13ก.ย.62-เมื่อกลางดึกคืนวันพฤหัสบดี ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดอุบลราชธานี ศาลากลางจังหวัด นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ออกแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ของจังหวัด และเริ่มมีกระแสความไม่พอใจการทำงานของจังหวัดว่ามีความล่าช้าต่อเหตุการณ์
นายสฤษดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตือนชาวอุบลราชธานีเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์มวลน้ำจำนวนมากที่จะเดินทางถึงในวันที่13ก.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมีมวลน้ำสูงสุด 4,500-4,800 ล้าน ลบ.ม.เดินทางถึง อ.เมืองอุบลฯ วัดปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.วารินชำราบ คาดว่าในวันที่ 13 ก.ย.สูงสุดอยู่ที่ 5,300-5,500 ลบ.ม./วินาที โดยน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในหลายพื้นที่ หากต้องการความช่วยเหลือ ให้แจ้งมาที่สายด่วน 1784 เพราะมีพื้นที่ประสบภัยเป็นวงกว้างเจ้าหน้าที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง
"จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความแตกตื่นตกใจมาก โดยชี้แจงว่ามวลน้ำตามที่โฆษกรัฐบาลระบุนั้น เป็นมวลน้ำก้อนเดิมที่ไหลอยู่ในทุ่งเขตอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี และบางส่วนในพื้นที่ จ.ยโสธร และขณะนี้มวลน้ำดังกล่าวมากกว่าครึ่งหนึ่งได้อยู่ที่แม่น้ำมูลเขตอำเภอวารินชำราบ และอำเภอเมืองอุบลราชธานีแล้ว ซึ่งจะไม่มีมวลน้ำก้อนใหม่เข้ามา โดยปัจจุบันปริมาณน้ำที่วัดได้ บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย หรือจุด M7 อยู่ที่ความสูง 10.91 เมตร ก็ถือว่าเป็นปีที่ปริมาณมากที่สุดในรอบ 17 ปี ของจังหวัด"
สำหรับกรณีที่มีการโจมตีว่าทางจังหวัดไม่มีแผนการรองรับบริหารจัดการน้ำ ทำให้น้ำท่วมหนักในปีนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ทางจังหวัดได้วางแผนทั้งก่อนเหตุ ระหว่างเหตุ และหลังเกิดเหตุไว้ทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการให้ความช่วยเหลือนั้นยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงมีความล่าช้าบ้าง ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำมีปริมาณมากนั้น เพราะเป็นมวลน้ำที่มาจาก ลำเซบาย ลำเซบก แม่น้ำซี ไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำมูลเดิม โดยในช่วงแรกระดับแม่น้ำมูลยังถือว่าบริหารจัดการได้ แต่ด้วยในช่วงก่อนวันที่ 5 ก.ย.ระดับน้ำในแม่น้ำโขง มีปริมาณสูงกว่าแม่น้ำมูลอยู่ที่ 1.25 เมตร ทำให้การระบายได้ช้า
"ซึ่งหลังจากวันที่ 9 ก.ย.ก็มีปริมาณน้ำจากอีสานตอนบนลงมาสมทบ ทำให้น้ำเอ่อน้ำในริมแม่น้ำมูลทั้งอำเภอวารินชำราบ และอำเภอเมือง แต่ในปัจจุบันนี้ปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว ซึ่งในวันนี้ถือเป็นจุดปริมาณน้ำมากที่สุด และจะเริ่มทยอยลดลง หากไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเติมสำหรับการระบายน้ำ ทางจังหวัดได้วางแผนใช้เครื่องผักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งมีปริมาณต่ำกว่าแม่น้ำมูลอยู่ที่ 1.79 เมตร โดยคาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ ระดับน้ำจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และเวลาไม่เกิน 1 เดือน น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆจะลดลง"นายสฤษดิ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |