13ก.ย.62-เมื่อเวลา 09.50 น. ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองท่าเรือ-หัวตรุด กิโลเมตรที่ 9+200 ซึ่งเป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยนายกฯเดินทางด้วยรถโตโยต้า VELLFIRE สีขาว ทะเบียน 7 กฬ 1333 กรุงเทพมหานคร
โดยนายกฯ รับฟังรายงานความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ และรับทราบรายงานการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล การก่อสร้าง พร้อมกล่าวว่า ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนที่ยังไม่ให้ความร่วมมืออีก 58 ครัวเรือน ว่าถ้าโครงการนี้สำเร็จจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ถึงร้อยละ 80 หากรัฐบาลทำความเข้าใจฝ่ายเดียวประชาชนจะไม่เข้าใจ จึงอยากให้ชาวบ้านช่วยกันบอกถึงผลดีคืออะไร สำหรับโครงการนี้เริ่มดำเนินการได้เมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นโครงการของ รัชกาลที่ 9 โดยรัฐบาลมีความตั้งใจนำทุกโครงการมาดำเนินการสานต่อทั้งหมดตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 จึงขอให้ประชาชนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทำให้ประเทศไทยมีการพัฒนาและคงอยู่ มีความปรองดอง ส่วนประชาธิปไตยก็ต้องเดินควบคู่กันไป ต้องลดความขัดแย้ง ลดการต่อรองลง ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ และพร้อมทำงานให้ได้มากที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
"ผมดีใจที่ได้พบกับประชาชน และรู้สึกเป็นห่วงภาคใต้ แต่ได้แก้ปัญหาหนี้สิน หนี้นอกระบบให้ไปแล้ว แต่ประชาชนยังขาดการรับรู้ ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ"
นายกฯ กล่าวแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำที่จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งมีอีกหลายพื้นที่ เมื่อคืนตนนั่งเอาใจช่วย พระมีฝนตกมาจำนวนมาก แต่ทุกภาคส่วนก็ได้ร่วมกันบูรณาการ แก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเรียกว่ายุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ 20 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเดินพบปะพูดคุยกับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ซักถามผู้ที่มาต้อนรับว่ามาจากพื้นที่ใดบ้าง พร้อมกล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ต่อประเทศชาติและแผ่นดินนี้ ก่อนจะหันไปถามความเห็นชาวบ้านว่า “เห็นนายกฯคนนี้แล้วเป็นอย่างไร ใช้ได้ไหม ส่วนเรื่องหล่อเอาไว้ก่อน ถามว่าทำงานใช้ได้หรือไม่ดีกว่า และพวกเราเดือดร้อนอะไรมากหรือไม่ที่ผมเป็นนายกฯ ไม่เดือดร้อนใช่ไหม รายได้ก็ยังดีอยู่ แต่ก็ยังมีปัญหา มีบางคนที่ยังออกมาพูดไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อีอีซี หรือเรื่องของรายได้ ก็ว่ากันไป อะไรที่ถูกกฎหมายก็ทำ อย่างเช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถ้าเรามีรายได้เข้ามาก็จะมีไปเพิ่มในส่วนดังกล่าว แต่ไม่ใช่เป็นสัญญาให้เปล่า
"บ้านเมืองจะดีได้ต้องมีการพัฒนาและมีเสถียรภาพในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจก็จะแย่ทั้งหมด ทุกอย่างก็จะไปไม่ได้ รัฐบาลจะดูแลทุกภาคส่วน แต่ก็ขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วย เพราะต้องทำงานทุดด้านไม่ใช่ทำอะไรไม่ดีก็มาว่ามาด่ารัฐบาลอย่างเดียว”
จากนั้น เวลา 10.40 น. ที่โรงเรียนสาธิตองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 นายกฯ พร้อมคณะพบปะประชาชนและมอบอุปกรณ์ส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุ และมอบอุปกรณ์การเรียนให้แก่ผู้แทนนักเรียน โดยนายกฯ กล่าวว่า คนนครศรีธรรมราชเป็นคนพูดเร็ว แต่ตนก็ฟังเข้าใจ อย่างเช่นคำว่า อร่อย ก็บอกว่า หร่อยจั่งฮู้ “ผมมาก็ต้องบอกว่ารักจังฮู้”
นายกฯ กล่าวต่อว่าการลงพื้นที่วันนี้ ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน ถ้าอยากให้รัฐบาลทำให้ต้องร่วมมือ ต้องรักรัฐมนตรี และ รักข้าราชการของตน ถ้าใครไม่ดีให้แจ้งมา จะจัดการให้ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต และมาครั้งนี้ก็มาเพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมการแก้ปัญหาอุทกภัย และติดตามการแก้ปัญหาอื่นๆควบคู่ไปด้วย แต่ทั้งนี้การแก้ปัญหาจำเป็นต้องใช้เวลาและต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติจึงจะประสบผลสำเร็จ พร้อมฝากเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รัฐบาลให้มานั้นเพื่อใช้ในเรื่องของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และมีอีกหลายโครงการที่จะดำเนินการเพื่อประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราต้องเดินหน้าประเทศไปสู่ความมั่นคงและมีเสถียรภาพในทุกด้าน รวมถึงความมั่นคงด้านการเมืองด้วย
“ยอมรับว่าขณะนี้มีคลื่นลม แต่เดี๋ยวคลื่นลมก็สงบลงแล้ว แต่จะสงบลงได้นั้นไม่ใช่นายกฯเพียงผู้เดียวทุกคนจะต้องช่วยกันด้วย และยืนยันจะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นเวลา 11.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ สักการะพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อเป็นสิริมงคล โดยนายกฯได้กราบนมัสการและถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระครูโสภณเจติยานุรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ ฯ รวมทั้งได้ทำพิธีห่มผ้าองค์พระธาตุเพื่อเป็นสิริมงคล โดยนายกฯได้ขอให้ทางวัดนำต้นโพธิ์ทั้งสามต้น ที่ขึ้นอยู่บนยอดองศ์พระบรมธาตุเจดีย์ไปปลูกให้เจริญงอกงาม ให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการมากราบพระมหาธาตุฯ ครั้งนี้ มีประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลนำพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก ซึ่งนายอิทธิพล ได้รับปากว่าในปีหน้าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาเพื่อผลักดันอย่างเต็มที่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |