“วิษณุ” ลั่นรัฐบาลตระหนักเรื่องธรรมาภิบาล “เสรีพิศุทธ์” ฝอยเป็นผู้ให้ข้อมูลออสเตรเลีย ซัด “ไอ้ธรรมนัส” ต้องเจอคนอย่างผม เด็กเสรีรวมไทยพาเหรดถามกระทู้สดพ่วงอัดอย่าบีบน้ำตา “ธรรมนัส” แจงยิบประกาศก้องไม่เคยรับสารภาพค้าหรือขนยา ข้องใจปี 57 สมัคร ส.ส.ไม่เห็นมีเรื่อง ลั่นฟ้องเช็กบิลเพื่อไม่ให้จมกับฝันร้าย
เมื่อวันพุธ ยังคงมีความต่อเนื่องในชีวประวัติของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องหยิบยกเรื่องคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัสขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น ต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตอบเสียก่อน เพราะเขารู้มากกว่าคนอื่น สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นเรื่องที่บุคคลรู้ด้วยตัวอื่น บุคคลอื่นหารู้แทนได้ไม่ และการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีก่อนเข้ารับตำแหน่งนั้น เป็นหน้าที่ของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อมีอะไรเขาจะมารายงานให้นายกฯ ซึ่งแม้รับทราบก็เป็นเรื่องที่เล่าให้ฟังกัน เพราะรู้จักกัน
เมื่อถามว่า ได้ทราบข้อมูลที่มีการเปิดเผยนี้ในระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทราบบางส่วน เพราะจากการตรวจสอบและมารายงานบางส่วน จึงแนะนำให้เชิญเจ้าตัวมาถาม ซึ่งเขาได้เชิญแล้ว และ ร.อ.ธรรมนัสมีการเอาหลักฐานมาแสดงชั้นหนึ่งแล้ว ส่วนเรื่องคำพิพากษาของต่างประเทศ ไม่ทราบว่าชี้แจงหรือไม่
ถามต่อว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องธรรมาภิบาล นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลต้องตระหนัก ส่วนจะวิธีไหนอย่างไรตอบไม่ได้ อยู่ที่นายกฯ และเจ้าตัวด้วย เพราะถือว่าใหญ่ที่สุด มีอะไรต้องเอามาแสดง
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ระบุว่า การค้ายาเสพติดก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่ามาอ้างว่าเป็นเรื่องการตัดสินของศาลต่างประเทศ คนค้ายาเสพติดก็ชั่วกันทั้งนั้น คนแบบนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร ซึ่งถ้าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะลาออก เพราะเป็นคนเสนอแต่งตั้งคนชั่วมาเป็นรัฐมนตรี ไปให้พระมหากษัตริย์โปรดเกล้าฯ ลงมาโดยไม่กลั่นกรอง ซึ่งรัฐบาลนี้มีคนเลวเยอะ อย่างกรณีของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้มีอิทธิพล
เมื่อถามการตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ กรณีที่รัฐมนตรีติดคุกคดียาเสพติด จะถามเรื่องอื่นหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ในรายละเอียดที่สื่อเสนอข่าวมีการอ้างถึงราชวงศ์ ทั้งนี้ มาตรา 112 ระบุว่า ผู้ใดดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี และรัชทายาท จากนี้จะต้องถูกจำคุกดำเนินคดี
ถามอีกว่า มีการอ้างว่าใช้สื่อเป็นขบวนการเพื่อดิสเครดิต ร.อ.ธรรมนัสนั้นฟังขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ไม่อยากพูดว่าตนเองเป็นคนให้สื่อออสเตรเลียหาข้อมูลมาแล้วส่งไปให้สื่อที่นั่น ทั้งนี้ สื่อออสเตรเลียก็มีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อรัฐบาลไม่ทำ ในฐานะฝ่ายค้านจึงต้องหาทางอ้อมในการตรวจสอบ หากจะด่าก็ให้มาด่าตนเอง
โอ่เป็นคนให้ข้อมูลออสซี่
