เลื่อนอ่านฎีกาโกงคลองด่าน วิษณุมั่นใจเซฟค่าโง่9พันล.


เพิ่มเพื่อน    

  เลื่อนอ่านฎีกาทุจริตคลองด่าน เหตุจำเลยบางคนยังไม่ได้รับหมายศาล นัดครั้งที่สอง 30 พ.ค.นี้ "วิษณุ" ชี้คดีค่าโง่ 9 พันล้านรัฐภาษีดีกว่า หากสู้กันในศาลปกครองสูงสุด คาดไม่เกิน 1 ปีจบ

    ที่ห้องพิจารณา 407 ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี  เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เวลา 09.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฉ้อโกงซื้อที่ดินและสัญญาสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน สมุทรปราการ ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 1.กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี (NVPSKG) 2.บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง 4.บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง 6.บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัท สี่แสงการโยธา 8.บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์  9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 10.บริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ 12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ 
    13.นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดีเวลลอปเมนท์ 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19.นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยที่ 1-19 ในความผิดฐานฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ที่ดินนั้นเป็นของกลุ่มบริษัทที่จัดหามาแล้วกลับเป็นคลอง ถนนสาธารณะและป่าชายเลน พร้อมฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างฯ มูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท 
    โดยคดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนของกิจการร่วมค้า NVPSKG จำเลยที่ 1 และสั่งประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19 จึงเหลือจำเลยที่เข้าสู่กระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษารวม 18 ราย
    ต่อมาเวลา 12.30 น. ศาลได้มีคำสั่งเลื่อนนัดการอ่านคำพิพากษาฎีกานี้ออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยที่ 11-13, 15 และ 19 ไม่มาศาล โดยจำเลยบางคนยังไม่ได้รับหมาย เพราะเปลี่ยนแปลงที่อยู่ บางส่วนที่อยู่ไม่มีเลขที่ และไฟไหม้ ดังนั้นจึงให้ส่งหมายใหม่ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายตามที่พักของจำเลยตามทะเบียนราษฎร ส่วนการฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาอีกเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายวัฒนา จำเลยที่ 19 นั้น หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว และนอกจากคดีนี้แล้ว ยังถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำคุก 10 ปี เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2551 ด้วย ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ จูงใจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการออกโฉนดที่ดินใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ 1,900 ไร่ ให้กับ บ.ปาล์ม บีช ดีเวลลอปเมนท์ แต่นายวัฒนาได้หลบหนีคดีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาฯ จึงให้ออกหมายจับติดตามนำตัวนายวัฒนามารับโทษตามคำพิพากษา ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 15 ปี
    สำหรับคดีฉ้อโกงเดิม ศาลแขวงดุสิตที่เป็นศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2552 พิพากษา
ให้จำคุกจำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17, 18, 19 คนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12, 16 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท โดยระหว่างอุทธรณ์คดี จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11 13-15, 17, 18 ได้ประกันคนละ 1 ล้านบาท ส่วนนายวัฒนา จำเลยที่ 19 หลบหนีคดีไปก่อน ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและปรับนายประกัน
    ต่อมาคดีนี้ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2556 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง เนื่องจากศาลอุทธรณ์เห็นว่าช่วงเวลาที่บริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 16 ซื้อที่ดิน ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการก่อสร้างบำบัดน้ำเสียจะใช้ที่ดินบริเวณใดบ้าง โดย คพ.เพิ่งมีโครงการชัดเจนว่าจะใช้ที่ดิน ต.คลองด่าน ในเดือน ก.พ.2539 ดังนั้นพยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าพวกจำเลยเข้ามาเกี่ยวข้องหรือดำเนินการใดๆ ให้คณะกรรมการคัดเลือกของ คพ. ให้เลือกที่ดินของ บ.คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 12 อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-19 ฟังขึ้น
    วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางยกเลิกคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการที่ให้ คพ.ชดใช้ค่าเสียหายโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านจำนวนกว่า 9,000 ล้านบาทว่า การจะต้องยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้จ่ายค่าเสียหายจากโครงการดังกล่าวหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดเงินที่จ่ายไปในสองงวดแรกแล้ว และการจะยกเลิกมติ ครม.นั้น ต้องรอให้ทุกอย่างถึงที่สุดก่อน 
    "ตอนนี้กลุ่มกิจการร่วมค้า NVPSKG ยังสามารถต่อสู้ในชั้นศาลปกครองสูดสุดได้อยู่ คพ.ยังไม่ต้องดำเนินการใดๆ อีกทั้งคดีอาญาในเรื่องนี้ ศาลแขวงดุสิตเคยตัดสินไปแล้วว่าผิด ในส่วนของการฉ้อโกงของตัวบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนว่าผิด นอกจากนี้ ในคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ระบุว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐขัดต่อระเบียบราชการนั้น ถือว่าไม่เกี่ยวกับกระทำผิดของรัฐ แต่ให้เอาผิดกับตัวบุคคล" รองนายกฯ ระบุ
    เมื่อถามว่า ดูแนวโน้มวันนี้รัฐบาลมีภาษีดีกว่าใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ดูดีกว่า อย่างน้อยอาจไปยืนยันว่าสิ่งที่ ปปง.อายัดเงินไว้มีเหตุผล งวดที่เหลือไม่ต้องจ่าย รัฐไม่มีอะไรเสียหาย แต่กลุ่มกิจการร่วมค้าเขาเดือดร้อน จึงร้องคุ้มครองชั่วคราวให้ปล่อยเงินดังกล่าวออกมาก่อนจนกว่าศาลปกครองจะตัดสิน อย่างไรก็ตาม หากรัฐชนะคดีนี้จะสามารถรักษางบประมาณของประเทศได้จำนวนมหาศาล
     อย่างไรก็ตาม หากมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด คาดค่าจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน ไม่เกิน 1 ปี เพราะระยะหลังศาลปกครองมีการพิจารณาคดีที่เร็วขึ้น และการต่อสู้คดีในชั้นศาลปกครองสูงสุด หากศาลมีคำสั่งออกมาอย่างใดถือเป็นที่สุดแล้วในคดีนี้. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"