ต้องเรียกว่ากระแสฮิตติดลมบนและลุกลามไม่ต่างจาก “ออเจ้า” และ “คุณพี่หมื่น” เสียจริงๆ สำหรับกรณี “เสือดำ” และยังเป็นครั้งแรกๆ ด้วยซ้ำที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ถูกสังคม “ไทยแลนด์โอนลี่” ลืมเลือน ซึ่ง “ศศิน เฉลิมลาภ” ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร วิเคราะห์ถึงสาเหตุไว้น่าสนใจว่ามี 4 ข้อ คือ กระแสอนุรักษ์ธรรมชาติ, ความเหลื่อมล้ำรวย-จน, ภาพลักษณ์-ความไม่ไว้วางใจการทำหน้าที่ของตำรวจ และบทพิสูจน์รัฐบาลนี่เอง ที่ทำให้ 1 เดือนที่ผ่านมากระแส “เสือดำ” ไม่จืดจางลง นับว่าจะลามยิ่งกว่าไฟไหม้ป่าเสียด้วยซ้ำ ยิ่ง กระแสในโลกออนไลน์รวมถึงกราฟฟิตี้ด้วยแล้ว ได้แพร่ขยายไปนอกจากการกระจุกอยู่ที่เมืองกรุง อย่างเดียว ...๐ และต้องบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ยังทำให้ “เปรมชัย กรรณสูต” บิ๊กบอสอิตาเลียนไทยฯ ต้องเปิดหน้าสู้สังคมเป็นครั้งแรกๆ ด้วย ทั้งที่ปกติ “เสี่ยเปรมชัย” แทบจะโลว์โปรไฟล์แบบไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตาด้วยซ้ำ และกรณี “เสือดำ” ยังส่งอานิสงส์ไปยังบรรดาพรรคการเมืองหน้าใหม่ให้หาเสียงเปิดตัวแบบฟรีๆ ด้วย เพราะล่าสุด “ณัชพล สุพัฒนะ” หรือมาร์ค พิทบูล รองหัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ที่เพิ่งไปจดตั้งพรรคก็ขนคณะมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อกดดันเรื่องนี้ ...๐ เหรียญมี 2 ด้านฉันใด เรื่องนี้ก็มีทั้งด้านบวกและด้านลบเช่นกัน โดยดูเหมือน “ด้านลบ” นั้นพุ่งตรงไปยัง “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” รอง ผบ.ตร.แบบไม่มีกั๊กกันเลย เพราะตั้งแต่เอ่ยอ้างเรื่องจะลงดาบกับ “วิเชียร ชิณวงษ์” หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก เรื่องไม่เก็บค่าเข้าด่านของเสี่ยเปรมชัยแบบต้องรีบมาแก้ต่างพัลวันเป็นต้นมา กระแส ด้านลบยังมุ่งเป้า “บิ๊กปู” แบบไม่มียั้ง ยิ่งช่วงหลังๆ ยิ่งหนักข้อจนทำให้เจ้าตัวเตรียมค้าความกับบรรดาเพจในโลกออนไลน์กันแล้ว ...๐ หันกลับมาเรื่องหวย 30 ล้านบาทกันบ้าง แม้จะลดกระแสลงแล้วส่วนหนึ่งก็ตาม แต่สังคมยังคงติดตามการ ลงดาบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกันอยู่ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แม้ล่าสุดกองปราบฯ มีปฏิทินจะแจ้งใน สัปดาห์นี้เอาผิด "พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล” ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในมาตรา 157 ก็ตามที แต่ขาเมาธ์ยังสงสัยว่า แล้ว กรณี “พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข” ผบช.ภ.7 ซึ่งตั้งโต๊ะแถลงเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่าหวยเป็นของครูปรีชา และจะดำเนินคดีกับ “ลุงจรูญ” ทั้งยักยอกทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ไม่มีความผิดเลยหรืออย่างไร ...๐ ดูเหมือนช่วงนี้ต้นทางความยุติธรรมกำลังถูกทดสอบอย่างหนัก งานนี้จึง น่าสนใจเมื่อ “พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์” ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเตรียมสรุปผลการทำงานในวันที่ 28 มี.ค.นี้ แล้ว หลังจากเรียกความฮือฮาในช่วงแรกแล้วหายต๋อมไประยะหนึ่ง งานนี้ต้องรอดูว่า “บิ๊กสร้าง” จะกล้าผ่าตัดตำรวจขนานใหญ่ตามที่สังคมคาดหมาย หรือสุดท้ายแค่ผลศึกษาซื้อเวลาอีกระลอกกันแน่ คงต้องติดตามกันต่อไป ...๐ แหม! ต้องบอกว่า “ไพร่หมื่นล้าน” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ที่เปิดตัวว่าจะจัดตั้งพรรคการเมืองร่วมกับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” นักวิชาการด้านกฎหมาย กลุ่มนิติราษฎร์นั้น ดังกระหึ่มมากที่สุดพรรคหนึ่งเลยก็ว่าได้ ทั้งที่ ยังไม่มีชื่อพรรคและยังไม่ได้ไปจดจองชื่อกับ กกต.เลยด้วยซ้ำ และยิ่ง “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ออกมาระบุว่า “คสช.” กำลังจับตากิจกรรมการให้คนรุ่นใหม่ตั้งชื่อพรรคในโลกออนไลน์ก็ยิ่งเท่ากับ “โฆษณา” ให้พรรคที่ยังไม่เริ่มตั้งไข่เสียด้วยซ้ำ อ้าว พรรคหน้าใหม่ทั้ง 40-50 พรรคดูเป็นตัวอย่างไว้นะว่าการโปรโมตยุค 4-5 จีมันต้องอย่างนี้ ดังได้โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว ...๐ เรียกว่าเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตทีเดียวสำหรับกรณีประกาศศุลกากรที่ 59/2561 และ 60/2561 ซึ่งเป็นเรื่องการแจ้งการนำของติดตัวเข้าและออกประเทศ ที่ดูเหมือนคุมเข้มอย่างมาก ทำให้ “กุลิศ สมบัติศิริ” อธิบดีกรมศุลกากร ต้องมาอรรถาธิบายว่าเป็นกฎหมายเก่าที่มีอยู่เดิม แต่ต้องออกมาล้อกับ “พ.ร.บ.ศุลกากร 2560” ที่เพิ่งประกาศใช้ เพราะประกาศเดิมถูกยกเลิกไปด้วย พิโธ่! มันจะไม่เป็นเรื่องเลย ถ้าชี้แจงตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.2561 ที่อธิบดีกรมศุลกากรออกประกาศ แต่นี่ออกประกาศมาแล้วเพิ่งมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. แล้วไม่มีการชี้แจง ก็เลยถูกการตีความกันนั่นแล อย่างนี้ควรโทษใครกันดีละจ๊ะท่านอธิบดี ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวเบาๆ แต่ก็สะท้อน “วัฒนธรรม” ของคนในชาติได้เป็นอย่างดี เพราะ “Black Panther” หนังซูเปอร์ฮีโร่ฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกาที่ทำเงินถล่มทลายทั่วโลก แต่เมื่อมาเปิดตัวที่แดนปลาดิบ กลับทำรายได้มาเป็นแค่อันดับ 2 เท่านั้น โดย เรื่องที่กวาดรายได้อันดับหนึ่งคือ "โดราเอมอน" การ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น โดยมีรายได้ถึง 843 ล้านเยน ทิ้งห่าง “Black Panther” ที่มีรายได้ 310 ล้านเยนเท่านั้น ...๐
 

...ท.ศักดิ์