ทีมกฎหมาย "ธรรมนัส" เก็บข้อมูลจ่อฟ้องหมิ่นคนวิจารณ์ พร้อมร่อนเอกสารยก พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2 ฉบับการันตีคุณสมบัติ รมต. "วิษณุ" ยอมรับไม่ได้ตรวจวุฒิการศึกษาก่อนตั้งเป็นรัฐมนตรี ชี้หากผิดจริยธรรมต้องพ้นตำแหน่ง โบ้ยสภาสอบ เด็ก พปชร.เอาคืนร้อง ป.ป.ช.ฟัน "เสรีพิศุทธ์"
เมื่อวันที่ 16 กันยายน พล.ต.ต.วรยุทธ อินทรสุวรรณ หนึ่งในทีมกฎหมายที่ได้รับมอบอำนาจจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินคดีกับนิติบุคคลและบุคคล ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่นำเสนอข้อมูลและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ ของ ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่นำเสนอข้อมูลไม่ถูกต้อง โดยจะประชุมกันในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เพื่อหารือร่วมกันก่อนว่าจะฟ้องใครบ้างและจะฟ้องใครเป็นรายแรก ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัสระบุว่าทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะการวิจารณ์ต่างๆ โดยไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงนั้นสร้างความเสียหายให้แก่ ร.อ.ธรรมนัส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ก.ย. ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัสแจ้งกับสื่อมวลชนว่า ร.อ.ธรรมนัสมอบหมายให้ทีมกฎหมายแถลงข่าวในเรื่องการดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาทในวันที่ 16 ก.ย. แต่ในช่วงค่ำกลับสั่งยกเลิกกะทันหัน พร้อมกับส่งเอกสารจำนวน 4 หน้าชี้แจงแทน ซึ่งยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัสมีคุณสมบัติถูกต้องในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยลำดับความเป็นมาก่อนมาเป็นรัฐมนตรี ในกรณีที่เกี่ยวพันกับคดีที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536 และเคยถูกให้ออกจากราชการและถอดยศทหาร ได้อานิสงส์จากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้างมลทิน 2 ครั้ง คือ พ.ร.บ.ล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พ.ศ.2539 และ พ.ร.บ.ล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550
"ด้วยผลของกฎหมายของ พ.ร.บ.ล้างมลทินทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว มีผลให้ 1.ร.ท.พชร พรหมเผ่า ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลออสเตรเลีย และไม่เคยถูกลงทัณฑ์ทางวินัยคดีขาดราชการ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 2.ร.อ.ธรรมนัสไม่คยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้น ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 3.ร.อ.ธรรมนัสเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย และไม่เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดตามคำพิพากษาศาล และไม่เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัย ทำให้มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.และการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 4.เมื่อปี 2557 พรรคเพื่อไทยได้พิจารณาส่ง ร.อ.ธรรมนัสลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. 5.ในปี 2562 ร.อ.ธรรมนัสได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกเป็นผู้แทนราษฎร ในเขต 1 จังหวัดพะเยา ด้วยคะแนนเสียงจำนวน 52,417 คะแนน ร.อ.ธรรมนัสจึงเป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในปัจจุบันด้วย" เนื้อหาที่สรุปไว้ในตอนท้ายของเอกสารดังกล่าว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกโจมตีหลายประเด็นในตอนนี้ว่า ยังไม่ได้คุยและยังไม่ได้เจอกัน ซึ่งเป็นเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัสที่เขาต้องแก้ไขด้วยตนเอง ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล หลังจากที่มีสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล นอกจากนี้ไม่ได้ไปเบรกการแถลงข่าวของ ร.อ.ธรรมนัสด้วย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัสในการสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ว่า กรณีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยบอกแล้วว่าผู้สมัคร ส.ส.จะมีวุฒิการศึกษาอย่างไร อย่างไรก็ตามยอมรับว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีจะโยงกับคุณสมบัติของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น อายุของรัฐมนตรีต้องอายุ 35 ปีขึ้นไป มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ส่วนผู้สมัคร ส.ส.กำหนดอายุ 25 ปี และไม่กำหนดวุฒิการศึกษา เป็นต้น
