ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "ทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนดวาระปกติของสภาฯ ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นไม่รับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับการทำงานของสภาฯ การอภิปรายแบบไม่ลงมตินี้ เป็นเรื่องการตรวจสอบทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่เขียนกำหนดไว้ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิอภิปราย ซักถาม เสนอแนะ และให้คำแนะนำ ซึ่งการอภิปรายก็จะเป็นไปตามกรอบข้อบังคับการประชุมสภาฯ" ประธานสภาฯ "ชวน หลีกภัย" เปิดทางให้ฝ่ายค้านซักฟอก "บิ๊กตู่" ปมถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญต่อในวันที่ 18 ก.ย. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องประเด็นไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเห็นต่างจากนักกฎหมายหรือผู้พิพากษาบางคน ที่มองว่าคำพิพากษาของศาลผูกพันทุกองค์กร รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรด้วย ที่ควรจะยุติเรื่องนี้ได้แล้ว สุดท้ายอภิปรายต่อหรือไม่ก็ไม่สะเทือน "บิ๊กตู่" เพราะเรื่องใหญ่กว่าให้ลุ้น 18 ก.ย.วันเดียวกัน ตุลาการรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้เก้าอี้นายกฯ ก็ฉลุย ประคองรัฐบาลปริ่มน้ำให้รอดก็พอ

                ๐ ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เพิ่งจะโดนลิงแผลงฤทธิ์เลิกกินกล้วย ทำให้รัฐบาลมีเสียง ส.ส.ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของสภาฯ ทันที คือ 249 เสียง ก็จะหายอีกหนึ่งในวันที่ 31 ต.ค. เหลือ 248 ใครจะคิดว่าแกนนำเสื้อแดงในอดีต จะกลายเป็น ส.ส.พลังประชารัฐในปัจจุบัน ถึงจะย้ายขั้วแต่ก็หนีผลการกระทำในอดีตไม่พ้นอยู่ดี อย่างน้อยก็ยื้อเวลา ก็น่าจะทำให้มีสิทธิ์โหวตรับกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ก่อนจะปิดฉาก ส.ส. นั่นก็คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญเดือน ต.ค.นี้ ดังนั้นถ้านับเสียงเวลานี้ ก็ยังเป็น 249 ถ้าไม่เกิดปรากฏการณ์ลิงเบื่อกล้วยเพิ่ม ถือเป็นด่านสำคัญที่รัฐบาลประยุทธ์ 2 จะต้องฝ่าไปให้ได้ ถ้าจำกันได้ "ประธานชวน" เคยพูดไว้ในงานสัมมนาปฐมนิเทศ ส.ส.ว่า "การพิจารณากฎหมายงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ ถ้ารัฐบาลแพ้เรื่องนี้อยู่ยาก เพราะปัญหาเสียงปริ่มน้ำ" ก็เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่า ถ้ากฎหมายการเงินไม่ผ่านสภา "บิ๊กตู่" ในฐานะนายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก เชื่อว่าพลังประชารัฐคงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ถึงคิวเรียกใช้งูเห่าอีกรอบ เคยเลื้อยโชว์ตอนเลือกชวนเป็นประธานสภามาแล้ว ที่เอาชนะสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนเสียง 258 ต่อ 235 หักลบคูณหารแล้วโผล่มา 7 ตัว โหวตรับหลักการกฎหมายงบประมาณปี 63 ไม่น่าพลาด แค่จะมากี่ตัวเท่านั้นแหละ อย่าลืมว่างูเห่ายุคนี้ไม่ใช่งูเห่าครั้งเดียวจบหรือทำงานเต็มเวลาแบบเดิมๆ อีก แต่จะแนวพาร์ตไทม์รับเป็นจ๊อบๆ ไป เสร็จงานก็คืนร่างเดิม วินวินทั้งคู่

                ๐ ดรามาไม่แพ้ดารา! 3 วันก่อน "ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้องทุกข์กับสื่อว่าถูก ส.ส.พรรคเดียวกันบุกตบกะโหลกต่อหน้าต่อตาหัวหน้าพรรค จนเป็นข่าวใหญ่โต ประกาศปาวๆ กลัวตายถึงขั้นจะไปร้อง ผบ.ตร.ให้ส่งตำรวจคุ้มครองทีเดียว พอวันรุ่งขึ้น หายตัวไปซะอย่างงั้น ปล่อย "บิ๊กแป๊ะ" รอเก้อ ฟากคู่กรณี "นวัธ เตาะเจริญสุข" ส.ส.ขอนแก่น เล่าว่า แค่จะเรียกออกมาเคลียร์ เลยให้คนขับรถพาออกมา ไม่ใช่มือปืนอย่างที่เสี่ยโจ้โพนทะนา หายไป 2 วัน เสี่ยโจ้โชว์ภาพหรานอนรักษาอาการป่วยอยู่โรงพยาบาล มี ส.ส.ไปเยี่ยม ไม่ยักจะใช่คนพรรคเดียวกันหรือฝั่งเดียวกัน กลายเป็น ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐซะงั้น เมาธ์กันให้แซดสนั่นเพื่อไทย เพื่อนเอือมกันหมด ไม่ได้ฉาวแค่ 2 คน ลากพรรคเละไปด้วย สุดท้ายเจ้าตัวก็ชวดนั่งประธานคณะกรรมาธิการที่หมายมั่นปั้นมือไว้ สังเวยวีรกรรมครั้งนี้.

ลี้คิมฮวง