นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนเมืองสู่ความยั่งยืน โดยกำหนดทิศทางการพัฒนาไว้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 การพัฒนาเมืองสู่ความยั่งยืน ที่ต้องคำนึงถึงการพึ่งตนเองได้ มีอัตลักษณ์ มีความภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง สร้างชุมชนน่าอยู่ สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญ คือ การพัฒนาเมืองนั้นต้องมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง กระทรวงฯ ถือเป็นภารกิจสำคัญในการผลักดันนโยบายการปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลักดันให้เกิดเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนในทุกจังหวัดของประเทศไทย ภายใน ปี 2563
นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส. กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการและแนวทางการขับเคลื่อนเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน โดยให้กระทรวงฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนให้มีความชัดเจน เป็นรูปธรรมมากขึ้น ด้วยการกำหนด “1 จังหวัด 1 เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” เป็นเป้าหมายในระดับชาติ เพื่อขยายผลครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ ภายในปี 2563 ซึ่งกระทรวงฯ โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ประสานพลังความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งในส่วนกลาง และระดับพื้นที่ ทั้ง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1-16 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด 76 จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา แกนนำชุมชน ตลอดจนพัฒนาเครื่องมือ รูปแบบการดำเนินงาน ปรับปรุงเกณฑ์ชี้วัดเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ภายใต้ 4 องค์ประกอบ 34 ตัวชี้วัด ได้แก่ เมืองอยู่ดี คนมีสุข สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และเมืองแห่งการเรียนรู้ และการบริหารจัดการที่ดี เพื่อให้ก้าวทันต่อสถานการณ์ทั้งในเวทีระดับอาเซียนและระดับสากล โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากการขยายตัวของชุมชนเมือง (Urbanization) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ระดับพื้นที่ ประจำปี 2562 มอบให้กับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล รวม 107 แห่ง แบ่งเป็น ระดับดีเยี่ยม 52 แห่ง ระดับดีมาก 40 แห่ง และระดับดี 15 แห่ง และรางวัลโครงการประกวดพื้นที่สีเขียวในเมือง ประจำปี พ.ศ. 2561 จำนวน 9 แห่ง แบ่งเป็น ระดับดีเยี่ยม 1 แห่ง ระดับดีมาก 4 แห่ง และระดับดี 4 แห่ง โดยมีนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. เป็นผู้มอบรางวัล ขณะที่ รางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ระดับประเทศ ประจำปี 2562 มอบให้กับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล รวม 57 แห่ง โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล แบ่งเป็น รางวัลชนะเลิศเทศบาลน่าอยู่ อย่างยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศ 3 แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครลำปาง จ.ลำปาง เทศบาลเมืองลำพูน จ.ลำพูน และ เทศบาลตำบลป่าสัก จ.ลำพูน และ รางวัลชนะเลิศเทศบาลด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืนยอดเยี่ยมระดับประเทศ 3 แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ และ เทศบาลตำบลกำแพง จ.สตูล ซึ่งทั้ง 6 แห่งจะได้เข้ารับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อไป อีกทั้งจะได้รับการพัฒนาเสริมศักยภาพ ต่อยอด ยกระดับให้เป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองยั่งยืนภูมิภาคอาเซียน (Environmentally Sustainable City) นอกจากนี้ ยังมอบรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เทศบาลน่าอยู่อย่างยั่งยืน จำนวน 11 แห่ง รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 เทศบาลน่าอยู่อย่างยั่งยืน จำนวน 17 แห่ง รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๓ เทศบาลน่าอยู่อย่างยั่งยืน จำนวน 10 แห่ง รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1เทศบาลด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน จำนวน 1 แห่ง และรางวัลชมเชยเทศบาลน่าอยู่อย่างยั่งยืน จำนวน 12 แห่ง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |