6 ก.ย. 2562 แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2562 นายซูซูมุ มัตสึดะ ประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิก จำกัด(มหาชน) พร้อมผู้บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ เซลล์(ประเทศไทย) จำกัด เข้าพบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ผู้บริหารโตโยต้าแสดงความกังวลต่อมาตรฐานการบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานน้ำมันยูโร5 และ6 ของไทยที่จะเริ่มบังคับใช้ปี 2564 โดยต้องการให้ไทยดำเนินการอย่างจริงจัง และสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นของมาตรฐานดังกล่าว เพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจ เพราะต้นทุนในการปรับเครื่องยนต์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 บาทต่อคัน
"หากค่ายรถยนต์ อาทิ โตโยต้า ผลิตรถตามมาตรฐานดังกล่าว และวางจำหน่ายตามต้นทุนจริง แต่ถึงปี2564 กังวลว่าอาจมีค่ายรถบางค่ายไม่ให้ความร่วมมือและนำรถยนต์เครื่องยนต์ยูโร 3 และ4 ที่จงใจผลิตสต็อกไว้ มาจำหน่ายแบบให้ส่วนลดพิเศษ หรืออาจเรียกว่าตัดราคา ถึงเวลานั้นผู้ผลิตรถยนต์ที่ให้ความร่วมมือ ลงทุนแล้วจะได้รับผลกระทบอย่างมาก"แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่โตโยต้ายังต้องการให้ไทยเดินหน้าการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และให้สิทธิประโยชน์ในโครงการที่จำเป็นต่อห่วงโซ่การผลิต(ซัพพลายเชน) โดยยังคงต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)การผลิตรถยนต์โดยมีแผนลงทุนต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายสุริยะและโตโยต้ายังหารือถึงผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้า(เทรดวอร์)ระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นในจีนต้องการหาพื้นที่ลงทุนใหม่ที่มีเสถียรภาพ โดยทางโตโยต้ายังเชิญนายสุริยะและคณะที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นเร็วๆนี้ ร่วมหารือกับผู้บริหารโตโยต้าที่ญี่ปุ่นด้วย เพื่อสร้างความสัมพันธ์และหารือถึงโอกาสการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าค่ายรถยนต์มีการปรับตัวเตรียมความพร้อมปรับปรุงเครื่องยนต์รองรับการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 (EURO 5) แต่ขึ้นอยู่กับว่าภาครัฐจะสามารถกำหนดให้โรงกลั่นผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ได้หรือไม่ หรือสามารถดำเนินการได้ปีไหน ซึ่งภาคเอกชนก็พร้อมดำเนินการผลิตตามแผนให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
“เรื่องการลงทุนปรับเครื่องยนต์รองรับมาตรฐานยูโร 5 ต้องยอมรับว่าค่ายรถยนต์บางค่ายมีความพร้อม แต่บางค่ายยังไม่พร้อม เพราะการลงทุนปรับปรุงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ใหม่ต้องใช้เวลาและใช้เงินลงทุนสูง จึงยอมรับว่าอาจมีค่ายรถยนต์บางค่ายได้เปรียบ/เสียเปรียบกัน ดังนั้นภาครัฐควรต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ไม่ควรเร่งรัดฝ่ายใดจนไม่มีเวลาให้ภาคเอกชนสามารถปรับตัวได้ทัน หรืออย่างน้อยทั้งมาตรฐานน้ำมันและเครื่องยนต์ที่บังคับใช้ตามมาตรฐานยูโร 5 ก็ควรเริ่มดำเนินการไปพร้อมๆ กัน หรือ 6 เดือนหลังจากมีน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 แล้ว”นายสุรพงษ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |