เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ในเดือนตุลาคมนี้ ได้แก่ ที่เขต 2 จ.กำแพงเพชร และที่เขต 5 จ.นครปฐม ในส่วนของ จ.กำแพงเพชร นั้นเกิดขึ้นหลัง  “พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” เจ้าของพื้นที่เดิมหลุดจากตำแหน่ง ส.ส.หลังโดนศาลอาญาตัดสินจำคุก คดีบุกล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา เมื่อเดือน เม.ย.ปี 2552 ส่งผลให้ต้องพ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.

                อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวได้วางทายาททางการเมืองที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ไว้แล้วนั่นคือ “นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์”  ลูกชายคนเดียวของเจ้าตัว ซึ่งก่อนหน้านี้มีแพลนว่าจะลองชิมลางการเมืองท้องถิ่นร่วมกับพี่สาวอย่าง “พีชญา อาภรณ์รัตน์” ก่อนในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นในอนาคตอันใกล้ แต่กลายเป็นว่าต้องมาจับงานใหญ่ โดยการเป็นตัวแทนของพ่อ

                ผลคะแนนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา 34,271 คะแนน ที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ ได้นั้นมีช่องว่างกับอันดับ 2 อย่างนาย “อดุลรัตน์ แสงประชุม” ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ เองคุ้นหน้าคุ้นตากันดีถึง 15,645 คะแนน นับเป็นเขตที่มีคะแนนทิ้งห่างจากคู่แข่งอันดับ 2 มากที่สุด ในจังหวัดกำแพงเพชร

                การเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงแต่อย่างใด เปรียบไปก็เหมือนเป็น “พิธีกรรม” เพื่อเปลี่ยนหน้า ส.ส.ในเขตให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น ความคาดหวังที่จะ “พลิกล็อก”  แบบไม่คาดคิด อย่างไรเสียก็คงไม่มีทางเกิดขึ้น หากจะบอกว่า “เจ้าถิ่น” กางมุ้งรอไว้แล้ว ก็คงไม่ผิดนัก

                ที่น่าสนใจคือในเขต 5 จ.นครปฐม หลัง “นางจุมพิตา จันทรขจร” ลาออกจากตำแหน่งจากเหตุผลด้านสุขภาพ ก่อนที่พรรคอนาคตใหม่จะจัดการทำ “ไพรมารีโหวตแบบเร่งด่วน”  โดยอาศัยการคัดเลือกจากกรรมการสรรหา 6 คน และสมาชิกพรรคในเขต จนได้ตัวแทนออกมาเป็น “นายไพรัฎโชติ จันทรขจร” สามีของนางจุมพิตา พร้อมมีกระแสดราม่าติดมาด้วยแบบเบาๆ

                ต้องย้อนความไปก่อนว่า การเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา เขต 5 จ.นครปฐม เป็นหนึ่งในเขตที่พรรคอนาคตใหม่ได้อานิสงส์จาก “การยุบพรรคไทยรักษาชาติ” ทำให้ฐานคะแนนฝั่งเสื้อแดงบางส่วนจึงไหลมารวมกันที่พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับชัยชนะแบบถล่มทลายถึง 34,164 คะแนน ห่างกับอีกหนึ่งตัวเต็งอย่าง นายสุรชัย อนุดธโต ถึง 15,194 คะแนน อย่างไรก็ตาม คะแนนระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และอันดับ 3 อย่างพรรคพลังประชารัฐนั้น อยู่ที่ 18,970 คะแนน กับ 18,741 ห่างกันเพียง 229 คะแนนเท่านั้น ตามมาด้วย “ตัวสอดแทรก” ห่างๆ อย่าง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ตัวแทนจาก “บ้านใหญ่นครปฐม” ที่ได้คะแนนไม่เป็นไปตามเป้า เมื่อคว้าไปเพียง 12,279 คะแนน

                แม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีหลายกระแสข่าว บ้างระบุว่า พรรคเพื่อไทยเองจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง โดยมีชื่อของ “นายมนตรี บุญประคอง” ตัวแทนจากพรรคไทยรักษาชาติก่อนพรรคจะโดนยุบ และเหมือนจะรีแบรนด์กับเพื่อไทย เช่นเดียวกับกระแสข่าวว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ส่งนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เพื่อช่วยเทคะแนนให้กับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น แน่นอนว่าหากเหตุการณ์เป็นแบบนั้นจริง ดูเหมือนว่า ส.ส.คนใหม่ ของเขต 5 นครปฐม นั้นคงยากที่จะเป็น ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่

                ภาพต่างเริ่มชัดเจนขึ้น ประการแรก พรรคเพื่อไทยประกาศแล้วว่า จะไม่ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งในเขต 5 นครปฐม เพื่อหลีกทางให้พรรคอนาคตใหม่จับไว้ให้แน่น ขณะที่ ”ลูกท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ก็ยืนยันชัดแล้วในวันที่เจ้าตัวร่วมเดินทางไปร่วมงานวันเกิด “เสี่ยอ้อน” ไชยา สะสมทรัพย์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วว่า ทาง ชทพ.เตรียมจะส่ง “นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์” พี่ชายของเสี่ยอ้อน ลงทวงเก้าอี้ในเขต 5 อีกครั้ง

                ขณะที่ทั้ง ปชป.และ พปชร.เอง ก็พร้อมลงสนามทั้งคู่ หมายความว่า ว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดต่างเป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองเดิม และน่าจะเป็นการแข่งขันกันเพียงแค่ 4 พรรคเท่านั้น ได้แก่ พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น

                และแน่นอนว่า หากการแข่งขันยังเป็นแบบนี้ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็ไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งประชาชนชาวนครปฐม เขต 5 และชาวกำแพงเพชร เขต 2 ก็น่าจะยังคงได้ผู้แทนจากพรรคเดิม เพียงแต่เปลี่ยนหน้าเท่านั้น.