผู้ทำหน้าที่ไม่สามารถตอบสนองได้ทุกราย การแต่งตั้งต้องมองภาพรวม ในองค์กรขนาดใหญ่คงไม่สามารถตอบสนองได้ทั้งหมด

ถามว่าที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้เพราะมีการยุบงานสอบสวนใช่หรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ ตอบว่า การขยายงานสายหนึ่งไปยุบงานสายหนึ่งเป็นเรื่องของนโยบายการบริหารงานของผู้บังคับบัญชาในขณะนั้น คงมีการกลั่นกรองพอสมควรแล้ว จึงตกผลึกสมัยใด ยุคใด ห้วงใดจะมีคสามเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องปกติ ตนจบมาปี 2538 เห็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องงานสอบสวน งานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวน ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงมาก  เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราคงไม่สามารถที่จะทำงานตามที่เราต้องการได้อย่างเดียว

“เรื่องงานสอบสวนฝากว่าต้องอดใจรอ คงจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการแต่งตั้งที่เชื่อว่าจะตอบโจทย์ไม่เฉพาะงานสอบสวน แต่เป็นภาพรวม เพราะผบ.ตร.เล็งเห็นปัญหาตรงนี้จึงอยากจะมาแก้ไขปัญหาตรงนี้“