ผ่านมา 1 สัปดาห์ หลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) วาระการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ตำแหน่งผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงจเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) วาระประจำปี 2562 ที่ นายกฯ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มานั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร. ตีตราประทับบัญชีแต่งตั้ง 318 นายพลสีกากี แต่จนถึงขณะนี้รายชื่อผู้ผ่านความเห็นชอบจาก ก.ตร.ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ยังคงไม่มีรายชื่อหลุด ไม่มีรายชื่อรอดออกมาเพิ่มเติม นอกเหนือจากรายชื่อตำแหน่งหลักๆ ที่แพลมออกมาเพียงแค่ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ดูจะชัดเจนแค่นั้น ขนาดตำแหน่ง ผู้บัญชาการ หรือ ผบช. ภาค 1-9 ที่มีรายชื่อโผล่ออกมาแล้ว บางตำแหน่ง บางเก้าอี้ ยังสับสน ยังไม่มีใครออกมายืนยันฟันธงความถูกต้อง โดยเฉพาะเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กับเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) เพราะหะแรกมีชื่อ บิ๊กแซ็ก-พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นรต.38 โยกมาเป็น ผบช.ทท. แล้ว พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.1 แต่ผ่านแค่วันเดียวก็มีข่าว บิ๊กแซ็ก ยังคงนั่งเก้าอี้ ผบช.ภ.1 โดยมี พล.ต.ต.เชษฐา ไปขึ้นเป็น ผบช.ทท. แทน ๐

                เช่นเดียวกับตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เก้าอี้ระดับ เกรดเอ ของ บช.ภ.1 บางแหล่งก็บอก พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 โยกไป ผบก.จว.สมุทรปราการ บางแห่งก็บอก พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.ระยอง นรต.รุ่น 38 จะได้เป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ แวดวง สีกากี ก็เลยยังคงสับสนกันต่อไป เพราะบัญชีแต่งตั้งส่วนใหญ่ถูกรูดซิปปิดไว้อย่างดี ตามที่ นายกฯ ตู่ กำชับกลางวงประชุม ก.ตร.ให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นกระบวนสมบูรณ์ อย่าให้มีคำสั่งหลุดรอดออกไปก่อน ทำให้บัญชีแต่งตั้งที่เคยรั่ว เคยหลุดออกมาเป็นเข่งๆ เหมือนสมัยก่อน สะท้อนให้เห็นยุค บิ๊กตู่ ของจริง ไม่มีใครกล้าปล่อยเอกสารหลุด ไม่มีใครกล้าปล่อยเอกสารรั่ว ทำได้เพียงจดทำได้เพียงจำเท่านั้น รายชื่อที่ออกมาเลยมีแค่หลักๆ ระดับ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จตช. โยกมา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้น รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้น จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้น รอง ผบ.ตร. ส่วนผู้ช่วย ผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง  คือ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. เป็น รอง จตช. (สบ 9) พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ จตร.(หน.จต.), พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ จตร. และ พล.ต.ท.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบช.สงป. ๐

                ฟากฝั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่มี บิ๊กทิน-พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง นั่งกุมบังเหียน เป็น ผบช.ก.ขึ้นปีที่ 2 ก็มีหลายตำแหน่ง หลายเก้าอี้เปลี่ยนแปลง ระดับ รอง ผบช.ก.ว่าง 4  เก้าอี้ มีชื่อ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส., พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา ผบก.รน. และ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบก.ตร.มหด.รอ.904 ขยับขึ้น ส่วน พล.ต.ต.สุภธัช คำดี รอง ผบช.น. นรต.37 เพื่อนร่วมรุ่น บิ๊กทิน โยกมาเป็น รอง ผบช.ก. ครบตามเก้าอี้ว่าง ระดับ ผบก. ก็มีการโยก พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต  ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. มาเป็น ผบก.รน. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.อก.บช.ก. นรต.47  รุ่นคนดังแห่งยุค บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต ผบช.สตม. โยกมาเป็น ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการประจำ บช.ก. สลับมาเป็น ผบก.อก.บช.ก. พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ตร.มหด.รอ.904 นรต.46 ขึ้นเป็น ผบก.ตร.มหด.รอ.904 ๐

