รณรงค์เลิกใช้โฟม ตลาดจตุจักรลำพูน

    "ลำพูน "เป็นจังหวัดที่เคยได้รับรางวัลสะอาดอันดับ 1ของประเทศ เมื่อปี 2560  และในปี2561 ลำพูนได้ประกาศว่า เป็นเมืองปราศจากโฟม (No Foam)  ด้วยเหตุนี้ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)  จึงได้เลือกจังหวัดลำพูน ดำเนินโครงการให้“Say Hi to Bio, Say No to Foam on tour” เป็นจังหวัดแรก นอกเหนือจากกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 12จังหวัด ในช่วง 5เดือนที่ผ่านมา
    โดยจับมือกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดลำพูน  พร้อมเดินรณรงค์ที่ตลาดจตุจักรลำพูน ให้ผู้ประกอบการกว่า 500 ร้านค้า ไม่สั่ง ไม่ซื้อ ไม่ใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร อีกทั้งยังนำบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาจัดโปรฯ แรง ขานรับวาระแห่งชาติ ขีดเส้นตายเลิกใช้โฟมปี 2565

    ศิริพร เดชสิงห์ รองซีอีโอ แม็คโคร ฯ

    ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 1 ในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของแม็คโครก็คือ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา ได้ประกาศเจตนารมย์ในการหยุดจำหน่ายภาชนะโฟมบรรจุอาหารภายใต้โครงการ ‘Say Hi to Bio, Say No to Foam : แม็คโครรักษ์โลก ชวนคุณใช้ผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม’ ใน 12 สาขาแหล่งท่องเที่ยวนำเสนอทางเลือกการใช้บรรจุภัณฑ์ให้ร้านอาหารรายย่อย และส่งเสริมการใช้ด้วยโปรโมชั่นพิเศษตลอดทั้งปี ล่าสุดต่อยอดโครงการด้วยการเปิดตัวกิจกรรม Say Hi to Bio, Say No to Foam on tour รณรงค์ผู้ประกอบการร้านค้าลดใช้โฟม โดยเลือกจังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดแรก และยังจัดโปรโมชั่นขายภาชนะย่อยสลายง่ายในราคาพิเศษอีกด้วย

    “กิจกรรมสัญจร Say Hi to Bio, Say No  to Foam on tour  เป็นโครงการต่อเนื่อง ที่แม็คโคร ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในการลดเลิกใช้บรรจุภัณฑ์ทำลายสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ  และเราออนทัวร์ ลำพูนเป็นจังหวัดแรก เนื่องจาก เป็นจังหวัดมีความเข้มแข็งและเป็นต้นแบบของเมืองสะอาดระดับประเทศ ซึ่งแม็คโคร สาขาลำพูน ยังเป็นสาขาที่ 13 ที่เลิกจำหน่ายโฟมบรรจุอาหารแล้ว”
    ศิริพรกล่าวอีกว่า สำหรับ โครงการ Say Hi to Bio, Say No  to Foam on tour ในช่วง 5เดือน สัญจรไป 12 สาขาแหล่งท่องเที่ยว นับว่าได้รับผลตอบรับดีมาก สามารถลดการใช้โฟมได้ถึง 5ล้านชิ้น จากเดิมที่ขายภาชนะโฟมได้ 13 ล้านชิ้น แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 8ล้านชิ้น  

     "เราคิดว่าต่อไปภาชนะ ที่ไม่ใช่โฟม ทำจากวัสดุธรรมชาติ จะมีราคาถูกลงเรื่อยๆ จากแต่ก่อนเรามีประเภทของภาชนะย่อยสลายง่าย 32แบบ ปัจจุบันก็เพิ่มเป็น 50 แบบ แสดงว่าผู้บริโภคตอบรับดี " 

    ประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ

    ประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ  กล่าวว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญอยู่  ทั้งขยะในทะเล สัตว์น้ำอย่างพะยูน ปลาโลมา ที่ตายเพราะกินขยะพลาสติกในทะเลเข้าไป บ่งบอกว่าเราต้องเลิกพลาสติก ส่วนขยะจากโฟมถือว่าเป็นปัญหาหนัก เพราะกว่าจะย่อยสลายได้ต้องใช้เวลา 600-700 ปี พอๆกับพลาสติกที่ใช่เวลา 400ปีกว่าจะย่อยสลายไป นอกจากนี้ พลาสติกยังหลุดรอดออกไปสิ่งแวดล้อมมาก เช่น โฟมล้างหน้า ที่เป็นเม็ดบีด ทำจากพลาสติก ล้างหน้าหนึ่งครั้งจะมีเม็ดพลาสติกขนาดเล็กไหลออกไปสู่แม่น้ำลำคลองร และทะเล ราว 7แสนชิ้น เมื่อสัตว์ทะเลกินเข้าไป  แล้วเราไปกินปลาอีกที ก็ทำให้เราได้รับเม็ดพลาสติก ซึ่งพลาสติกเหล่านี้ จะมีขนาดเล็กมาก สามารถอยู่ในกระแสเลือด และเข้าไปอุดตันในอวัยวะต่างๆได้ การเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเลิกใช้พลาสติกและโฟม กันเสียที 
    "ขอชื่นชมแม็คโคร ที่มีนโยบายชัดเจน ไม่สนับสนุนการใช้พลาสติกตั้งแต่เริ่มแรก  ไม่ให้ถุงพลาสติกกับลูกค้า ซึ่งเป็นการช่วยส่ิงแวดล้อม และลดขยะพลาสติกในทะเลได้อีกทาง" 

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน

    ด้านอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  กล่าวว่า ปัจจุบันลำพูนเป็นเมืองที่ปลอดขยะเปียก และปราศจากโฟม อีกทั้งการที่ลำพูนเป็นเมืองที่มีโรงงานเยอะมาก ทำให้ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารมากตามไปด้วย ซึ่งถ้าหากไม่มีการดูแล ก็จะทำให้มีขยะที่เป็นกล่องโฟมจำนวนมากด้วยเช่นกัน แต่การที่ลำพูนเป็นจังหวัดสะอาดที่สุดในประเทศ และเรากำลังทำให้เป็นเมืองปราศจากโฟมได้ ก็เพราะชุมชนเข้มแข็ง มีหลายร้านค้าในลำพูนที่ไม่ขายโฟม ซึ่งตนเองกำลังจะย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ก็จะนำแนวคิดเมืองสะอาดของลำพูนไปใช้กับจังหวัดตากด้วย 

     ที่ผ่านมาแม็คโคร ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ผลิตและพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารจากวัสดุธรรมชาติ ทดแทนโฟมและพลาสติก อาทิ ผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย เส้นใยพืช กระดาษ และเส้นใยยูคาลิปตัส  จำหน่ายภายใต้ตราสินค้า aro  พร้อมการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ 10-40 % อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงจูงใจ และแม็คโครยังได้ลดพื้นที่การขายของสินค้าพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง