"ปุ๊กกี้" อดีตนักร้องดัง พร้อมสามี กลับคำให้การ ปฏิเสธชั้นศาลทุกข้อหาคดีค้ายาเสพติด-ฟอกเงินร่วมกับแก๊งชาวไต้หวัน ศาลนัดตรวจหลักฐานต้น พ.ย.นี้
    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กันยายนนี้ ที่ห้องเวรชี้ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ ย.2036/2562 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายหง เจิ้งอี้ (HUNG CHENG) อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน, นายชลวิทย์ หรือไก่ คีตะตระกูล อายุ 50 ปี ชาว กทม. สามีของปุ๊กกี้ อดีตนักร้องยุค '90, น.ส.ปริศนา พรายแสง หรือพริสซิลลา หรือปุ๊กกี้ จิวเมลลี่ อายุ 40 ปี ชาว กทม. อดีตนักร้องชื่อดัง, นายกันต์ธร หรือมิว แก้วกระจ่าง อายุ 28 ปี ชาว กทม. และ น.ส.ธาริณี หรือไหม ขาวบัณฑิต อายุ 27 ปี ชาว จ.พังงา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 
    ในความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ, สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินฯ, ร่วมกันฟอกเงิน, ร่วมกันมียาไอซ์-ยาบ้า-ยาอี ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมียาเค (คีตามีน) วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพเมตแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต 
    ตามฟ้องของอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 10 ก.ย.62 ระบุพฤติการณ์ความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.-17 มิ.ย.2562 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งห้ากับพวกได้สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป: โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นผู้จัดหา, ครอบครองเก็บรักษายาเสพติดให้โทษ, ลำเลียงยาเสพติดให้โทษ, หาลูกค้าที่ต้องการยาเสพติด และเป็นเครือข่ายดำเนินการจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด โดยมีนายหวัง หยิงซิน หรือโทนี่ (Yung Chin Wang) พวกของจำเลยเป็นผู้สั่งการ ส่วนนายจง ยวีเลียง, นายหลี เจิ้นหยา, นายเหลียง เกิ่งเจีย, นายศักดิ์ชัย มหรสุขเจริญ ที่หลบหนีทำหน้าที่ลำเลียงขนยาเสพติด โดยนายหง เจิ้งอี้ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บรักษาขนลำเลียงยาเสพติดเพื่อส่งไปยังประเทศไต้หวัน ส่วนนายชลวิทย์และ น.ส.ปริศนา จำเลยที่ 2-3 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดแล้วนำไปให้จำเลยที่ 1 ทำธุรกรรมด้านการเงิน, นายกันต์ธร จำเลยที่ 4 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดและนำมามอบให้จำเลยที่ 2-3 เพื่อทำธุรกรรมด้านการเงิน ส่วน น.ส.ธาริณี จำเลยที่ 5 เป็นผู้ให้การช่วยเหลือดำเนินการจัดการเกี่ยวกับทางด้านการเงิน โดยใช้บัญชีธนาคารของผู้อื่นในการฝาก-ถอนเงิน 
    ซึ่งจำเลยทั้งห้าได้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรฯ จำนวน 4 บัญชี เพื่อรับโอนเงินที่ได้มาจากการซื้อขายยาเสพติด จำนวน 450,000 บาท จำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งโอนเงินจากการซื้อขายยาเสพติดอีกจำนวน 500,000 บาท อันเป็นการซุกซ่อนที่มา หรือปกปิดที่มาของทรัพย์สิน
    อัยการโจทก์ระบุฟ้องอีกว่า จำเลยทั้งห้ากับพวกยังได้ร่วมกันมียาเค (คีตามีน) ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ชนิดผลึกสีขาว น้ำหนัก 4.980 กก.เศษ กับมียาไอซ์ เมตแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ชนิดเกล็ดผลึกสีขาว 11 ซอง และยาบ้าชนิดเม็ด 8 เม็ด และยาอี 3, 4 เมทิลลีนไดออกซีเมตแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง รวมทั้งที่เขี่ยบุหรี่อีก 39 ชิ้น ที่พวกจำเลยใช้ซุกซ่อนยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้เป็นของกลาง เหตุเกิดที่แขวง-เขตลาดกระบัง, แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
    ชั้นสอบสวน นายหง เจิ้งอี้ และนายชลวิทย์ จำเลยที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วน น.ส.ปริศนา จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ให้การรับสารภาพในข้อหาอื่น ขณะที่นายกันต์ธรและ น.ส.ธาริณี จำเลยที่ 4-5 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
    วันนี้ศาลได้เบิกตัวนายหง เจิ้งอี้ และนายชลวิทย์จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.ปริศนา เบิกตัวจากทัณฑสถานหญิงกลางมาศาล ด้านนายกันต์ธรและ น.ส.ธาริณี ซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาล เพื่อสอบคำให้การ
    ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งห้าฟังจนเข้าใจแล้ว สอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า นายหง เจิ้งอี้ จำเลยที่ 1 เพียงคนเดียวเท่านั้น ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหามียาเสพติดคีตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ ขณะที่จำเลยอื่นๆ อีก 4 คน ลำดับที่ 2-5 ขอให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีในทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีวันที่ 4 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.