พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บินลัดฟ้าข้ามทวีปไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ (United Nations General Assembly – UNGA) ครั้งที่ 74 และเข้าร่วมการประชุมสำคัญที่เกี่ยวเนื่อง ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 21-27 กันยายน ฝ่ายความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ที่คาดว่าต้องมีแน่ๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นการรวมกลุ่มของแก๊งล้มล้างสถาบัน นำโดยผู้ลี้ภัยชื่อ "สุนัย จุลพงศธร" อดีต ส.ส.เพื่อไทย นั่นเอง ...๐

      ฝ่ายความมั่นคงติดตามความเคลื่อนไหวทางเว็บไซต์และเฟซบุ๊กของกลุ่มคนเสื้อแดงในสหรัฐ รวมไปถึงสื่อสังคมออนไลน์ที่สนับสนุน "ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ" พบว่ามีการนัดหมายปลุกระดมมาเป็นระยะแล้ว โดย "สุนัย จุลพงศธร" พร้อมทำป้ายโฆษณาบนอาคารร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนน 45th Street ตัดกับถนน 2nd Ave บนเกาะแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก ใกล้กับที่ทำการสหประชาชาติ แสดงข้อความ “UNITED NATION GENARAL ASSEMBY : DON’T LET DEMOCRACY DIE IN THAILAND!” ซึ่งแปลว่า “การประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ : อย่าปล่อยให้ประชาธิปไตยตายในประเทศไทย” งานนี้ลงทุนสูงลิ่ว อย่างที่รู้กันอยู่ ป้ายโฆษณาในนิวยอร์กแพงที่สุดในโลก แต่ไม่ใช่เงิน "สุนัย จุลพงศธร" และพวก ใครควักเงินให้เดาได้ไม่ยาก ...๐

      เหมือนได้ใจ "สุทิน คลังแสง" ประธานวิปฝ่ายค้าน อ้างผลสำรวจจากสื่อฝั่งตรงข้ามรัฐบาล มีแม่ของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ถือหุ่นใหญ่ ว่าประชาชนถึง 95% ต้องการให้ฝ่ายค้านซักฟอก "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ประเด็นกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบต่อไป นี่คือเกมการเมืองที่ฝ่ายค้านเตรียมไว้นอกจากยื่นสอบจริยธรรม แต่ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยยุคนี้ขาดมันสมองทางการเมือง  และดูเหมือนว่ารัฐบาลจับทางได้ และคงปล่อยให้ฝ่ายค้านติดกับดักปมถวายสัตย์ฯ ต่อไป ระยะยาวแทนที่จะเกิดผลเสียกับรัฐบาล กลับกลายเป็นฝ่ายค้านเสียเองที่ย่ำอยู่กับที่ ไม่ต่างกับหมาไล่งับเงาตัวเอง นี่ยังไม่นับประเด็นกระเหี้ยนกระหือรือจะแก้รัฐธรรมนูญ ...๐

      หากฝ่ายค้านไม่เชื่อ ลองดูผลสำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “จะเรียกร้องอะไรจากนายกรัฐมนตรี” พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.95 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขความเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ รองลงมา ร้อยละ 15.80 ระบุว่า ไม่เรียกร้องอะไรเลย ร้อยละ 13.35 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากภัยทางธรรมชาติ ร้อยละ 4.35 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติด ร้อยละ 3.63 ระบุว่า ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 3.55 ระบุว่า อยากให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 2.92 ระบุว่า ขอให้รัฐแจกเงินเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ร้อยละ 2.29 ระบุว่า แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร ขอให้ช่วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร้อยละ 1.50 เห็นหรือยังว่าประชาชนต้องการอะไร ...๐

      นับวัน "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" กลายเป็นนักการเมืองยุคไดโนเสาร์เข้าไปทุกที ประเด็นงบทหาร งบน้ำท่วม หากจะแยกแยะ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด งบกลางของรัฐบาลยังมี แต่เงินยังออกไม่ได้ เพราะต้องมีความชัดเจนในความเสียหายเสียก่อน รวมทั้งการจ่ายเงินต้องอ้างอิงฐานข้อมูลที่ชัดเจน ไม่งั้นคนนำงบประมาณออกมาติดคุกเอาง่ายๆ ...๐

      ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ให้ย้อนกลับไปเมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 วิกฤติเอาอยู่ของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ทำน้ำท่วมภาคกลางรวมทั้ง กทม. 3 เดือนเต็ม  ใครที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลคงจะจำได้ดีว่า ได้รับเงินตอนไหนและขั้นตอนเป็นอย่างไร นอกจากข้างกล่องจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย ภาคเอกชน องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นแล้ว เงินจากรัฐบาลที่ลงมาเต็มๆ คือหลังน้ำลด เป็นเงินฟื้นฟูที่อยู่อาศัย เรือกสวนไร่นา ฯลฯ ผู้ได้รับผลกระทบต้องกรอกข้อมูล ก่อนรับเงินที่ อบต. อำเภอ แล้วแต่จะกำหนด นั่นคือการดำเนินการตามกฎหมายและฐานข้อมูล  ดังนั้น กรณีอุบลราชธานี จะให้รัฐบาลขนเงินไปแจกเป็นฟ่อนๆ รับประกันได้เลยมีคนติดคุกแน่ ...๐

      ว่าแต่..."ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เอาตัวให้รอดจากปากตัวเองให้ได้เสียก่อน เพราะปมเงินบริจาคให้พรรคอนาคตใหม่ มีแนวโน้มถึงขั้นยุบพรรคเลยทีเดียว ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นหลายอย่าง เช่น ความไม่ตรงไปตรงมา พูดจาโกหกมดเท็จ ที่สำคัญสุดคือสะท้อนให้เห็นว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ต่างไปจากพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็นระบบนายทุนพรรค มีหลงจู๊คอยออกคำสั่ง เพราะเป็นเจ้าของเงิน และนี่คือพรรคการเมืองที่คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นอนาคตใหม่ของประเทศไทย ...๐