                นับถอยหลังเหลืออีกไม่ถึง 1 เดือนก็ต้องถอดเครื่องแบบ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" กลับไปใช้ชีวิตประชาชนเต็มขั้น แต่ดูเหมือน บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.จะยังขยันและตั้งใจทำงานเต็มที่ ขนาดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.เพียงวันเดียว ก็ลุยงานรวดเดียว 3 งาน ไล่ตั้งแต่เวลา  10.00 น.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สภ.ภักดีชุมพล ภ.จว.ชัยภูมิ มอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่และสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจ จากนั้นเวลา 14.00 น.ไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์ตามสมควร ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด พอเวลา 16.00 น.ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่น้ำท่วมทางอากาศในเขตพื้นที่ อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด เพื่อดูผลกระทบของพี่น้องประชาชนที่ได้รับจากเหตุอุทกภัย ทั้งความเสียหายของทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร และเวลา 17.00 น.ตรวจพื้นที่น้ำท่วมเขตพื้นที่ อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด....ต้องยกนิ้วให้จริงๆ ๐

                มาที่ โผทหาร ปลายปี ที่เตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) สองนายได้ขึ้นตำแหน่งหลัก คือ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่เข้า 5 เสือ ทบ. และ พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่ขยับมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ตามที่คาดหมาย ส่วนคนที่ โลว์-โปรไฟล์ และเคยถูกจัดวางตัวให้เป็นดาวรุ่ง ทหารเสือราชินี และเป็นน้องรักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อย่าง  พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ต้องฉีกไปโตในสายอำนวยการ ขึ้นเป็นเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก เพราะวินาทีนี้ ฉก.คอแดง กำลังแรง และเข้าสู่ตำแหน่งคุมกำลังสำคัญกันอย่างพร้อมเพรียง ๐

                ในยุค พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. นอกจากมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนการจัดหน่วยและหลักนิยม ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ยังให้ความสำคัญกับหน่วยผลิตบุคลากร โดยปรับหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ พร้อมวางตัว ผบ.หน่วยที่พร้อมบุกเบิกงานให้พลิกโฉมจนเห็นผลในทางปฏิบัติในโผโยกย้ายครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ ต้นน้ำ ที่เริ่มมีการโรดโชว์ หลักสูตรพระราชทาน สำหรับทหารใหม่ ที่ให้ ฉก.ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ไปเป็นวิทยากรร่วมถ่ายทอดประสบการณ์แล้ว ก็มีการส่ง ครีม ของรุ่นไปเป็น ผบ.รร.จปร. ส่วนในหลักสูตรที่สำคัญและถือเป็นเหมือน "Think Tank" สอนการวางแผน การประสานงาน อำนวยการของทหารบก อย่างโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ก็มีการขยับ พล.ต.บุญรอด ศรีสมบัติ ผบ.โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็นพลโท พร้อมมีชื่อ พ.อ.ดิเรก ดีประเสริฐ รอง ผบ.วิทยาลัยเสนาธิการทหารบก ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน

                สำหรับ อาจารย์บุญรอด ศรีสมบัติ แล้วถือเป็นนายทหารรบพิเศษฝ่ายบุ๋น จบหลักสูตรด้านการทหารจากออสเตรเลีย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารชั้นยอด ศึกษาโมเดลด้านการทหารในต่างประเทศเปรียบเทียบ เพื่อนำมาปรับใช้ในเรื่องการเรียนการสอน ที่สำคัญยังเปิดหลักสูตรให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาศึกษาบริบทความมั่นคงด้านการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังเหตุการณ์ปล้นปืน 2547  สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงต่อเนื่อง จึงมีการเปิดชั้นเรียนที่มีบุคคลจากทุกสาขาอาชีพ เชิญบุคคลจากทุกภาคส่วนเข้ามาเรียนหลักสูตรระยะเวลาสั้น ว่าด้วยหัวข้อ ก้าวไปข้างหน้ากับการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ (ปปส.) เพื่อเข้าใจกรอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปลายด้ามขวานของประเทศไทย ผลงานล่าสุดของ "อาจารย์บุญรอด" ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ชื่อว่า ยุทธไลน์ 100 เป็นงานด้านการทหารที่เขียนโดยอาจารย์ด้านการทหารจริงๆ ซึ่งน้อยชิ้นงานนักที่จะได้เห็นกัน ผู้สนใจงานแบบนี้คงไม่พลาดกัน ๐

                สัปดาห์หน้างานใหญ่ระดับอินเตอร์ของกองทัพบกไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกองทัพบกกลุ่มประเทศภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก 28 ประเทศ ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มีพิธีเปิดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ส่วนวันพฤหัสบดี ดีเดย์ ยานเกราะล้อยางลำเลียงพล สไตรเกอร์ มาเปิดตัวที่หน้าอาคารพิพิธภัณฑ์กองบัญชาการกองทัพบก 4 คัน หลังจากที่สหรัฐฯ จัดส่งให้ ทบ.ไทยแล้ว 10 คัน  และสิ้นปีนี้จะส่งครบ 60 คันตามกำหนดสัญญา ๐