21 ก.ย.62 - พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคนอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ผ่านเฟชบุ๊กถึงรายละเอียดร่าง พรบ.รับราชการทหารใหม่ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ร่าง พรบ.รับราชการทหารใหม่ เราใช้รับสมัครตั้งแต่อายุ ๑๘ ปีเหมือนสหรัฐฯ ทำงานได้จนถึงผู้บังคับกองพันอายุไม่เกิน ๔๖ ปีบริบูรณ์ ยกเลิก รด. เพิ่มความเข้มข้นการฝึกให้เป็นมาตรฐานเดียว ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เรียนรู้ประชาธิปไตยและมีมาตรฐานการทำงานเหมือนประเทศที่ใช้แบบธรรมเนียมทหารแบบสากล เพิ่มสวัสดิการ เงินเดือน ทุนการศึกษาและทุนประกอบอาชีพเมื่อปลดให้อย่างพอเพียงที่จะยืนเคียงบ่า เคียงไหล่กับทหารต่างประเทศโดยเฉพาะตะวันตกได้
เราไม่อาจเขียนสิ่งที่ปรารถนาลงไปได้หมด ต้องรอปรับอีกครั้งหากได้เป็นรัฐบาล
ลองพิจารณาดูครับ
บันทึกหลักการและเหตุผล
ประกอบร่างพระราชบัญญัติรับราชการทหาร (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....
แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดให้บุคคลที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายมีสิทธิสมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ(แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๗ )
(๒) กำหนดให้การรับสมัครและการบรรจุบุคคลเป็นทหารกองประจำการ ให้บรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ โดยผู้ได้รับการบรรจุเป็นทหารกองประจำการมีกำหนดคราวละห้าปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง อายุของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งต้องไม่เกินสี่สิบปีบริบูรณ์ ทหารกองประจำการที่อยู่ครบกำหนดมีสิทธิสมัครเป็นทหารกองประจำการต่อได้อีกหนึ่งครั้ง ระยะเวลาไม่เกินห้าปี โดยครองชั้นยศได้ไม่เกินสิบโทกองประจำการ ทหารกองประจำการ เมื่อได้รับการแต่งตั้งครบห้าปีมีสิทธิสมัครแข่งขันเพื่อเป็นข้าราชการทหารชั้นประทวนและข้าราชการทหารชั้นสัญญาบัตรตามลำดับทุกห้าปี โดยครองชั้นยศสูงสุดได้ ไม่เกินพันโทและเกษียณอายุราชการเมื่ออายุครบสี่สิบหกปีบริบูรณ์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๘)
(๓) กำหนดให้ทหารกองประจำการได้รับเงินเดือน สวัสดิการ และในกรณีที่ปลดจากทหารกองประจำการ มีสิทธิได้รับการประกันชีวิต ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมถึงครอบครัวและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของทหารกองประจำการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่กรณีที่ทหารกองประจำการปลดประจำการก่อนครบกำหนดห้าปีอันเนื่องมาจากการลาออก ไล่ออก หรือเหตุอื่นใดอันไม่ได้เป็นผลจากการปฏิบัติหน้าที่จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว (เพิ่มมาตรา ๘ ทวิ)
(๔) กำหนดให้กรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นว่าอาจเกิดสงครามในระยะเวลาอันใกล้ ให้คณะรัฐมนตรี ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกระดมพลให้ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์เข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการ การเรียกระดมพลให้กำหนดระยะเวลาคราวละไม่เกินหนึ่งปี (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๙)
(๕) กำหนดให้วันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ให้นับแต่วันขึ้นทะเบียนกองประจำการโดยเมื่ออยู่ในกองประจำการจนครบกำหนดแล้ว และกำหนดรายละเอียดกรณีอยู่ในกองประจำการจนครบกำหนดแล้ว ได้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทใดบ้าง (เพิ่มมาตรา ๙ ทวิ)
(๖) กำหนดให้บุคคลซึ่งเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการต้องฝึกวิชาทหารเพื่อปฏิบัติราชการ หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมและระดมพล ในกรณีที่อาจเกิดสงครามและกำหนดให้บุคคลผู้เข้ารับราชการเป็นทหารประจำการ ห้ามมิให้ผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลอื่นใดนำไปให้ทหารกองประจำการทำงานในลักษณะที่เป็นงานรับใช้ส่วนตัว และกระทำการอื่นใดอันเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หากมีการไม่ปฏิบัติตามและผู้ฝ่าฝืนเป็นข้าราชการ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง (เพิ่มมาตรา ๙ ตรี)
(๗) กำหนดให้บุคคลที่มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย เมื่อมีอายุย่างเข้าสิบแปดปีในพุทธศักราชใด ให้ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในพุทธศักราชนั้น การลงบัญชีทหารกองเกินอาจทำได้ด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่สามารถจะไปลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะและพอจะเชื่อถือได้ไปแจ้งแทน ถ้าไม่มีผู้แจ้งแทนให้ถือว่าผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขืน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๖)
(๘) กำหนดให้แก้ไขชื่อหมวด ๔ และ หมวด ๕ เป็นดังนี้ หมวด ๔ การเรียกคนเข้ากองประจำการในกรณีที่มีการเรียกระดมพล และ หมวด ๕ การตรวจเลือกคนเข้ากองประจำการในกรณีที่มีการเรียกระดมพล
(๙) กำหนดให้เพิ่มหมวด ๕ ทวิ การคัดเลือกและบรรจุคนเป็นทหารกองประจำการ
(๑๐) กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการกองพล เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการการคัดเลือกและคณะกรรมการชั้นสูง และคณะกรรมการคัดเลือกมีหน้าที่กำหนดวิธีการการทดสอบ การทดสอบต้องประกอบด้วยการทดสอบทางร่างกายและวิชาการ ตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง (เพิ่มมาตรา ๓๗ ทวิ)
(๑๑) กำหนดให้ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในท้องที่แต่ละจังหวัด เพื่อทำการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เพิ่มมาตรา ๓๗ ตรี)
(๑๒) กำหนดให้ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่งตั้งคณะกรรมการชั้นสูงที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดขึ้นในท้องที่แต่ละจังหวัด โดยคณะกรรมการชั้นสูงมีอำนาจพิจารณาตัดสินกรณีที่มีคำร้องตามมาตรา ๓๗ ฉ หรือกรณีที่มีข้อขัดแย้งระหว่างกรรมการคัดเลือกซึ่งทำคำชี้แจงเสนอขึ้นมา ให้คำตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงให้เป็นที่สุด(เพิ่มมาตรา ๓๗ จัตวา)
(๑๓) กำหนดหน้าที่ให้นายอำเภอท้องที่ที่มีการตรวจเลือกปฏิบัติการในการทำหน้าที่คัดเลือกทหาร (เพิ่มมาตรา ๓๗ เบญจ)
(๑๔) กำหนดให้ผู้ที่สมัครคัดเลือกเข้ากองประจำการหากเห็นว่า คณะกรรมการคัดเลือกตัดสินไม่ถูกหรือไม่ยุติธรรม ก็ให้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงในท้องที่ได้ ในกรณียังเห็นว่าคำตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงไม่ถูกหรือไม่ยุติธรรมให้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงที่ได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๓๗ ทวิ วรรคหนึ่ง (เพิ่มมาตรา ๓๗ ฉ)
(๑๕) กำหนดให้บรรดาทหารกองประจำการที่รับราชการอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับให้รับราชการต่อไปจนกว่าจะครบกำหนดปลดประจำการตามพระราชบัญญัตินี้ (เพิ่มมาตรา ๕๐ ทวิ)
(๑๖) บรรดาทหารกองเกิน ทหารกองหนุน ประเภทต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับยังคงให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (เพิ่มมาตรา ๕๐ ตรี)
(๑๗) กำหนดให้บุคคลใดกระทำความผิดก่อนวันพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าไม่เคยกระทำความผิดถ้าถูกควบคุมตัวอยู่ระหว่างสอบสวนหรือถูกจำคุกให้ปล่อยตัวผู้นั้นไป (เพิ่มมาตรา ๕๐ จัตวา)
เป็นเพียงร่างเท่านั้น ยังต้องรับฟังเสียงประชาชนต่อไปครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |