สหรัฐขู่ใช้กำลังทหารตอบโต้อิหร่านถล่มซาอุฯ ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูด


เพิ่มเพื่อน    

สหรัฐมั่นใจอิหร่านอยู่เบื้องหลังการส่งโดรนโจมตีและยิงมิสไซล์ถล่มโรงงานน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ฮึ่ม "บรรจุกระสุนล็อกเป้า" พร้อมตอบโต้ทางทหาร จีน-รัสเซียปรามอย่ารีบด่วนสรุป ขณะราคาน้ำมันตลาดโลกเมื่อวันจันทร์พุ่งกระฉูดสูงสุดนับแต่สงครามอ่าว

ภาพถ่ายดาวเทียมจากนาซา เวิลด์วิว วันที่ 14 กันยายน 2562 เผยกลุ่มควันจากไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท อารัมโก ของซาอุดีอาระเบีย  / NASA Worldview / AFP

    รายงานของเอเอฟพีวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562 กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเป็นนัยครั้งแรกถึงการใช้กำลังทางทหารตอบโต้การโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ ซึ่งกระทบต่อการผลิตน้ำมันวันละ 5.7 ล้านบาร์เรล เท่ากับครึ่งหนึ่งของซาอุดีอาระเบีย หรือราว 6% ของอุปทานน้ำมันโลก และทำให้สหรัฐและซาอุดีอาระเบียประกาศแผนใช้น้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์รองรับ

    ทรัมป์ทวีตเมื่อวันอาทิตย์ว่า อุปทานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียโดนโจมตี มีเหตุผลให้เชื่อว่าเรารู้ตัวคนร้ายและกำลังบรรจุกระสุนล็อกเป้าไว้ระหว่างรอการตรวจพิสูจน์ แต่เรากำลังรอฟังจากซาอุดีอาระเบียว่า พวกเขาเชื่อว่าใครก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ และเราจะดำเนินการต่อไปภายใต้เงื่อนไขใด

    โรงงานที่ตกเป็นเป้าหมายโจมตีเมื่อวันเสาร์คือโรงน้ำมันอับกาอิก ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกแห่งคือโรงงานคูราอิส ซึ่งมีบ่อน้ำมันปริมาณมหาศาล การโจมตีส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกเปิดการซื้อขายเมื่อวันจันทร์พุ่งทะยานทันทีและเพิ่มมากที่สุดนับแต่สงครามอ่าวเปอร์เซียปี 2533-2534 น้ำมันดิบเบรนต์ซื้อขายล่วงหน้าพุ่งขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือเกือบ 20% ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 ดอลลาร์ หรือ 15%

    เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลจีนเรียกร้องให้สหรัฐและอิหร่านใช้ความอดกลั้นระหว่างที่การสอบสวนยังไม่ได้ข้อสรุปหรือตัดสิน ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียก็เตือนเช่นกันถึงการด่วนสรุปหรือรีบร้อนดำเนินการที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ส่วนสหภาพยุโรปขอให้ "ใช้ความอดกลั้นถึงขีดสุด"

    กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งอิหร่านหนุนหลัง ประกาศว่า พวกเขาส่งโดรน 10 ลำไปโจมตีโรงน้ำมันของบริษัทอารัมโก 2 แห่งนี้ แต่ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานว่าโดรนเหล่านี้บินออกมาจากเยเมน ซึ่งทำให้กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านตอบโต้ว่าเป็นคำกล่าวหาที่เลื่อนลอยและไร้ความหมาย

    ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะทวีต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยกับนักข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า หลักฐานที่ได้จากการโจมตีครั้งนี้บ่งชี้ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่กลุ่มกบฏฮูตี ภาพถ่ายจากดาวเทียมเผยให้เห็นว่ามีเป้าหมายที่โดนโจมตี 19 แห่ง และหลักฐานแสดงให้เห็นว่าที่มาของอาวุธมาจากทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือของเป้าหมาย ไม่ใช่จากเยเมนซึ่งอยู่ทางทิศใต้

    เจ้าหน้าที่สหรัฐรายนี้กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียบอกว่าพวกเขาพบเห็นสัญญาว่ามิสไซล์ครูซหลายลูกถูกใช้ในการโจมตีครั้งนี้ด้วย ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำกล่าวอ้างของฮูตีที่บอกว่าพวกเขาใช้โดรน 10 ลำ

    สื่อบางแห่งของอิรักกล่าวว่า โดรนเหล่านี้อาจถูกปล่อยออกจากอิรัก แต่รัฐบาลอิรักปฏิเสธ และประกาศว่าจะลงโทษผู้ใดก็ตามที่ใช้อิรักเป็นฐานปฏิบัติการโจมตี

    มีรายงานด้วยว่า คูเวต ซึ่งมีพรมแดนติดอิรัก กล่าวว่า คูเวตกำลังสอบสวนรายงานการพบเห็นโดรน 1 ลำบินเหนือดินแดนของคูเวต และกำลังประสานความร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ

    เจมส์ ดอร์ซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง ให้ทัศนะว่า มีความเป็นไปได้น้อยที่ซาอุฯ จะเอาคืนโจมตีบ่อน้ำมันของอิหร่าน "พวกซาอุฯ ไม่อยากเปิดสงครามกับอิหร่าน พวกเขาอยากให้ชาติอื่นๆ รบแทน แต่ชาติอื่นๆ ก็ไม่เต็มใจ" เขากล่าวกับเอเอฟพี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"