โค้งสุดท้ายคดีลัลลาเบล ผบก.น.8 แย้มอาทิตย์นี้คาดออกหมายจับผู้ที่ทำให้พริตตี้สาวเสียชีวิต ส่งสมาร์ทวอตช์ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาเวลาตาย พร้อมสอบ รปภ.ที่พูดคุยกับผู้ต้องสงสัย พ่อแม่ แฟนผู้ตายก็ให้ปากคำอีกครั้ง เจ้าของบ้านจัดปาร์ตี้ยันเจ้าของนาฬิกาสายทองคือน้ำอุ่น ใส่มาร่วมงานแล้วสายหลุด จึงหยิบนาฬิกาเรือนดำมาใส่แทน
ที่ สน.บุคคโล เวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายนนี้ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการนครบาล 8 (ผบก.น.8) พร้อม พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์, พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.สน.บุคคโล ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือ “ลัลลาเบล” พริตตี้สาว โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จึงเสร็จสิ้น
พล.ต.ต.สัมฤทธิ์เปิดเผยว่า ในการสอบปากคำพยานที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้เรียกมาสอบสวนจนครบทุกคนแล้ว ส่วนวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญพยานแวดล้อม คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในคอนโดฯ ที่ น.ส.ธิติมานอนเสียชีวิตในล็อบบี้ และบุคคลที่อยู่ภายในลิฟต์ ซึ่งได้สนทนากับนายน้ำอุ่น หรือนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร โดยนายรัชเดชระบุว่า "เป็นแฟนกัน จะพาไปที่ห้อง" ทั้งนี้ การสอบสวนค่อนข้างคืบหน้าไปมาก เนื่องจากได้รับความร่วมมือกับพยานแวดล้อมที่อยู่ในบ้านที่จัดปาร์ตี้เพิ่มมากขึ้น
ส่วนกรณีมีภาพคลิปวงจรปิดชายใส่นาฬิกาสายสีทองลูบหัวลัลลาเบล ผบก.น.8กล่าวว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งภาพไปให้ ปอท.ตรวจสอบ ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อใด และบุคคลในภาพเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นเรื่องเวลาการเสียชีวิตของลัลลาเบล โดยโพสต์ภาพจากวงจรปิดนาทีนายรัชเดชลากร่างลัลลาเบลไปกับพื้นคอนโดฯ แล้ววงกลมตรงข้อมือซ้ายของลัลลาเบลพร้อมแคปชั่นว่า "เป็น Smart Watch หรือเปล่า อยากรู้เสียชีวิตตอนไหน ให้ไปดูการจับ Heart Rate จากนาฬิกาสมาร์ทวอตช์ได้" พล.ต.ต.สัมฤทธิ์กล่าวว่า นาฬิกาดังกล่าวเป็นเครื่องวัดการเต้นของหัวใจ ความดัน รวมถึงการนับก้าว ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าทางการแพทย์แล้วมีความเชื่อถือหรือไม่ สามารถระบุว่าเป็นเครื่องมือทางการแพทย์หรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ หากผลตรวจออกมาก็จะช่วยเป็นข้อมูลสนับสนุนเหตุหรือพฤติการณ์ได้
ถามว่ามีกระแสข่าวผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของลัลลาเบลสูงถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์กล่าวว่า ในทางการแพทย์ หากร่างกายได้รับแอลกอฮอล์สูง 350-400 มิลลิกรัม จะส่งผลไปกดทับระบบการหายใจของบุคคลที่ได้รับสารนั้นได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างเป็นทางการก่อน
พล.ต.ต.สัมฤทธิ์กล่าวอีกว่า หากมีประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนก็สามารถเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติมได้ ขณะนี้พยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาใคร ต้องมีความรอบคอบในการพิจารณาข้อหา และต้องหาข้อพิสูจน์ก่อนให้ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้ลัลลาเบลเสียชีวิต ซึ่งกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
“ยังไม่ยืนยันว่าคดีนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหามากกว่า 1 คนหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาความผิดหลายบทหลายกรรม แต่ยืนยันว่าคดีนี้มีคนผิดแน่นอน คาดว่าจะออกหมายจับได้เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้” ผบก.น.8 กล่าว
มีรายงานว่า นาฬิกาสีชมพูที่ลัลลาเบลสวมอยู่นั้น เป็นนาฬิกาสมาร์ทวอตช์ยี่ห้อซัมซุง ขณะนี้มีการส่งไปตรวจสอบทางเทคนิคที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) โดยในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เจ้าหน้าที่จะรายงานผลให้คณะทำงานทราบ และจะมีการพิจารณาว่าจะนำไปใช้ประกอบสำนวนคดีได้มากน้อยเพียงใด
ส่วนผลทางนิติวิทยาศาสตร์ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรายงานผลอย่างเป็นทางการ แต่คณะทำงานก็คาดหมายว่าจะออกมาภายในอาทิตย์นี้ จากนั้นจะมีการพิจารณาออกหมายจับผู้ต้องสงสัย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า สัปดาห์นี้คงมีข่าวดี เชื่อว่าจะมีการแจ้งข้อหากล่าวหากับขบวนการเหล่านี้ได้ แก๊งนี้มีการทำหลายคน ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยที่อยู่ สน.บุคคโล เพียงคนเดียว มีหลักฐานปรากฏหลายอย่าง ตั้งแต่การจัดหาสาวพริตตี้มาที่บางบัวทอง และมีการมอมเหล้า ฟันสาวพริตตี้ที่อยู่ในงาน
"สิ่งที่เรากำลังสื่อความหมายเรื่องนาฬิกา เราต้องการสื่อให้เห็นว่า นอกจากน้ำอุ่นแล้ว ยังมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้ ส่วนนาฬิกาเป็นของคนที่อยู่ในกลุ่มที่บางบัวทอง เป็นผู้ชายที่ใส่นาฬิกาเรือนทอง (ที่ลูบหน้าลัลลาเบล) เรามีภาพที่อยู่ใน สน.บุคคโล มีการเปรียบเทียบว่าใครเป็นเจ้าของนาฬิกา คดีนี้มีผู้ต้องหาเชื่อว่ามากกว่า 1 คนที่ต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน" นายอัจฉริยะระบุ
นายชัยพล พรรณา เจ้าของบ้านที่จัดงานปาร์ตี้ กล่าวว่า คนที่ลูบไล้ใบหน้าลัลลาเบลในคลิปคือน้ำอุ่น โดยตอนแรกน้ำอุ่นใส่นาฬิกาตัวเรือนโลหะสายสีทอง แต่ตอนอยู่ในงานสายนาฬิกาเกิดหลุด ทำให้น้ำอุ่นหยิบนาฬิกาในกระเป๋าอีกเรือนขึ้นมาใส่แทน เป็นตัวเรือนสีดำ
ช่วงเย็น นายชวลิต นรพันธ์พิพัฒน์ และนางศุภมาส นรพันธ์พิพัฒน์ พ่อแม่ น.ส.ธิติมา และนายนายณัฐนัย หอมเทียนทอง แฟนหนุ่ม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล เพื่อให้ปากคำอีกครั้ง
มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีพยายามรวบรวมฎีกาคดีสำคัญๆ ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และขอคำปรึกษากับอาจารย์ด้านกฎหมายแล้ว สรุปได้ว่า แนวทางการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีนี้ เบื้องต้นควรจะเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิตไว้ก่อน โดยพิจารณาตามคำพิพากษาฎีกาที่ 16412/2555 คดีที่จำเลยได้ขี่รถจักรยานยนต์พาสาวคนรักซ้อนท้ายไปเกิดอุบัติเหตุ โดยสาวคนรักตกจากรถได้รับอันตรายหมดสติ ขณะที่จำเลยแทนที่จะช่วยเหลือกลับหลบหนีไป ทิ้งสาวคนรักสลบอยู่ถึง 8 วัน ไม่แจ้งให้มารดาของแฟนสาวทราบ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นหน้าที่อันเกิดจากการกระทำครั้งก่อนของจำเลยเอง ที่พาสาวคนรักมาเที่ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุ ถือว่า “เกิดหน้าที่ต้องช่วย ต้องดูแลสาวคนรัก ถ้าไม่ช่วยถือเป็นการงดเว้น”
คดีนี้ศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยเล็งเห็นผล เพราะการงดเว้นไม่ให้ความช่วยเหลือสาวคนรัก อาจทำให้มีอันตรายถึงแก่ความตายได้ เมื่อสาวคนรักไม่ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 และมาตรา 59 วรรคท้าย
ส่วนเฟซบุ๊กของผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนาวุฒิ วงศ์อนันต์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ความคิดเห็นเกี่ยวกับ “การฆ่าโดยงดเว้น” โดยใจความส่วนหนึ่งให้ความรู้ว่า บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญาก็ต่อเมื่อกระทำโดยเจตนา เมื่อบุคคลนั้นมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ผลนั้นเกิด แต่งดเว้นการที่จักป้องกันผลนั้นด้วย ตามมาตรา 59 วรรคท้าย หน้าที่ป้องกันไม่ให้ผลนั้นเกิดมีหลายกรณีเช่น 1.หน้าที่โดยผลของกฎหมาย เช่น บิดามารดาต้องเลี้ยงดูบุตร 2.หน้าที่ตามสัญญา เช่น การว่าจ้างบอดี้การ์ดส่วนตัวมาคุ้มครองเรา 3.หน้าที่อันเกิดจากการกระทำครั้งก่อนๆ ของตนเอง เช่น คำพิพากษาฎีกาที่ 16412/2555 คดีที่ยกตัวอย่างข้างต้น และ 4.หน้าที่เกิดจากความสัมพันธ์พิเศษเฉพาะเรื่อง เช่น ชายหญิงที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย ก็มีหน้าที่ต้องดูแลกัน
ดังนั้น พนักงานสอบสวนในคดีนี้ ขณะนี้จึงเห็นพ้องกับคำพิพากษาฎีกาที่ 16412/2555 และความคิดเห็นของ ผศ.ธนาวุฒิ ในส่วนเจตนาของผู้ต้องสงสัยคดีลัลลาเบล คือกรณีเจอสาวในผับหรือสถานที่ใด และเกิดความชอบพอกันพากันไปต่อยังสถานที่อื่นใดก็ตาม จนเกิดเหตุการณ์ขึ้นดังกล่าว การเสียชีวิตของลัลลาเบลนี้น่าจะเข้าข่ายหน้าที่การกระทำครั้งก่อนๆ ของผู้ต้องสงสัย ที่ผู้ต้องสงสัยได้อุ้มร่างของพริตตี้ผู้ตายออกจากบ้านที่มีการจัดงานปาร์ตี้ มีการพาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ลากขึ้นลิฟต์เข้าไปในห้องพักที่คอนโดมิเนียมหลายชั่วโมง ก่อนจะแบกร่างลงลิฟต์มาไว้บนโซฟาที่ล็อบบี้ เมื่อผู้ต้องสงสัยพามาควรมีหน้าที่ต้องดูแล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อป้องกันไม่ให้ผลนั้นเกิด แต่กรณีนี้ผู้ต้องสงสัยงดเว้นหน้าที่ของตนเองจนเกิดการเสียชีวิต จึงเห็นควรตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดเอาไว้ก่อน ก่อนที่จะตรวจสอบพยานหลักฐานชิ้นอื่นๆ เพื่อแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้ในภายหลัง
วันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง พริตตี้ลัลลาเบล กับปัญหาสังคม พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.2 ระบุภาพสะท้อนสังคมไทยจากกรณีพริตตี้ลัลลาเบล คือ คนไม่มีคุณธรรม รองลงมาร้อยละ 47.7 ระบุ ความปลอดภัยต่ำ ร้อยละ 41.5 ระบุ สังคมเน่า เสื่อม ร้อยละ 24.3 ระบุ คนตกเป็นทาสเงินตรา ค่าครองชีพ และร้อยละ 15.3 ระบุ คนในสังคมไม่ช่วยกันดูแล ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 ระบุ อาชีพพริตตี้ไม่ใช่อาชีพที่น่ารังเกียจ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.3 ระบุ เป็นอาชีพที่หาเงินได้มาก
อย่างไรก็ตาม เกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.0 ระบุ อาชีพพริตตี้ ยอมเสี่ยงเสียตัวเพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |