9 มี.ค. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า วิทยาลัยเทคนิคตรัง โดยแผนกเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ ร่วมกับสำนักงานทางหลวงที่ 17 และบริษัท ว.รณภูมิ จำกัด ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อจัดทำโครงการวิจัยกรวยยางพาราอัจฉริยะ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นจากการนำวัตถุดิบ คือ ยางพารา ที่หาได้ง่ายในจังหวัดและชุมชน มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กรวยจราจรจากยางพารา (Rubber cone genius) แทนการใช้กรวยจราจรพลาสติกแบบเดิมๆ โดยมีจุดเด่นตรงที่วัสดุเหล่านี้ เมื่อโดนชน หรือโดนกระแทก ก็จะไม่แตกเสียหาย และคืนกลับสู่สภาพเดิม จึงช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดกับรถ และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของกรวยจราจร
นายเจษฎา ธนะสถิตย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคตรัง กล่าวว่า เนื่องจากยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของคนภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของยางพารา แต่ปัจจุบันมีราคาตกต่ำลงมาเรื่อยๆ ส่งผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านครอบครัว และการส่งบุตรหลานเรียนหนังสือ ทางวิทยาลัยจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์กรวยจราจรจากยางพาราขึ้น เพื่อส่งเสริมเกษตรกร และเพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับผู้ปกครอง ประกอบกับปัจจุบันการใช้ยางพาราภายในประเทศก็มีน้อย ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมการใช้พลาสติก ทั้งๆ ที่วัสดุเหล่านี้ย่อยสลายยาก และยังเป็นมลพิษต่อสภาพแวดล้อมด้วย
สำหรับกรวยพลาสติกในท้องตลาดทั่วไป จะมีราคาตั้งแต่ชิ้นละ 200-1,000 บาท แล้วแต่คุณภาพ ส่วนกรวยยางพาราอัจฉริยะ จะมีต้นทุนประมาณชิ้นละ 250 บาท ซึ่งแต่ละกรวยจะใช้น้ำยางคอมปาด์ว 1 กิโลกรัมครึ่ง แล้วนำมาหล่อขึ้นรูป รวมจำนวน 6 ครั้ง เพื่อให้ได้กรวยที่มีความหนาที่พอดีที่สุด เนื่องจากเมื่อโดนรถชนแล้ว จะสามารถเด้งกลับสู่สภาพเดิม หรือกลับมาตั้งตรงแบบเดิมได้ รวมทั้งยังรองรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0-40 องศาเซลเซียส ซึ่งว่าเหมาะสมกับสภาพอากาศทั่วไปในเมืองไทย ถือเป็นความสำเร็จอีกชิ้นหนึ่งของแผนกเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง ที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง.
ขณะที่นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงตรัง กล่าวว่า โครงการวิจัยเรื่องกรวยยางพาราอัจฉริยะ นับเป็นการตอบโจทก์ และตอบสนองต่อนโยบายของกรมทางหลวง ในอนาคต เพื่อนำไปสู่การผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในงานจราจร หรืองานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ จากยางพารา อาทิ หลักนำทาง ขอบทาง กั้นเกาะกลาง แท่งแบริเออร์ เพื่อเปลี่ยนช่องทางการจราจร กีดขวางทางเข้าออกของรถ บังคับช่องทางการเดินรถ หรือป้องกันพื้นที่อันตรายต่างๆ เป็นต้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง แต่คงทน แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน และมีความปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการใช้ยางพาราในท้องถิ่นด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |