เตรียมเฮลุ้นลดค่ารถไฟฟ้า


เพิ่มเพื่อน    

            ถือเป็นกระแสร้อนแรงกันเลยทีเดียว หลังจาก ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้พูดถึงนโยบายลดค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดค่าโดยสารขนส่งสาธารณะทุกระบบ รถไฟ รถเมล์ รถไฟฟ้า ล่าสุดเพิ่มทางด่วน มอเตอร์เวย์ โทลล์เวย์ เป็นต้น

                ทั้งนี้ หลังจากมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดคมนาคมแต่ละหน่วยงานต้องกลับไปศึกษาและพิจารณาหาแนวทางและมาตรการการปรับลดภาระค่าครองชีพด้านการเดินทางให้แก่ประชาชนเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนดูภาระขององค์กรว่าปัจจุบันมีภาระมากน้อยแค่ไหนและยังพอมีช่องว่างเหลือพอที่จะออกมาตรการลดภาระค่าครองชีพหรือลดค่าโดยสารได้หรือไม่อย่างไร

                สำหรับความคืบหน้าล่าสุดประกาศหั่นค่ารถไฟฟ้าแบบจัดโปรลดราคา 40% กันเลยทีเดียว ช่วงนอกเวลาเร่งด่วนหรือ(ออฟพีก) เวลา 10.00-16.00 น. และ 20.00-24.00 น. รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ จะเก็บค่าโดยสารลดลง 17-20 บาท ไม่ว่าจะเป็นช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ สูงสุด 25 บาท หรือช่วงบางซื่อ-บางแค สูงสุด 30 บาท และบางใหญ่-เตาปูน สูงสุด 25 บาท หรือจะรถเมล์เย็น(รถปรับอากาศ) 10-15 บาทตลอดสาย ยังไม่หมด แถมโปรค่ารถไฟฟ้าเอาไปลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท เพิ่มโปรไปอีกสำหรับคนใช้ตั๋วรายเดือน ลดเพิ่มทันทีอีก 5 บาท

                แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นหน่วยงานที่จะต้องพิจารณา ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมกำหนดแนวทางลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขร. ตั้งเป้าหมายจะประชุม 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปแล้วนั้น จะนำเสนอแนวทางให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยเชื่อว่าการปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า จะสามารถประกาศบังคับใช้ได้ปีนี้

                อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นต้องหารือกับผู้ประกอบการถึงรูปแบบในการปรับลดราคา เช่น บีทีเอส ปัจจุบันมีตั๋วเดือนอยู่แล้ว โดยมีรูปแบบการใช้งาน ซื้อภายใน 1 เดือน คิดค่าเดินทางเป็นเที่ยว ถูกสุดเที่ยวละ 26 บาท สูงสุดมากกว่า 45 บาท ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินและแอร์พอร์ตลิงค์ที่ยังไม่มีตั๋วเดือน ซึ่งต้องหารือว่ามีแนวทางปรับลดค่าโดยสาร เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างไร

                ขณะเดียวกัน จะต้องหารือร่วมกับเอกชนว่า จะสามารถปรับลดราคาจากราคาสูงสุด 45 บาท เหลือ 25 บาทได้หรือไม่ โดยในปัจจุบันช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (ออฟพีก) หรือมีเวลาประมาณ 13 ชั่วโมง ซึ่งจะมีการลดค่าโดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารน้อย และจะเป็นการดึงดูดให้มีคนมาเดินทางมากขึ้น ช่วยลดความแออัด ทั้งยังลดการใช้รถส่วนตัวด้วย ในส่วนของช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งเช้า-เย็นอยู่ที่ 5-6 ชั่วโมงนั้น จะเสนอแนวทางลดราคาจากการจัดทำตั๋วเดือนกับลดค่าโดยสารทำเพดานสูงสุดช่วงหลังชั่วโมงเร่งด่วน

                อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือหน่วยงานต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ จะไม่กระทบกับสัญญาสัมปทานและงบประมาณที่จะใช้ รวมถึงจะหารือว่ามีความพร้อมหรือไม่ และฟังเงื่อนไขของผู้ประกอบการ เนื่องจากรถไฟฟ้าใช้ระบบที่แตกต่างกัน แต่ในเบื้องต้นนั้น ทุกฝ่ายยินดีที่จะเข้าร่วม แต่ถ้าจะทำให้เกิดทั้งระบบ ทั้งสัมปทานและภาครัฐ คาดว่าจะสรุปภายในเดือนนี้

                ก็ต้องมาลุ้นกันว่าในส่วนของกรมการขนส่งทางรางที่รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคม สามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลาที่ตั้งเป้าไว้ได้หรือไม่ เพราะนี้คือส่วนหนึ่งที่ประชาชนที่ใช้บริการรถสาธารณะและรถไฟฟ้า ต่างคาดหวังที่จะใช้บริการในราคาที่เหมาะสม หลังจากมีรายงานข่าวบอกว่าค่าโดยสารของไทยแพงที่สุดในโลก.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"