"การเป็นรัฐมนตรีจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ถ้าจบปริญญาตรีก็ถือว่าโอเค จะจบโทจบเอกก็ช่าง แต่หากว่าไม่จบแล้วไปบอกว่าจบ ด้วยหลักฐานที่เป็นเท็จก็จะเป็นเรื่องทางจริยธรรม ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไป แต่ยอมรับว่าในการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัสเป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้มีการตรวจสอบวุฒิการศึกษาที่ยื่นมาว่าจริงหรือปลอม เพราะหากตรวจสอบคงต้องใช้เวลาในการตั้งคณะรัฐมนตรี ถ้ามีปัญหาเรื่องจริยธรรมจริงก็สามารถปรับออกจากคณะรัฐมนตรีในภายหลังได้" นายวิษณุระบุ
ส่วนประเด็นที่มีการตรวจสอบผ่านสื่อสังคมออนไลน์เรื่องวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัสนั้น อาจเป็นประเด็นเรื่องจริยธรรมที่ต้องตรวจสอบ แต่ไม่ทราบว่าสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถมีอำนาจตรวจสอบจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมของ ส.ส.ได้หรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีที่ทีมกฎหมายของ ร.อ.ธรรมนัสออกมาอ้างถึงการใช้ พ.ร.บ.ล้างมลทิน หลังถูกสั่งให้พ้นจากราชการนั้น นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้ กกต.ต้องเป็นผู้วินิจฉัยเพราะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ ส.ส.โดยตรงตามมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญ ช่วยไปถาม กกต.ให้หน่อย ในชั้นของรัฐมนตรีไม่ได้ตรวจสอบเช่นกัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "แก้ทางให้ รมช.ธรรมนัส" ว่า "1.อย่าพูดเด็ดขาดว่าจบจากมหาวิทยาลัย California University เพราะทุกคนรู้แล้วว่าไม่ใช่มหาวิทยาลัย เป็นเพียงหน่วยงานเอกชนที่รับงานเทียบวิทยฐานะให้แก่คนชาติอื่นที่ไม่ใช่อเมริกาเท่านั้น (เขาเขียนไว้ในวัตถุประสงค์ของเขาชัดเจน) 2.สำหรับการจบมหาวิทยาลัยคาลามัส แห่งวานูอาตู แล้วมาพบภายหลังว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่มีคุณภาพ ต้องแจ้งความเอาผิดกับผู้ชักชวนให้เรียน รวมถึงสำนักงานตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยด้วยว่าเข้าข่ายหลอกลวง โดยท่านมิได้มีส่วนรู้เห็น
3.ควรให้สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา เปลี่ยนประวัติการศึกษาปริญญาเอกของท่านกลับเป็น จบจากมหาวิทยาลัยคาลามัสเช่นเดิม ให้สอดคล้องกับหลักฐานการศึกษา มิเช่นนั้นอาจมีผู้เอาผิดว่ากระทำการหลอกลวงให้สังคมเข้าใจผิดได้ 4.การขอคืนปริญญา (ไม่รู้ทำได้หรือไม่ เพราะมหาวิทยาลัยไม่รู้อยู่ไหน) อาจเป็นหนทางที่ดีอีกหนทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ตามมากับผลงานวิทยานิพนธ์ที่ท่านได้จัดทำ ซึ่งหากมีผู้พบภายหลังว่ามีกระบวนการจัดทำที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจมีปัญหาวกกลับมาถึงตัวท่านได้อีกในอนาคต"
วันเดียวกัน น.สพ.ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และประธานสมาพันธ์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน มายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กรณีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรงต่อตำแหน่งหน้าที่ขณะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. กรณีทุจริตเงินงบประมาณในโครงการเช่ารถตู้โดยสาร 1,447 คัน โครงการเช่ารถยนต์บรรทุกอเนกประสงค์ 270 คัน รถบรรทุกขนาด 3 ตัน 51 คัน และรถบรรทุกขนาด 1 ตัน 1,555 คัน รวมมูลค่า 9,899,578.200 บาท ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำผิดร้ายแรง จนถูกสำนักนายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งโดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกจากราชการไว้ก่อน โดยขอให้ ป.ป.ช.สืบสวนสอบสวนและชี้มูลความผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์โดยเร็ว และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่หมดอายุความ
"ยืนยันว่าการมายื่นให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ใช่เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส เพราะเป็นคนละประเด็นกัน ซึ่งกรณีของ ร.อ.ธรรมนัสเป็นการกล่าวอ้างมาทำลายกันทางการเมือง ซึ่งขอตั้งฉายาให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ว่าเป็นวีรบุรุษนาเก๊ ใกล้เคียงจิ้งโกร่งปีกแดง" น.สพ.ธีทัชฐ์ ระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |