แม้เข้าสู่วัยหลัก 7 แต่ทว่าความสวยยังคงเปล่งประกายจนหลายคนเดาอายุไม่ออก สำหรับ ส.ว. เพ็ญพักตร์ ศรีทอง ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งก่อนหน้าเจ้าตัวเป็นเลขาธิการสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และประธานคณะกรรมการฝ่ายผลิต และจำหน่ายดอกมะลิวันแม่แห่งชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำปีทุกปี แม้ทุกวันนี้จะทำงานด้านการเมือง แต่ก็ยังไม่ทิ้งงานเพื่อสังคมที่สภาสังคมสงเคราะห์ฯ เพราะล่าสุดได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและมอบของให้กำลังใจสตรีที่อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแม่ ณ จังหวัดลำปาง หรือแม้แต่บทบาทหน้าที่ด้านการเป็น ส.ว.นั้น ก็ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธร ผ่านกิจกรรมสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข และปัจจุบันอายุ 72 ปี แต่เจ้าตัวก็บ่ยั่น ยังคงทำงานเพื่อส่วนรวม แถมเสื้อผ้าหน้าผมยังจัดเต็ม ดูดีไม่มีพร่อง งานนี้เลยอดสงสัยไม่ได้ จึงเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ และการแบ่งเวลาในการทำงานรับใช้ประชาชนมาบอกกัน

        พี่เพ็ญพักตร์ บอกว่า “การดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ ถือเป็นการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บไปด้วยในตัว ทั้งนี้เจ้าตัวใช้หลัก 4 อ.อย่าง “อากาศ” “อารมณ์” “อาหาร” รวมถึง อ.สุดท้ายอย่าง “อุจจาระ” ซึ่งเคล็ดลับดังกล่าวเป็นเรื่องพื้นฐานในการดูแลสุขภาพที่เราจำเป็นต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น เพราะถ้าเราดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแต่เนิ่นๆ ถือเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศ ในการนำเงินส่วนนั้นมารักษาประชาชน และถ้าเราร่างกายแข็งแรงก็ไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินนอกระบบเพื่อมาใช้รักษาตัวเอง รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ หรือพูดง่ายๆ คือไม่ต้องเป็นหนี้

      “เรื่อง “การเลือกรับประทานอาหาร” นั้น เน้นเป็นอาหารที่ครบ 5 หมู่ แต่ก็จะสลับหมุนเวียนไป เช่น วันนี้กินปลากับผัก พรุ่งนี้กินเนื้อสัตว์บ้าง แต่ไม่มาก เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน ที่สำคัญในอาหารทุกมื้อจะต้องมีผักสดเป็นส่วนประกอบ แต่จะปรุงด้วยการต้มหรือลวก เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น และจากการที่พี่เป็นคนไม่รับประทานอาหารที่มีไขมัน ทำให้ตัวเองเป็นผู้สูงวัยที่ไม่ปัญหาสุขภาพอย่างอาการไขมันสูง และไม่เป็นความดันโลหิต พูดง่ายๆ ว่าไม่เป็นโรคเรื้อรัง รวมถึงอาการปวดเข่าปวดขา ก็ไม่มีแต่อย่างใด

      ส่วน “การออกกำลังกาย” นั้น เมื่อก่อนก็ใช้การยืดเส้นด้วยการเล่นโยคะท่าพื้นฐาน เนื่องจากเราอายุมากขึ้น และมีภาระหน้าที่การงานมากขึ้น ก็จะเลือกใช้วิธีการเดินออกกำลังกายเช้าและเย็นในสวนสาธารณะ เพราะข้อดีของการเดินทำให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เจอเพื่อนๆ และได้เดินชมดอกไม้ที่ปลูกไว้ในสวนสาธารณะ ก็ถือเป็นอาหารตาที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ที่สำคัญยังเป็นการออกกำลังกายที่เราไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด แต่ทว่าช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี    ขณะที่ “การดูแลจิตใจให้แจ่มใส” และยิ้มแย้มอยู่เสมอ โดยส่วนตัวจะไม่เก็บเอาสิ่งที่ไม่ดีมาเป็นกังวล และทำตัวเองให้สบายๆ รวมถึงการที่ได้ช่วยเหลือสังคม ผ่านงานที่ทำมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี โดยเฉพาะการช่วยผู้ด้อยโอกาส เพื่อทำให้เขาได้มีความสุขมีสุขภาพที่ดี อีกทั้งสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นั่นไม่เพียงแค่เราได้ช่วยเหลือคน แต่ยังเป็นการสร้างให้เขาได้มีโอกาสในการพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้มันทำให้มีความสุข และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อใดที่เรามีความสุข มันจะออกมาทางหน้าตาที่ยิ้มแย้มและสุขภาพที่แจ่มใส”     เข้าสู่โหมดคำถามที่เกี่ยวกับงานซึ่งทำเป็นประจำ แม้ว่าเข้าสู่หลัก 7 นั้น พี่เพ็ญพักตร์ บอกว่าทำงานตลอดทั้ง 7 วันเลย เพราะล่าสุดได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อีกครั้ง และงานก็ค่อนข้างมากขึ้น ทั้งนี้ก็ยังทำงานที่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ควบคู่กันอีกด้วย ซึ่งล่าสุดได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือสตรี ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตแม่ จ.ลำปาง โดยการมอบสิ่งของเครื่องใช้และกำลังใจในการดำเนินชีวิต

      “ตอนนี้พี่ก็ทำงานทุกวันค่ะ ล่าสุดได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีงานค่อนข้างเยอะ ประกอบกับเมื่อเราอายุมากขึ้น ก็จำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเวลาที่ลงพื้นที่ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน ทั้งการเดินและการเคลื่อนไหวร่างกาย อีกทั้งต้องไม่รีบร้อนจนเกินไป แต่ทั้งนี้ต้องรับผิดชอบงานในหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด อย่างเมื่ออาทิตย์ผ่านมาก็ได้ลงพื้นที่เยี่ยมและช่วยเหลือพี่น้อง จ.อุบลราชธานี และ จ.ยโสธรที่ประสบน้ำท่วม ในการมอบของใช้และให้กำลังใจ ทั้งนี้ก็ไปในนามของกิจกรรม “สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” ส่วนปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน เป็นเรื่องปกติที่พบได้เสมอๆ แต่ก็จะยึดหลักที่ว่า อะไรที่เราทำ หรือช่วยเหลือคนได้ก็ทำ แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นไม่ได้ดั่งใจหรือไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่ตรงเป้าหมาย ก็จะบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว และไม่เก็บเอามาเครียด นั่นจึงทำให้พี่เป็นคนที่ไม่เครียดกับการใช้ชีวิตมากนัก”.