18 ก.ย.62 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน  แถลงเปิดญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยระบุว่าประเทศที่รัฐบาลขาดการยอมรับนับถือ มีมลทิน ถูกตำหนิ และถูกนินทามาตลอด จะพาสังคมที่วิกฤติให้อยู่รอดได้อย่างไรนั้นว่า อาจกล่าวเกินเลยจากความเป็นจริงไปมาก เพราะการกระทำที่เป็นมลทินนั้น  ต้องเป็นกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 5 แสนล้านมากกว่า และที่ทำให้ถูกนินทาได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้ก็คือเมื่อทำผิดแล้ว ยังหลบหนีคดี ไม่รับผิดชอบ ไม่มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกต่างหาก

​ทั้งนี้ ไม่เพียงทำให้ประเทศสูญเสียงบประมาณหลายแสนล้าน แล้วยังสร้างแบบอย่างของการไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จะพาสังคมให้วิกฤติ เห็นได้ชัดเจนเช่น กรณีล่าสุด คือมีแกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดีไปเช่นกัน

​น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ประเด็นเหล่านี้กระทบต่อเงินงบประมาณของชาติ กระทบกับภาษีของประชาชน หากฝ่ายค้านให้ความสำคัญกับประชาชนจริง เหตุใดจึงไม่ติดตามอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น กลับมานั่งจับผิดเรื่องของการถวายสัตย์ปฏิญาณตน ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และไม่ได้เป็นการทำหน้าที่ถ่วงดุล ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินตามหน้าที่ของส.ส.แต่อย่างใด ยิ่งเปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริง ที่ต้องการจี้ให้นายกฯแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ประชาชนตาสว่างว่า พรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประชาชน หรือให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญอย่างที่กล่าวอ้างเลย  แต่ต้องการที่จะเล่นการเมือง สร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล ฉุดรั้งไม่ให้ประเทศเดินไปข้างหน้ามากกว่า ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าประชาชนเขาดูออก

​“หากไม่ทำหน้าที่ส.ส.ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่กลับใช้เวทีของสภาฯ ไปเพื่อเกมการเมืองของตัวเอง อย่างนี้ฝ่ายค้านต้องถามตัวเองว่า ยังสมควรเป็นส.ส.อยู่อีกหรือไม่” น.ส.ทิพานัน กล่าว