ต่อข้อถามว่า กลัวจะถูกฟ้องหรือไม่นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า นักโทษยาเสพติดจะมาฟ้องคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร เพียงให้เขาไปหาข้อมูลให้ปรากฏ ไม่ได้บอกวิธีว่าต้องทำอย่างไร ทั้งนี้ ไม่ได้จ่ายเงินให้สื่อออสเตรเลีย เพราะเขาไม่เอาคนชั่วอยู่แล้ว ยอมรับว่าเป็นคนโยนประเด็นไปให้สื่อออสเตรเลียเอง จะไม่ทนเห็นรัฐบาลอุ้มคนค้ายาเป็นรัฐมนตรี
“ตอนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำไม่ถูกรัฐธรรมนูญ ผมยังกดดันให้ลาออกเลย แล้วไอ้ธรรมนัสมันเป็นใคร ดังนั้นจึงต้องเจอคนอย่างผม” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวและว่า เมื่อถูกศาลพิพากษาต้องโทษจำคุก แม้มันจบไปแล้ว แต่ยังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ส.อีกหรือ ตอนนี้ยังไม่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย เพราะต้องดูท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ก่อน ความจริงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจง่ายจะตาย ตอนตัวเองถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบยังตัดสินใจได้เลย คือยังหน้าด้าน ดื้อตาใส ในสภาจึงพูดว่า หน้าด้านทั้งนั้น ทั้งปล้นทั้งโกง
ต่อมาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ โดยในช่วงกระทู้ถามสดนั้น พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพร่ศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ถาม พล.อ.ประยุทธ์ถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัสหลังสื่อออสเตรเลียนำเสนอข่าวการพัวพันคดียาเสพติด ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ตอบกระทู้ถามด้วยตัวเอง
โดย ร.อ.ธรรมนัสตอบกระทู้ว่า ได้รับมอบหมายจากนายกฯ โดยกรณี พล.ต.ท.วิศณุถามว่า นายกฯ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และยังกล่าวถึงเหตุการณ์ปี 2540-2541 คดีที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตนั้น แทบไม่น่าเชื่อว่าได้ยินจากปาก พล.ต.ท.วิศณุ แสดงว่า พล.ต.ท.วิศณุไม่เคยติดตามข่าวสารว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เนื่องจากไม่เคยเป็นผู้ต้องหาในคดีใดๆ ทั้งสิ้น และเรื่องนี้จบแล้ว ศาลให้ชนะคดี เพราะศาลสั่งยกฟ้อง ส่วนที่สื่อออสเตรเลียนำเสนอข่าวนั้นเคยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแล้ว และทุกคนทราบว่าอะไรคืออะไร เดินทางไปออสเตรเลียมีเวลาอยู่ในนครซิดนีย์ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เด็กตัวเล็กๆ จากบ้านนอกพูดภาษาอังกฤษยังไม่รู้เรื่อง และไม่มีเงินจะสู้คดี ต้องใช้ทนายอาสาของออสเตรเลีย ไม่เคยรับสารภาพว่าขนยาหรือค้ายา หรือนำเข้ายาเสพติด หากเป็นข้อเท็จจริง ไปเอามาเลยว่ารับสารภาพตอนไหน ชี้แจงมาหลายครั้งแล้ว แล้วยังมาถามเช่นนี้
“ผมไม่เคยถูกตัดสิน เพียงแต่รอการตัดสินอยู่ในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ผู้พิพากษาท้องถิ่น ณ เวลานั้นบอกว่าผมมีหน้าที่เป็นพยานให้กับผู้ถูกกล่าวหาอีกคนหนึ่งที่เป็นฝรั่ง เมื่อครบ 4 ปี ผมไม่เคยอยากกลับไทย อยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่นั่น แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายให้กลับ จึงกลับไทย ดังนั้น ศาลออสเตรเลียเสนอให้ผมอยู่จนวาระการเป็นพยานจนครบ 4 ปี และท้ายที่สุดศาลก็ยกฟ้องผู้ต้องหาที่ผมเป็นพยานด้วย”
ข้องใจปี 57 ไม่เห็นโวย
ร.อ.ธรรมนัสระบุอีกว่า ปี 2557 มีการเลือกตั้ง ส.ส. ก็สมัครเป็น ส.ส.พรรคหนึ่งในบัญชีลำดับที่ 55 หากไม่มีรัฐประหารเวลานั้นก็เป็น ส.ส. ไม่เห็นจะมีใครโจมตีใดๆ ซึ่งขอตอบแทนนายกฯ ว่า ชีวิตผ่านพระราชกฤษฎีกาการล้างมลทินมาหลายฉบับแล้ว ทำงาน 7 วันในรอบสัปดาห์ ไปเยี่ยมพี่น้องประชาชนทุกภาค เขากำลังลำบากกันอยู่ ไปเยี่ยมที่อุบลราชธานี เห็นน้ำตาของชาวบ้านแล้ว ในฐานะที่เป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ ทำไมไม่เห็นใจเขา เอาแต่เรื่องไร้สาระมาสาดใส่กัน
จากนั้น นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ท่านรัฐมนตรีอย่ามาบีบน้ำตาที่นี่ ทุกคนก็คิดถึงพี่น้องประชาชนเช่นกัน แต่ประธานการประชุมได้สั่งยุติการประท้วงก่อน
ร.อ.ธรรมนัสจึงชี้แจงต่อว่า อยู่กับปัจจุบัน และโชคดีที่สุดที่ได้ใช้เวลานี้มาชี้แจงเรื่องในอดีตเมื่อกว่า 20 ปี และจะไม่ยอมให้อดีตมาทำลายอุดมการณ์ว่า จะทำงานเพื่อบ้านเมืองและประชาชน ไม่ว่าจะอยู่สถานะใด ขอทำงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาไว้เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะไม่ยอมอยู่กับเรื่องเก่าๆ ที่เป็นฝันร้ายของตน หลังจากนี้ ฝันร้ายเหล่านี้ต้องหายไปจากชีวิต และหากใครสงสัยประเด็นเหล่านี้ ไปถามส่วนตัวด้วย จากนี้จะเอาจริงเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าใครก็ตามที่พาดพิง และต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคนที่ให้เกียรติ ทราบว่า หลายคนให้กำลังใจทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ชีวิตลูกผู้ชายคนนี้ หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชน ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ยินดีทำด้วยความเต็มใจและทำให้ดีที่สุด
พล.ต.ท.วิศณุได้ลุกขึ้นสอบถามอีกว่า ขอสอบถามไปยังนายกฯ หากรัฐมนตรีพัวพันคดียาเสพติด ถือเป็นโทษร้ายแรงที่จำเป็นต้องปรับออกจากคณะรัฐมนตรีหรือไม่ แต่นายศุภชัยกล่าวต่อสมาชิกว่า รัฐมนตรีได้ตอบคำถามครบถ้วนแล้ว คงไม่ต้องตอบคำถามว่าต้องลาออกจากรัฐมนตรีอีกหรือไม่ ก่อนให้ที่ประชุมสภาพิจารณาเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป
นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ ระบุว่า ช่วงเวลานี้มาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองของนักการเมืองและผู้บริหารประเทศถือว่าตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์
นายเชาว์ มีขวด ทนายอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องดังกล่าวเช่นกันว่า ขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ที่พูดเสมอว่าตัวเองเป็นคนดี ให้ทบทวนบุคคลที่ตัวเองแต่งตั้งว่ามีความเหมาะสมที่จะทำงานในฐานะรัฐมนตรีหรือไม่ หากไม่เหมาะสมก็ควรปรับเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นมลทินที่ติดตัว ร.อ.ธรรมนัส จะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่จะแผ่ขยายสร้างความมัวหมองให้รัฐบาลชุดนี้
ขณะเดียวกัน นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ แกนนำคนอยากเลือกตั้ง ได้เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณาคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |