พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและงานเลี้ยงรับรองข้าราชการตำรวจผู้เกษียนอายุราชการประจำปี 62 ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี ซึ่งปีนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกษียนอายุราชการหลายคน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.”  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม และข้าราชการตำรวจที่เกษียนอายุตั้งแต่ระดับ “พ.ต.อ” ขึ้นไปรวมกว่า 400 นาย ที่จะอำลาชีวิตข้าราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้

                ส่วนข้าราชการตำรวจระดับ “นายพล” ที่ได้รับการแต่งตั้งวาระประจำปี 62 เสร็จสิ้นเรียบร้อยทันกรอบเวลาครั้งแรกในรอบหลายปี และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ  จำนวน 317 นาย และพระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล ให้แก่ข้าราชการตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ราชการมาด้วยความเรียบร้อยเป็นผลดีแก่ทางราชการ จำนวน 125 นาย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 เป็นต้นไป

                โดยตำแหน่งที่สำคัญระดับบริหาร พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นรอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ จเรตำรวจ (สบ 8) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.

                ระดับกองบัญชาการ หรือ “ขุนทัพ” พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. เป็น ผบช.น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม จเรตำรวจ (สบ 8) เป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.พูลทัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.3 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบช.ภ.5 เป็น ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบช.ก. เป็น  ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบช.ภ.6 เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 เป็น ผบช.ทท.

                เช่นเดียวกันกับระดับกองบังคับการจังหวัดพบว่ามีการปรับเปลี่ยนถึง 61 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 76 ตำแหน่งทั่วประเทศ แต่ละกองบัญชาการ กองบังคับการปรับทัพใหม่เกือบทั้งหมด อาทิ “บช.ภ.1” พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ประจำ สพฐ.เป็น ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ “บช.ภ.2” พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เป็น ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เสถียร บุญค้ำ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็น ผบก.ภ.จว.จันทบุรี

                “บช.ภ.3” พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ เป็น ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เป็น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา “บช.ภ.4” พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี  ข้ามเป็น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี “บช.ภ.5” พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 เป็น ผบก.ภ.จว.แพร่ พ.ต.อ.นฤชิต เนียวกุล รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา เป็น ผบก.ภ.จว.ลำปาง “บช.ภ.6” พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.สส.ภ.6 เป็น ผบก.ภ.จว.ตาก พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผบก.กองโยธาธิการ เป็น ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ “บช.ภ.7” พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น. 7 เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม  “บช.ภ.8” พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรา ผบก.ภ.จว.พังงา เป็น ผบก.ภ.จว.ชุมพร พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ขยับเป็น ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี “บช.ภ.9” พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.พฐก. เป็น ผบก.ภ.จว.สงขลา พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.ยะลา เป็น ผบก.ภ.จว.พัทลุง

                การแต่งตั้งวาระ “นายพล” เพิ่งเสร็จไปหมาดๆ ก็เข้าสู่ฤดูการแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ตำแหน่งสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ที่ตามกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจต้องให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งจะเป็นผู้ปฏิบัติเป็นมือเป็นไม้ทำงานให้แต่ละหน่วยงาน พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.กพ.) ส่งหนังสือไปถึง ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก.หรือตำแหน่งเทียบเท่า จัดเตรียมข้อมูลข้าราชการตำรวจ โดยให้แต่ละหน่วยจัดเตรียมข้อมูล 7 ข้อ

                1.ข้อมูลตำแหน่งทั่วไปและตำแหน่งเฉพาะทางในระดับ สว. ถึงรอง ผบก. รวมถึงตำแหน่งควบปรับระดับเพิ่ม-ลดได้ในตัวเองที่มีการกำหนดกรอบตำแหน่ง โดยจัดกลุ่มตามลักษณะงานหรือลักษณะหน้าที่ที่ว่าง ณ วันที่ 1 ต.ค.62 2.ข้อมูลการกันตำแหน่งสำหรับรองรับข้าราชการตำรวจที่ ตร.รับโอนมาหรือได้มีการบรรจุและแต่งตั้ง หรือการบรรจุกลับเข้ารับราชการ หรือกรณีอื่นๆ 3.ข้อมูลข้าราชการตำรวจ ระดับรอง สว.ถึงรอง ผบก.ในสังกัดที่ต้องหาหรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือคดีแพ่ง หรือถูกดำเนินการทางวินัย หรือถูกดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือข้อมูลที่คณะกรรมการ  ป.ป.ช.หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด

                4.ข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกรณีที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 ลง 22 ก.ค.58 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ  5.ข้อมูลลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับรอง สว.ถึงรอง ผบก.ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในวาระประจำปี 2562 6.ตรวจสอบทำเนียบข้อมูลข้าราชการตำรวจระดับ สว.ถึงรอง ผบก.ว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้อง ให้จัดทำบัญชีสรุปรายการแก้ไขตามรูปแบบที่กำหนด และ 7.ทำเนียบข้อมูลข้าราชการตำรวจระดับรอง สว.ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในวาระประจำปี 2562 ตามรูปแบบที่กำหนด

                แต่ละกองบัญชาการก็เริ่มขยับแล้วแจ้ง บก.ในสังกัด จัดเตรียมข้อมูลในการแต่งตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา การแต่งตั้งระดับ สว.-รอง ผบก.เป็นการแต่งตั้งที่สำคัญ บุคคลเหล่านี้จะเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนหน่วยงานของตัวเอง เป็นกำลังหลักให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประสบผลสำเร็จ การแต่งตั้งครั้งนี้จึงเป็นการวัดใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.อีกครั้ง หลังจากมีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งไม่เหมือน 4-5 ปีที่ผ่านมา อำนาจการแต่งตั้งหลุดไปอยู่ในมือคนบางกลุ่ม ทำให้การสรรหาบุคคลผิดฝาผิดตัว “ปลาผิดน้ำ” ทำให้องค์กรเหม็นโฉ่

                การแต่งตั้งระดับ สว.-รอง ผบก.ครั้งนี้ ผบ.ตร.ได้คืนสิทธิ์ให้ผู้บัญชาการหน่วยเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้ง “นายกอง” เต็มอำนาจ ถ้ามีการโยกย้ายข้ามหน่วยต้องมีหนังสือชี้แจงถึงความเหมาะสม ทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้ามห้วยข้ามหน่วย หรือการซื้อขายตำแหน่งให้หมดไป ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ตร.เน้นย้ำห้ามมีการซื้อขายตำแหน่งโดยเด็ดขาด ต้องดูกันต่อไปว่าการแต่งตั้งวาระ “นายพัน” ผู้นำองค์กรจะยอมให้ ผบช.หน่วย เลือกคนของตัวเองมาทำงานมากแค่ไหน จะเป็นดั่งที่ “ผบ.ตร.” คืนดาบให้หรือไม่ ขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ที่ปลายปากกาของผู้เป็นนาย..