นายกฯ ตรวจน้ำท่วมยโสธร-อุบลฯ เว้าอีสานให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย เผย "ในหลวง-พระราชินี" ทรงห่วงใยประชาชน ยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง เร่งหามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม สั่งทุกหน่วยเยียวยา ปลุกทุกคนต้องรักกัน อย่าเชื่อโซเชียลยุแยงให้เกลียดกัน "เทวัญ" สั่ง พศ.ดูแล 178 วัดที่ได้รับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 9 กันยายน เวลา 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องบิน บ.ท.135 (Embraer) เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยใน จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี พร้อมกับรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูง อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวก่อนลงพื้นที่ว่า ต้องบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธรยังมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ จึงต้องดูแลเรื่องที่พักและอาหาร โดยมีการตั้งโรงครัวพระราชทาน น้ำดื่ม และการสัญจรไปมาของประชาชนที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดรถและเรือมาบริการประชาชน ศูนย์การซ่อมสร้างถนนที่ชำรุดจะแก้ไขปัญหาใช้ได้เฉพาะหน้าไปก่อน
ส่วนหลังน้ำลดจะต้องสำรวจความเสียหายให้ชัดเจน โดยใช้ระเบียบหลักเกณฑ์เดิมของกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีอยากให้มีการพิจารณาหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้เสนอมาตรการ แต่คงไม่ทันเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะนอกจากงบของแต่ละหน่วยงานแล้วยังสามารถใช้งบฉุกเฉิน โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ต่อมาเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อ.เมืองอุบลราชธานี จากนั้นเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังจุดจอด ฮ.สวนสาธารณะพญาแถน ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร โดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างที่นายกฯ นั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ได้กางแผนที่เพื่อดูผังเมืองสภาพภูมิศาสตร์ พบว่าส่วนใหญ่ความเสียหายเกิดจากน้ำล้นตลิ่งไหลท่วมเป็นวงกว้าง จึงสั่งให้เร่งระบายน้ำหรือจูงน้ำไปหาที่กักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้ง
สำหรับพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นของประชาชน นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานในท้องถิ่นทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และหามาตรการช่วยเหลือทดแทนหากต้องใช้เป็นพื้นที่แก้มลิงอย่างที่เคยทำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและพิษณุโลก รวมทั้งยังได้สั่งการให้เพิ่มการขุดลอกลุ่มน้ำสาขา ทำพนังกันน้ำประตูน้ำเพิ่มอีก นายกฯ ได้ย้ำว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ในคราวเดียว จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและหน่วยราชการในท้องถิ่น รวมถึง ส.ส.ในพื้นที่ให้ความรู้แจ้งเตือนประชาชน
รบ.ไม่ทอดทิ้งผู้ประสบภัย
จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางด้วยรถทรานส์ฟอร์เมอร์ หมายเลขทะเบียน 7 กบ 5125 กรุงเทพมหานคร ไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่วัดกลางศรีไตรภูมิ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.เมืองยโสธร ทันทีที่ไปถึงได้ทักทายและให้กำลังใจหน่วยแพทย์ที่มาดูแลประชาชนว่า "เหนื่อยหน่อยนะ มีภัยแบบนี้ก็ต้องช่วยกัน" โดยมีนายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จากนั้นนายกฯ ได้กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 200 คนว่า ได้นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาด้วย เพื่อให้ทุกคนสบายใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งทุกคน และสิ่งแรกที่มาวันนี้อยากนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ที่ทรงเป็นห่วงประชาชนและฝากความห่วงใยมากับรัฐบาล และผ่านโครงการต่างๆ ของทุกพระองค์
อย่างไรก็ตาม วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 32 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลคนทุกจังหวัด ไม่ได้ทำให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เราเคยเจอเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 มาแล้ว เหตุการณ์วันนี้ต้องมีกำลังใจ ซึ่งทุกคนได้รับความเดือดร้อนแน่นอน เพราะฝนตกมากกว่าปกติ ส่วนเรื่องการทำนาจะไปบังคับใครไม่ได้ แต่หากทำแบบเดิมจะมีปัญหาแบบเดิมและทำให้เสียงบประมาณ จึงขอให้บางส่วนลองทำเกษตรแบบผสมผสานเพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร
สำหรับการเยียวยาทางการเกษตรนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือตามกฎหมายและกฎระเบียบของกระทรวงการคลัง รวมถึงค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต และทราบว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 23 คน ตนขอแสดงความเสียใจ ทั้งนี้เชื่อว่าสามารถช่วยเหลือได้มากกว่านี้ โดยให้ไปหามาตรการที่เหมาะสมที่เป็นไปตามกฎหมายและพระราชบัญญัติการเงินการคลัง ไม่ใช่ใครพูดว่าจะให้แล้วให้ได้เลยเพราะผิดกฎหมาย คงไม่มีใครอยากให้ตนติดคุก จึงต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. ยืนยันการให้เงินประชาชนตนไม่ได้หวงอะไร แต่ต้องทำให้ถูกต้อง และใครที่บอกว่าทำง่ายๆ อย่าไปเชื่อ ถ้าทำง่ายจริงคงทำกันมานานแล้ว แต่ตนจะทำให้เร็วกว่าเดิม
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ต้องการมาดูด้วยตาตัวเองว่าเป็นไปตามสิ่งที่รายงานขึ้นไปหรือไม่ และขอให้ทุกคนซื่อสัตย์ต่อกันในการไปสำรวจว่าได้รับความเสียหายอย่างไร เพราะทุกคนจะได้ทั้งหมดไม่ได้ เพราะเงินจะไม่พอไปช่วยพื้นที่อื่น ทั้งนี้ 5 ปีที่ผ่านมามาอีสานหลายครั้ง และได้อนุมัติหลายโครงการในการประชุม ครม.สัญจร แต่เวลาทำอะไรต้องมีการศึกษาและสอบถามประชาชน ซึ่งบางครั้งประชาชนไม่ยอมก็เป็นปัญหาว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร แต่หากจำเป็นก็จะมีมาตรการเยียวยา ไม่ได้หมายความว่าจะไปไล่ที่ใคร
"ในส่วนโครงการต่างๆ นั้น งบประมาณปี 2563 ก็เพียงพอจะจ่ายให้ได้ และในส่วนของ 6 โครงการที่จังหวัดได้เสนอมา ก็ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพื่อให้ทัน ม.ค.ปี 63 เพราะเราช้ามากแล้ว เนื่องจากมีการเลือกตั้งและกำลังจะมีเรื่องแก้รัฐธรรมนูญอะไรกันอีก ทำให้ยุ่งไปหมดก็ช่างเขา แต่ผมก็ทำงานของผมไป ที่พูด ไม่ใช่ให้ผมอยู่ต่อ และที่ผ่านมาเราทำมาเยอะแล้ว ทั้งโครงการแก้ภัยแล้งและน้ำท่วม ซึ่งนายกฯ เนรมิตให้ใครไม่ได้ แต่ยืนยันจะทำให้ด้วยความร่วมมือระหว่างเรา และฝากสาธารณสุขให้ดูแลในเรื่องน้ำกัดเท้าและสัตว์มีพิษ รวมถึงไข้หวัด ซึ่งห่วงพวกเราทุกวันทุกคืน อยู่กรุงเทพฯ ผมก็ไม่ได้สบาย เพราะก่อนหน้านี้ฝนไม่ตกก็ต้องสวดมนต์ให้ฝนตก วันนี้ก็ต้องสวดมนต์ให้ฝนหยุดตกอีกแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
'บิ๊กตู่' อ้อนฝากหัวใจไว้ที่นี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯ และ ครม.ได้มอบถุงยังชีพให้ตัวแทนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดยโสธร ทั้งนี้ตลอดการพูดคุยกับชาวบ้าน พล.อ.ประยุทธ์พยายามพูดคุยด้วยภาษาอีสาน แต่ไม่ค่อยมีเสียงตอบรับ จึงพูดว่า "ตกลงฉันพูดอีสานไม่รู้เรื่องหรือจ๊ะ ขอโทษที่ย้ายไปนานแล้ว เกิดโคราชแต่ย้ายไปนานแล้ว"
จากนั้นนายกฯ ได้กราบนมัสการพระครูใบฎีกา ชินาธิปสุรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดกลางศรีไตรภูมิ โดยเจ้าอาวาสได้มอบพระอุปคุตปางจกบาตรให้นายกฯ ทั้งนี้ในช่วงท้ายระหว่างนายกฯ พบกับประชาชน ฝนได้ตกลงมาโปรยปราย
ต่อมาเวลา 16.20 น พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของเทศบาล ต.บ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยมีนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าฯจ.อุบลราชธานี กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า รู้ว่าทุกคนลำบาก ทุกคนเดือดร้อน ก็เป็นห่วงทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ส่วนการซ่อมแซมต้องรอให้น้ำลด รัฐบาลมีความห่วงใย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันทุกพระองค์มีความห่วงใย และมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ และตนมาวันนี้เพราะเป็นห่วง ทุกอย่างรัฐบาลดูแลให้ตามขั้นตอน กติกา และมาวันนี้เพื่อดูว่าจะทำอะไรให้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ รัฐบาลจะใช้เม็ดเงินในการดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุด
"วันนี้โลกในโซเชียลที่เปลี่ยนแปลงอันตรายกับเราที่สุด ทำให้เราแบ่งแยกกัน ทำให้เราไม่รักกัน แล้วเราจะรวมพลังกันได้อย่างไร เหมือนไม้ไผ่เป็นซีกหักได้หมด แต่ถ้ามัดรวมเป็นกำก็หักไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่รวมแขนงไม้ไผ่ให้เป็นกำ และวันนี้ที่ตนมาเพื่อให้กำลังใจท่าน เพื่อให้ท่านมาเจอรัฐบาล ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองรัฐบาลจะช่วยกัน ส่วนของฝ่ายค้านผมก็รับมา อะไรที่เป็นประโยชน์ทำได้ก็ทำ เพราะถือว่าทำให้ประชาชน อย่าไปสร้างความเกลียดชังในโซเชียล หรือในการพูดจายุแยงตะแคงรั่วกันนักเลย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว พร้อมถามประชาชนว่าเราต้องรักกันใช่ไหม ต้องไม่ทะเลาะกันใช่ไหม เราต้องฟังคนที่พูดความจริงใช่ไหม โดยประชาชนตอบว่าใช่ นายกฯ กล่าวต่อไปว่าหน่วยราชการต้องช่วยกัน ถ้าบอกทุจริตอย่างเดียวก็คงไม่ต้องทำอะไร
จากนั้นนายกฯ ได้แนะนำคณะและทีมโฆษกที่มาจาก 3 พรรคต่อประชาชน แล้วถามชาวอุบลฯ ว่า "รักนายกฯ บ้างไหม ไม่รักก็ไม่เป็นไร ฉันก็รักเธออยู่แล้ว ขอบคุณทุกคน ฝากหัวใจไว้กับที่นี่ ไปแต่ตัว หัวใจไว้ที่นี่ รักทุกคน สัญญา" หลังจากนั้นนายกฯ ได้มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวน 1,000 ชุด และเดินตรวจสภาพน้ำท่วมในจุดดังกล่าว โดยมีผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐมาต้อนรับด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี? ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ? (พศ.)? เปิดเผยว่า? เป็นห่วงและสั่งการ? พศ.ให้เร่งติดตาม และให้ความช่วยเหลือวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยสรุปวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุลรวมทั้งสิ้น 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ บึงกาฬ เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ รวมมีวัดที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 178 วัด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |