"ชัชชาติ" สยบลือผนึกคนดัง ปชป.ตั้งพรรคใหม่ประเดิมสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. "กรณ์" ลั่นตราบใดที่ยังเป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะทำงานในสภาอย่างเต็มที่ และยังไม่มีการตั้งพรรคการเมือง ขณะที่ "พปชร." ลั่นไม่ถอยให้พรรคใด ส่งคนลงชิงผู้ว่าฯ กทม.แน่นอน ฮือฮา "อดีต ส.ว.รสนา" ประกาศตัวแล้ว
นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ถึงกระแสข่าวจะร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตั้งพรรคใหม่ แล้วส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นว่าผู้ราชการกรุงเทพมหานคร ว่าวันนี้มีข่าวตนจะตั้งพรรคกับนายชัชชาติ ต้องขอโทษเพื่อนๆ สื่อมวลชนที่พยายามติดต่อเข้ามาสอบถาม
"ขอชี้แจงทางนี้สั้นๆ นะครับว่า ผมเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และตราบใดที่ยังอยู่ในสถานะนี้ ผมจะทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่ และยังไม่มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่กับใครครับ" นายกรณ์ระบุ
ขณะที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีกระแสข่าวจะร่วมกับนายกรณ์และนายชัชชาติตั้งพรรคใหม่นั้น กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มีการรวมกลุ่มขับเคลื่อนไทย มีนักวิชาการและนักการเมืองเพื่อพูดคุยถึงทิศทางประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ว่าประเทศไทยจะรองรับวิกฤตการณ์ต่างๆ ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
"เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ไม่มีการหารือเรื่องตั้งพรรคการเมืองแต่อย่างใด นักการเมืองที่มีการพูดคุยกันก็ยังอยู่ในพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดอยู่" นายอรรถวิชช์กล่าว และว่า "ผมไม่ได้พบกับคุณชัชชาติมาหลายปีแล้ว"
ด้านนายชัชชาติกล่าวว่า "ที่มีข่าวว่าผมจะตั้งพรรคใหม่นั้น ไม่จริงนะครับ ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย ตอนนี้คิดแต่จะทำอย่างไรให้แก้ปัญหาของคนกรุงเทพฯ ได้ดีที่สุดครับ"
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชัชาติ ซึ่งยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่มีกระแสข่าวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองว่า ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนตัวยังไม่ได้พูดคุยกับนายชัชชาติ ก็ทราบเพียงจากข่าว และพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีมติเรื่องนี้ออกมา
"การเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคเพื่อไทยรอผู้มีอำนาจว่าจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งเมื่อใด ทางพรรคมีความพร้อม เพียงแต่ตอนนี้ฝ่ายที่ดำเนินการยังไม่มีความชัดเจน" เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความชัดเจนของพรรค พปชร. ในการเตรียมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการของพรรค และการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ใช่เพียงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอื่นด้วย โดยพรรคดำเนินการในเรื่องนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนจะเป็นใครนั้น ให้ถึงเวลาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชัชชาติได้เปิดตัวเป็นผู้สมัครอิสระ ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรค พปชร.หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์สมัคร เพราะในการแข่งขันท้องถิ่นก็มีการแข่งขันทั้งระบบพรรคและระบบอิสระ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งนั้น เชื่อว่าจะทำให้เกิดสีสันทางการเมืองที่ดี
เมื่อถามว่า พรรค พปชร.จะส่งผู้สมัครแน่นอนใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์บอกว่าพรรค พปชร.กำลังพิจารณาอยู่
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ กทม. พรรค พปชร. กล่าวว่า พปชร.ยังไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้ และยังไม่ได้วางตัวจะให้ใครลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ แต่ในอนาคตจะมีการเตรียมการกัน ทราบว่าพรรคอื่นได้ขยับและเตรียมตัวกันบ้างแล้ว แต่ไม่ถือว่าเราช้า ที่พรรคยังไม่ได้หารือกัน เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อใด
"อย่างไรก็ตาม ตัวบุคคลที่พรรคจะส่งลงสมัครจะต้องหาคนที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุด เพื่อให้กรุงเทพฯ มีทางเลือก" ประธานยุทธศาสตร์ กทม.พรรค พปชร.กล่าว
ต่อข้อถามว่า คะแนนจะไปตัดกับพรรคประชาธิปัตย์หรือเปล่า ประธานยุทธศาสตร์ กทม.พรรคพปชร.กล่าวว่า เราไปห้ามไม่ได้ เพราะทุกพรรคมีเป้าหมายในพื้นที่ กทม.ด้วยกันทั้งนั้น จะไปห้ามให้พรรคนี้ลง พรรคนั้นไม่ให้ลงคงไม่ได้ แม้จะเป็นพรรคร่วมด้วยกัน แต่พรรค พปชร.จำเป็นต้องส่งผู้สมัครที่ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด
วันเดียวกัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุติสภา (ส.ว.) ประกาศ “ตอบรับเสียงสนับสนุนของพี่น้องประชาชนให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.” โดยระบุว่าหลังจากมีข่าวในสื่อมวลชนว่าตนมีความสนใจเรื่องลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. และกำลังประเมินเสียงตอบรับจากประชาชนนั้น ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนมากแสดงความเห็นสนับสนุนให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ผ่านสื่อออนไลน์อย่างล้นหลามเกินความคาดหมาย
"และยังมีเพื่อนมิตรในหลากหลายวงการติดต่อดิฉันเป็นการส่วนตัว เพื่อพาไปพูดคุยกับสมาชิกในกลุ่มของท่านเหล่านั้น ทำให้ดิฉันมีความมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากประชาสังคมกลุ่มต่างๆ ใน กทม. เพื่อช่วยกันสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่"
น.ส.รสนากล่าวว่า นอกจากการมองภาพรวมปัญหาของ กทม.แล้ว เชื่อมั่นว่าไม่มีใครรู้ดีถึงปัญหาของแต่ละพื้นที่เท่ากับคนที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ การแก้ไขปัญหาจึงต้องเกิดขึ้นจากการร่วมคิด ร่วมมือกันออกแบบเพื่อสิ่งที่ดีกว่า กรุงเทพฯ ใหญ่โต และมีปัญหาสะสมมากมาย จำเป็นที่ต้องระดมความรู้และปัญญาของสังคมมาช่วยกันแก้ไข ปัญหามากมายอาจเกิดจากความไร้ธรรมาภิบาลในการบริหาร และการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
"ดิฉันเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้เป็นบ้านที่ร่มเย็นเป็นสุขสำหรับทุกคน เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกภาคส่วน เพราะสังคมดีไม่มีขาย และไม่มีใครดลบันดาลให้ แต่จะเกิดขึ้นได้ด้วยมือของชาว กทม." น.ส.รสนากล่าว
น.ส.รสนากล่าวด้วยว่า ก่อนที่ฤดูกาลการเลือกตั้ง กทม.จะมาถึง ตนจะเดินสายรับฟังความต้องการของประชาคมทุกภาคส่วนของกรุงเทพฯ เพื่อนำมาทำเป็นนโยบายเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ โดยคนกรุงเทพฯ เพื่อทุกคนในกรุงเทพฯ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |