ภาพจากแฟ้มข่าว
5 ก.ย.62 - ที่รัฐสภา ตัวแทน 7 พรรคฝ่านค้านนำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายเชาวลิตร ร่วมแถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งให้ทราบว่าศาลจะนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีความเป็นรัฐมนตรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 วรรค1 (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่ ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 14.00 น.จะมีการอ่านคำวินิจฉัย
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การอ่านคำวินิจฉัของศาลรัฐธรรมนูญ จะตรงกับวันที่จะมีการอภิปรายโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ทั้งเรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน และการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่บอกแหล่งที่มาของงบประมาณ เราเกรงว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างไม่มาตอบคำถามในสภาฯ จึงอยากแจ้งสื่อมวลชนไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้ทราบว่าการอ่านคำวินิจฉัยจะเริ่มช่วงเวลา 14.00น. โดยคาดว่าใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ขณะที่เราเริ่มประชุมกันตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยงคืน และคาดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาตอบคำถามในช่วงค่ำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเวลาที่ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มาตอบก็เท่ากับหนีสภาฯ อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องไปฟังคำวินิจฉันด้วยตัวเองในวันดังกล่าว แต่กลับทำท่าทีเหมือนจะไปฟังเอง
ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อสังเกตอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือว่าวันนี้รัฐบาลมีการสร้างข่าวไอโอ ลดน้ำหนักเรื่องการอภิปรายตามมาตรา 152 กล่าวหาว่าฝ่ายค้านละเลยปัญหาน้ำท่วมของชาวบ้าน แต่สนใจเรื่องการถวายสัตย์ ซึ่งเราขอชี้แจงว่าไม่ได้ละเลยปัญหาน้ำท่วม หรือความเดือดร้อนของประชาชน โดยส.ส.ฝ่ายค้านได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือและประจำอยู่ในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม ทำให้วันนี้เราวิตกว่าการลงมติในวันนี้น่าจะมีปัญหา เพราะส.ส.ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่ ตรงกันข้ามรัฐบาล ซึ่งมีศักยภาพทั้งงบประมาณและกลไกในการช่วยเหลือประชาชน กลับไม่เห็นรัฐบาลใช้ประสิทธิภาพเหล่านี้ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ดังนั้นเรารู้ทันว่านายกฯ ที่จะเอาปัญหาน้ำท่วมมาทำลายน้ำหนักของเรา
ประเด็นที่สอง รู้สึกไม่สบายใจในประเด็นที่นายกฯให้สัมภาษณ์ที่บอกว่า “การถวายสัตย์จบแล้ว สมบูรณ์แล้ว ไปดูสิว่าใครลงพระปรมาภิไธย พระบรมราชโองการว่าอย่างไร” ซึ่งการให้สัมภาษณ์อย่างนี้ทำให้ไม่สบายใจ 2 ประเด็นคือ นายกฯใช้ถ้อยคำที่ไม่ค่อยเหมาะสม อยากให้นายกฯระมัดระวังและทบทวน ถ้าคิดว่าคำนี้ไม่เหมาะสม พลาดพลั้งไป ก็ขอให้หาทางแก้ไข เพราะถ้าเป็นเราจะไม่ใช้คำพูดนี้ ส่วนอีกมุมหนึ่งมองได้ว่า วันนี้ฝ่ายรัฐบาลกำลังจะลากฝ่ายค้านไปพูดเรื่องนี้ด้วย แต่การอภิปรายตามมาตรา 152 นั้น ไม่เกี่ยวกับสถาบัน แต่รัฐบาลพยายามพูดหลายครั้งเพื่อลากเราเข้าไปใกล้ เข้าไปนัวเนียกับเบื้องบน ดังนั้นขอเตือนว่าเรารู้ทันเราจะไม่พูด และรัฐบาลอย่าทำแบบนี้เพื่อหวังว่าจะได้ประชุมลับหรือไม่ หรือปัดความผิดว่าไม่ได้อยู่ที่ตัวนายกฯ ดังนั้นจึงขอให้หยุดเพราะเรารู้ทัน และเราจะไม่มีการอภิปรายไปถึงสถาบันอย่างแน่นอน
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เราจะมีการขอหารือนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในวันนี้ (5 ก.ย.) เพื่อขอขยับวันอภิปรายขึ้นมาเป็นวันที่ 17 ก.ย. แทนเพราะเราเชื่อว่านายชวน ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยดังกล่าวในวั้นที่ 18 ก.ย. และเชื่อว่าประธานสภาฯจะไปหารือกับรัฐบาลได้ เพื่อให้นายกฯยกเลิกภารกิจอื่นๆ เพื่อมาชี้แจงในเรื่องนี้แทน ยืนยันเราไม่ได้มากเรื่อง แต่อยากให้ประธานสภาฯทบทวนวัน ทั้งนี้การบริหารบ้านเมืองต้องบริหารทุกเรื่องไปพร้อมๆ หากนายกฯ ทำทีละเรื่องบ้านเมืองแย่แน่นอน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |