รายงานขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันจันทร์เตือนว่า ในแต่ละปีมีคนฆ่าตัวตายเกือบ 800,000 คน หรือเฉลี่ยทุกๆ 40 วินาที ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าคนสังเวยชีวิตในสงครามและการฆาตกรรม หรือโรคมะเร็งเต้านม และรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกควรมีมาตรการป้องกัน
แฟ้มภาพ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส / AFP
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า อัตราการฆ่าตัวตายทั่วโลกลดลงมาในช่วงระหว่างปี 2553-2559 แต่จำนวนคนฆ่าตัวตายยังคงเดิม เพราะประชากรของโลกมีมากขึ้น ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ กล่าวในแถลงการณ์จากนครเจนีวาเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน ว่าถึงแม้จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีคนเสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตายทุก 40 วินาที
อัตราการฆ่าตัวตายทั่วโลกในปี 2559 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ อยู่ที่ 10.5 คน ต่อประชากร 100,000 คน ทว่าในแต่ละประเทศนั้นอัตราการฆ่าตัวตายแตกต่างกันไป บางประเทศอยู่ที่ 5 คนต่อ 100,000 คน ส่วนประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายต่อประชากรมากที่สุดคือ กายอานา ในทวีปอเมริกาใต้ มีคนฆ่าตัวตาย 30 คน ต่อประชากร 100,000 คน
ในภาพรวม อัตราการฆ่าตัวตายทั่วโลกลดลงเกือบ 10% จากปี 2553 ถึง 2559 โดยในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกนั้นมีอัตราลดลงเกือบ 20% แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงแค่ 4.2% ขณะที่อเมริกาเป็นภูมิภาคเดียวที่อัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น โดยเพิ่ม 6% ภายในช่วงเวลา 6 ปีนั้น
คำแถลงกล่าวว่า อัตราที่ลดลงในภาพรวมเป็นผลสะท้อนของข้อเท็จจริงที่ว่า มี 38 ประเทศที่ใช้ยุทธศาสตร์ป้องกันการฆ่าตัวตาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับความเครียด และลดการเข้าถึงช่องทางที่จะใช้ฆ่าตัวตาย ฉะนั้น ประเทศอื่นๆ อีกจำนวนมากก็ควรใช้มาตรการป้องกันในแบบเดียวกัน
"การฆ่าตัวตายป้องกันได้" ทีโดรสกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศนำใช้ยุทธศาสตร์ป้องกันการฆ่าตัวตายที่ผ่านการทดสอบแล้วบรรจุไว้ในโครงการด้านการศึกษาและสาธารณสุขอย่างยั่งยืน
วิธีการฆ่าตัวตายที่พบมากที่สุดคือ การผูกคอตาย, ยิงตัวตาย และการกินยาพิษ เช่น ยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่พบมากในเขตชนบท.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |