"บิ๊กจิ๋ว" โผล่อบรมวิชารัฐธรรมนูญ ลั่นต้องเลือกตั้งนายอำเภอยันผู้ว่าราชการจังหวัด ชี้เปรี้ยง! รัฐธรรมนูญไม่ใช่สร้างประเทศไทย ต้องสร้างประชาธิปไตยเสียก่อนจึงมาเขียนรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เอารัฐธรรมนูญมาเป็นตัวสร้าง เตือนพวกเอาแต่จะแก้รธน. รบกันตาย เสร็จแล้วตายเปล่าไม่ได้อะไร ขณะที่ "ธนาธร" ทุบโต๊ะ End game ตั้ง ส.ส.ร.
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ณ ห้องประชุมนาคราช ชั้น 1 อาคารศรีโคตรบูรณ์ วิทยาลัยท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้จัดกิจกรรมบริการวิชาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดนครพนม โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้ให้เกียรติมาบรรยายพิเศษเรื่อง "ความท้าทายในการพัฒนาอย่างบูรณาการ" โดยมีกรรมการสภาฯ คณบดี ผู้อำนวยการ ม.นครพนม และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน องค์กรอิสระ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้
ในการบรรยาย พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า การเมืองในปัจจุบัน อาทิ การทำงานเพื่อประชาชน ต้องทำโดยประชาชน เรียกว่าการปกครองด้วยระบบประชาธิปไตย แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น ทุกคนบอกปีหน้าก็เลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้นร่างรัฐธรรมนูญก็ร่างกันมาแล้ว ไม่เบื่อบ้างหรือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบแล้วตอบอีก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ คนหัวกะทิร่างแล้วร่างอีก เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องหาคำตอบให้ได้ ถ้าทำงานโดยประชาชนต้องเพื่อประชาชนจริงๆ
"เมื่อ 20 ปีก่อนผมตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นมา เพื่อพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านตำบลนั้นได้เลือกหัวหน้าของตนเองคือนายก อบต. และ อบต.ที่ผมตั้งมาเมื่อ 30 กว่าปีนั้น ก็มีปัญหากับท่านนายกฯ ชวน ก็เพราะท่านนายกฯ ชวนต้องการให้ล้มกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผมไม่ให้ล้ม เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านคือการปกครองส่วนท้องถิ่น คนละเรื่องกับ อบต. ผมต้องการให้คานอำนาจกัน ผมตั้ง อบต.ขึ้นเพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนเลือก อบต.ของผม แล้ว อบต.ก็มาเลือกนายอำเภอ ไม่ใช่เลือกจากคุณป๊อก (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย) ที่อยู่มหาดไทย บางคนอยู่เชียงใหม่ไปอยู่อีสาน คนอีสานไปอยู่ภาคกลาง แล้วมันจะไปรู้อะไร"
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เราต้องเลือกจากข้างล่าง พอมีนายอำเภอแล้ว นายอำเภอก็มาเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯ จนถึง อบต.มาจากข้างล่าง มันรู้กันหมด ไม่ต้องมาถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ เข้าใจกันหมด รู้จักกันหมด ประเทศไทยมี 4 ภาค ภาคใต้มี 14 จังหวัด มีผู้ว่าฯ 14 คน ก็มาเลือกผู้ว่าราชการภาค อีสานมี 20 จังหวัด มีผู้ว่าฯ ทั้งหมด 20 คน ก็มาเลือกผู้ว่าการภาคฯ ก็มีแค่ 4 คน ใน 4 คนนี่ก็มารวมกัน ตั้งเป็นรัฐมนตรีในส่วนกลาง มี รมต.มหาดไทยภาคนั้น รมต.กลาโหมภาคนี้
อดีตนายกฯ กล่าวว่า บางคนคิดว่ารัฐธรรมนูญสร้างประชาธิปไตย นั่นคือกฎหมายสูงสุด กฎหมายต้องเกิดหลังเหตุ หลังเหตุหมายความว่าเรามีคนปลูกกัญชา ก็แก้ไขให้ถูกต้อง รัฐธรรมนูญไม่ใช่สร้างประเทศไทย ต้องสร้างประชาธิปไตยเสียก่อน จึงมาเขียนรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เอารัฐธรรมนูญมาเป็นตัวสร้าง
รบกันตายเปล่า
"พูดกันอยู่นั่นแหละ เราลองฟังดูสิครับ ในทีวีเราต้องแก้ไข แก้ไขเพื่อเป็นประชาธิปไตย รบกันตาย เสร็จแล้วตายเปล่าไม่ได้อะไร เพราะถ้ายังไม่สร้างประชาธิปไตย แล้วสร้างยังไง ยกตัวอย่างอเมริกามีแค่สองพรรค และแต่ละพรรคมีนโยบายที่เหมือนกันคือมุ่งต่อประชาชน นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้พี่น้องทุกคนรับทราบ เรามาช่วยกันแก้ไขในสิ่งนี้ ท่านเห็นจีนเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ แต่ไม่ใช่เผด็จการทั้งหมด เขาแบ่งเป็นแคว้น เช่น เซี่ยงไฮ้ เฉินตู กวางเจา เซินเจิ้น ฯลฯ เขาปกครองตัวเอง ประเทศอเมริกามี 30-40 มลรัฐ เขาก็ปกครองตัวเอง แต่ขึ้นกับส่วนกลาง แม้แตกต่างกัน แต่ความเป็นจริงเพื่อประชาชน มีแต่เราเท่านั้นเพราะไม่เข้าใจประชาธิปไตย”
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ประเทศหนึ่งประเทศใดก็แล้วแต่จะมี 4 เรื่องหลัก คือ 1.การเมืองการปกครอง 2.เศรษฐกิจ 3.สังคม 4.ความมั่นคง ทั้ง 4 เสาหลัก เสาที่มีความทนทานสูงสุดคือเสาเรื่องการเมืองการปกครอง ถ้าการเมืองการปกครองไม่ดี อำนาจไม่ได้เป็นของประชาชน ไม่มีทาง เละเทะหมด แล้วเราจะปกป้องรัฐประหารอย่างไร ผมว่าคุณตู่คุณป้อมคงไม่โกรธผมนะ ที่พูดนี่เราไม่ได้ให้ไปรบกัน เรามีแต่สร้างสรรค์ ฉะนั้นการเมืองการปกครองมันยังมีผลต่ออีก 3 หลัก ถ้าไม่ดีอีก 3 หลักมันก็ไม่ดี
ที่ที่ทำการชุมชนบ้านบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคได้ ส.ส.เข้าสภาจำนวนมาก ว่า หลักใหญ่ใจความที่ทำให้ต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งฉบับ เป็นเพราะอำนาจไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่ออำนาจไม่ได้เป็นของประชาชน ทรัพยากรธรรมชาติก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อประชาชน
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทบกับจำนวน ส.ส.หรือไม่ นายธนาธรตอบว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมทำตามกฎกติกาที่ทุกฝ่ายเห็นร่วมกัน กฎกติกานั้นจะเป็นคุณหรือโทษที่ทำให้จำนวน ส.ส.มากขึ้นหรือน้อยลงไม่ใช่ปัญหา พรรคไม่ได้ตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อให้มีจำนวน ส.ส.เยอะๆ เราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ และเป็นประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศเท่าเทียม เป็นธรรม ดังนั้นเรื่องกฎกติกาการเลือกตั้งอะไรที่เป็นคุณ หรืออะไรที่ทำให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนองอย่างแท้จริง เรายอมรับหมด
ถามว่า หลังจากนี้ 7 พรรคฝ่ายค้านจะมีการพูดคุยการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลและการยื่นสอบจริยธรรม พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ตอบว่า เรื่องต่างๆ เหล่านี้พวกเราทั้ง 7 พรรคมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่จะมาเร็วที่สุดคือในช่วงกลางเดือน ต.ค. จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 หลังจากนั้นปลายปีจะมีการพูดถึงเรื่องจริยธรรมนักการเมืองและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ขณะนี้สิ่งที่เรามีข้อสรุปร่วมกันคือการทำกิจกรรมเรื่องการรณรงค์ให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นอย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็ทำอย่างต่อเนื่อง
"ทอน"แก้ทั้งฉบับ
เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายรัฐบาลก็เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ มีการประสานงานกันอย่างไรบ้าง นายธนาธรบอกว่า ดีใจที่มีหลายฝ่ายในรัฐบาลเข้ามาพูดถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่เรายืนยันคือการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
"ผมกลัวว่าจะถูกไฮแจ็กไปโดยฝ่ายรัฐบาลที่เข้าร่วมกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อบอกว่าให้แก้เพียง 2-3 มาตราแล้วจบ ซึ่งไม่ใช่ เราตั้งใจให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นสิ่งที่เรายืนยัน ดังนั้นฝ่ายรัฐบาลที่บอกว่าจะมาร่วมเป็นเพราะกลัวตกขบวนหรือไม่ เป็นเพราะกลัวว่าพี่น้องประชาชนจะครหาว่าไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงต้องถามฝ่ายรัฐบาลว่าเวลาพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญอะไรคือ End game เห็นอะไร มองอะไร มองเป็นรายมาตราหรือไม่ พวกเรา 7 พรรคฝ่ายค้านยืนยันว่า End game คือการมี ส.ส.ร. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน"
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ในสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐม นายธนาธร กล่าวว่า จ.นครปฐมเป็นพื้นที่ช่วงชิงที่สำคัญมาก ในสนามเลือกตั้งนี้มีสิทธิ์กำหนดอนาคตของประเทศ ขณะนี้เสียงของรัฐบาลและฝ่ายค้านปริ่มน้ำกันเต็มที่ ถ้ารอพรรคชนะเลือกตั้งในเขตนี้และเขต 2 จังหวัดกำแพงเพชร ฝ่ายประชาธิปไตยอาจจะพลิก จนนำมาสู่การเปลี่ยนดุลสมการทางการเมือง อนาคตของประเทศอยู่ในมือของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามพรรคอนาคตใหม่เสียเปรียบทุกสนามอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้กลัวการเสียเปรียบนั้น หากรู้ว่าเสียเปรียบแล้วไม่สู้ให้เต็มที่ ก็ไม่รู้จะตั้งพรรคการเมืองไปทำไม เราตั้งพรรคมาเพื่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เตรียมล่ารายชื่อ ส.ส.ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้เสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อยื่นต่อศาลฎีกาให้สอบจริยธรรม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเรื่องดังกล่าวทางพรรคฝ่ายค้านเพียงมีการพูดคุยกันในเบื้องต้น ยังไม่มีมติร่วมกัน คิดว่าสัปดาห์หน้าพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดจะได้หารือเพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันที่ชัดเจนออกมา ซึ่งแนวทางเป็นอย่างไรพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้อภิปรายไป 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านคงหารือกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 23 ก.ย. เพื่อดูข้อกฎหมายและกำหนดแนวทางการปฏิบัติ เพื่อตรวจสอบการทำหน้าที่นายกฯ ต่อไป เพราะสิ่งที่นายกฯ ชี้แจงในสภาไม่ได้ให้ความชัดเจนใดๆ กับสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณเลย ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของทุกโพลที่ชี้ว่านายกฯ ตอบไม่ตรงคำถาม และเมื่อมีมติออกมาอย่างไร ตนหรือสมาชิกของ 7 พรรคร่วมคงแถลงท่าทีที่ชัดเจนออกมา
โต้ข่าว 20 งูเห่าเพื่อไทย
เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยคิดย้ายขั้วกว่า 20 คน ว่ากระแสข่าวที่ออกมาคงเป็นการปล่อยข่าวของผู้ไม่หวังดีกับพรรคเพื่อไทย การที่สมาชิกอยู่กับพรรคเพื่อไทยจนถึงทุกวันนี้เพราะเรามีอุดมการณ์ตรงกัน ที่ผ่านมาการทำงานของพรรคเพื่อไทยมีความเข้มแข็ง เป็นเอกภาพ เรื่องดังกล่าวเป็นแค่การปล่อยข่าวของผู้ไม่หวังดี พอจะระแคะระคายว่ามีบุคคลระดับกรรมการบริหารพรรคใหญ่ของรัฐบาล มีความพยายามจะแทรกแซงการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีหน้าที่ทำงานตรวจสอบรัฐบาล หากเป็นเช่นนี้จริง ต้องถือว่าเป็นการดำเนินการที่ขาดสามันสำนึก และอาจเข้าข่ายการบ่อนทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
"หวังว่าสิ่งที่ได้ยินมาคงจะเป็นแค่ข่าวลือ และถ้ามีความพยายามเช่นนั้นจริง ก็ขอบอกได้เลยว่าความพยายามดังกล่าวย่อมเสียเปล่าอย่างแน่นอน เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรายึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตย คงไม่มีสมาชิกคนใดที่หวังเพียงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ประชาชนอย่างแน่นอน"
เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่อง ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปกินข่าวกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบว่า คงมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าคงไม่มีสมาชิกคนไหนที่จะยอมให้ผลประโยชน์มาอยู่เหนือความถูกต้อง
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ (ประธานวิป) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่แต่ละฝ่ายมีสิทธิที่ดำเนินการได้ เพราะในระบบประชาธิปไตยถือว่าทุกฝ่ายก็ต้องพร้อมตรวจสอบ ที่สำคัญที่สุดต่อประเด็นนี้ ที่ผ่านมาก็มีผู้อภิปรายอยู่แล้ว คือนายวันมูหะมัดนอร์ก็หยิบยกมาอภิปราย
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องทางการเมืองเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านก็ต้องพิจารณาเช่นเดียวกัน ว่าในช่วงปิดสมัยประชุมสภา และเพิ่งผ่านพ้นการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หากฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเดียว ก็จะทำให้เกิดปัญหากับประชาชนว่าฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากเกินไปหรือไม่ เพราะต้องให้โอกาสกับนายกฯ ที่จะได้บริหารราชการแผ่นดินในช่วงปิดสมัยประชุมสภา
นายชินวรณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรเสียในช่วงเปิดสมัยประชุมสภามา ฝ่ายค้านก็สามารถยื่นญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้วถ้ามีข้อมูล เพื่อที่จะให้ชาวบ้านได้ตัดสินใจว่าจะให้น้ำหนักกับฝ่ายใด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านต้องพิจารณา ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องที่ฝ่ายค้านจะสอบจริยธรรมนายกฯ หรือเรื่องที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมาหารือ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |