18 ก.ย. 62 – ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.40 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฏร เป็นพิเศษ วาระญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯทำหน้าที่ประธานการประชุม  ทั้งนี้นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นหารือพร้อมยกคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ครั้งนี้ อาจขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
           
นายชวน ชี้แจงว่า ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายแล้วว่าการอภิปรายดังกล่าวจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าญัตติดังกล่าวไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนคำวินิจฉัยนั้นจะเป็นก็ต่อเมื่อศาลมีคำวินิจฉัย แต่สำหรับกรณีที่นายวีระกรนนำหารือนั้น คือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ถือเป็นคำวินิจฉัย ดังนั้น สภาจึงเห็นว่าญัตติดังกล่าวจึงควรได้รับการพิจารณาต่อไป แต่ปัญหาต่อไป คือ ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ผู้เสนอญัตติมีสิทธิ์สอบถามข้อเท็จจริง และเสนอแนะ ไม่ใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงขอให้ผู้อภิปรายยึดและเคารพข้อบังคับการประชุม
           
จากนั้นน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงคำชี้แจงของนายชวน แต่ถูกนายชวนตัดบท โดยระบุว่าสมาชิกไม่สามารถลุกขึ้นประท้วงคำชี้แจงได้ 

ด้านนายวีระกร ลุกขึ้นกล่าวซ้ำว่า การที่ประธานยังปล่อยให้มีการอภิปรายอาจขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ทำให้นายชวน กล่าวว่า ประธานต้องรับผิดชอบอยู่แล้วถ้าทำผิดรัฐธรรมนูญ แต่การพิจารณาครั้งนี้ทำโดยรอบคอบว่าคำสั่งกับวินิจฉัยแตกต่างกันอย่างไร โดยความเห็นของนายวีระกรเป็นความคิดเห็นส่วนหนึ่งที่เป็นประโยชน์ในข้อวิชาการ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คำวินิจฉัย กรณีนี้ศาลมีคำสั่งไม่รับ ไม่ใช่คำวินิจฉัย ในทางกลับกันถ้าศาลวินิจฉัยชี้ผิดถูกเรื่องนี้ ญัตติการอภิปรายนี้ต้องตกไป

ประธานสภาฯ กล่าวย้ำก่อนเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติว่า ขอให้ผู้อภิปรายปฏิบัติตามข้อบังคับประชุมสภาฯ หมวด 4 ส่วน 3 ข้อที่ 69 การอภิปรายต้องเกี่ยวข้องกับประเด็น ไม่ซ้ำซาก ห้ามนำเอกสารมาอ่านโดยไม่จำเป็น ห้ามก้าวล่วงถึงพระมหากษัตริย์ หรือกล่าวชื่อบุคคลโดยไม่จำเป็น.