สายไปมั้ย "แคร์รี แลม" ผู้นำหญิงของฮ่องกง แถลงเมื่อวันพุธยินยอมทำตามข้อเรียกร้อง 1 ใน 5 ข้อของผู้ชุมนุม ด้วยการเพิกถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างถาวร แต่นักเคลื่อนไหวชี้สายไปแล้ว พร้อมประกาศเดินหน้าสู้ต่อ

ผู้คนหยุดดูทีวีจอยักษ์ที่ถ่ายทอดการแถลงของแคร์รี แลม เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 / Anthony WALLACE / AFP

    ร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่จะอนุญาตให้ทางการฮ่องกงส่งตัวผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในฮ่องกงไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งระบบตุลาการถูกควบคุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นชนวนเหตุที่ประชาชนนับล้านคนชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ตัดสินใจระงับร่างกฎหมายนี้และประกาศว่ากฎหมายนี้ตายแล้ว แต่ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เธอปฏิเสธจะเพิกถอนกฎหมายนี้อย่างถาวร

    เอเอฟพีรายงานว่า ในการแถลงถ่ายทอดทางโทรทัศน์เมื่อวันพุธที่ 4 กันยายน 2562 แลมประกาศว่า รัฐบาลจะเพิกถอนกฎหมายฉบับนี้อย่างเป็นทางการ เพื่อบรรเทาความวิตกของประชาชน

    รายงานข่าวเล็ดลอดออกมาล่วงหน้าส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นของฮ่องกงทะยานขึ้นเกือบ 4% ในการซื้อขายช่วงบ่าย แต่ความหวังว่าฮ่องกงจะคืนสู่ความสงบกลับมลายอย่างรวดเร็ว เมื่อนักเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตยแสดงความโกรธต่อการตัดสินใจของแลม ที่พวกเขามองว่าสายเกินไป และแสดงความมุ่งมั่นจะเดินหน้าประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป

    โจชัว หว่อง แกนนำขบวนการร่มเมื่อปี 2557 ซึ่งถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โพสต์ในเฟซบุ๊กของเขาว่า มันสายไปแล้ว ขอชาวโลกระวังกลยุทธ์นี้ และอย่าปล่อยให้รัฐบาลฮ่องกงและจีนหลอกเอาได้ ความจริงแล้วพวกนั้นไม่ได้ยอมอ่อนข้ออะไรเลย และการปราบปรามอย่างเต็มสูบกำลังจะตามมา

    การประท้วงได้ขยายวงกว้างพ้นจากการต่อต้านร่างกฎหมายอื้อฉาวฉบับนี้ไปแล้ว โดยได้พัฒนาเป็นการปกป้องเสรีภาพและเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

    ผู้ประท้วงซึ่งไม่มีผู้นำเป็นตัวเป็นตน ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อต่อรัฐบาลด้วย นอกจากต้องการให้เพิกถอนกฎหมายอย่างถาวรไม่ให้ส่งกลับเข้าสภาได้อีก ยังรวมถึงการเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนอย่างอิสระต่อคำกล่าวหาว่าตำรวจกระทำการโหดร้ายทารุณ, นิรโทษกรรมผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม, ถอนคำเรียกผู้ประท้วงว่าผู้ก่อจลาจล และให้สิทธิชาวฮ่องกงได้เลือกตั้งผู้นำของตนเองโดยตรง ซึ่งประการหลังเป็นสิ่งที่รัฐบาลปักกิ่งถือว่าล้ำเส้น

    แลมรับปากว่า รัฐบาลจะปฏิบัติตามรายงานของคณะกรรมการอิสระรับเรื่องราวร้องทุกข์ของตำรวจ ตัวเธอและเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าจะติดต่อประชาสังคมเพื่อเริ่มสานเสวนาโดยตรง และเธอจะแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการไต่สวนอย่างอิสระและทบทวนปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมฮ่องกง ส่วนข้อเรียกร้องอีก 4 ข้อนั้น แลมกล่าวว่า มีความเป็นไปได้

    ห้องสนทนาออนไลน์ของกลุ่มผู้ประท้วงเต็มไปด้วยทัศนะโกรธแค้นว่า การเพิกถอนกฎหมายนี้จะไม่ทำให้การประท้วงยุติลง "ทำตามเงื่อนไขหลัก 5 ข้อ ไม่เว้นแม้แต่ข้อเดียว ปลดปล่อยฮ่องกง ปฏิวัติเดี๋ยวนี้" ข้อความหนึ่งที่แชร์กันอย่างแพร่หลายทางแอปเทเลแกรมกล่าว

    ดิกซัน ซิง นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวกับเอเอฟพีว่า รัฐบาลฮ่องกงพยายามล้อมคอกเมื่อสาย มีเพียงการไต่สวนอิสระเท่านั้นที่จะทำให้ความโกรธแค้นสุดขีดและความอยุติธรรมในทัศนะของผู้ประท้วงและประชาชนวงกว้างสงบลงได้

    เมื่อวันอังคาร แลมเพิ่งปฏิเสธว่าเธอไม่คิดถอดใจลาออก หลังจากมีเทปบันทึกเสียงเล็ดลอดออกมาว่าเธอต้องการลาออกแต่ทำไม่ได้ แลมกล่าวเตือนในคำแถลงเมื่อวันพุธด้วยว่า การท้าทายอำนาจปักกิ่งจะทำให้ฮ่องกงอยู่ในสถานภาพที่สุ่มเสี่ยงและอันตราย.