ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีนี้ 12 ขุนพลรักษาพระองค์ ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ระยะเวลา 3 เดือน และได้เข้าดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.), พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก, พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1, พล.อ.อ.ภูมิใจ ชัยพันธ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.), พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1, พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.)
พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2 รอง), พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ รองแม่ทัพภาคที่ 1, พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1, พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รอง ผบ.รร.จปร.), พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11), พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(ผบ.พล.ร.2รอ.)ต่างถูกจับตามอง และมีชื่อเข้าสู่ไลน์ในตำแหน่งสำคัญ
สำหรับผู้ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ 904 ทาง ฉก.จะไปคัดตัวจากหน่วยรักษาพระองค์ทั่วประเทศ ประมาณ 30 กองพัน ไม่นับรวมกรมทหารราบที่ 1 ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) และกรมทหารราบที่ 11 ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.11 ทม.รอ.) ที่ตัดไปรวมกับ พล.1 รอ.ที่เป็นหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ทม.รอ.904) ไปแล้ว
ซึ่ง 30 กว่ากองพัน จะคัดจากนายทหารหลักที่จบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.) และทหารที่เลื่อนฐานะส่วนหนึ่งกองพันละ 20 นาย โดยนายทหารหลักจะต้องเข้ารับการฝึกพื้นฐาน 2 เดือน และฝึกปฏิบัติ 1 เดือน ที่โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ วังทวีวัฒนา นอกจากนั้นยังคัดจากนายสิบกองพันละ 50 นาย พลทหารกองพันละ 50 นาย เริ่มฝึกครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2560 จบรุ่นแรกจำนวน 150 นาย
สำหรับทหารจาก ฉก. เมื่อไปลงในตำแหน่งต่างๆ จะต้องปฏิบัติตัวด้วยความมีวินัยทุกกระเบียดนิ้ว เสื้อผ้าเครื่องแบบ ทรงผมขาวสามด้าน การทำความเคารพ การวางตัวเมื่ออยู่ที่สาธารณะ พฤติกรรมส่วนตัวต้องไม่เป็นที่เสื่อมเสีย
สัญลักษณ์อีกประการคือ เมื่อใส่เครื่องแบบแล้วจะต้องใส่เสื้อยืด “คอแดง” ไว้ข้างใน จนกลายเป็นเรียกทหาร ฉก. และทหารที่อยู่ในหน่วย ทม.รอ.904 โดยตรงว่า “ทหารคอแดง” ซึ่งเมื่อมองจากภายนอกจะรับรู้ได้ว่ามีคุณลักษณะพิเศษ ทั้งบุคลิก การวางตัว เครื่องหมาย เข็มติดหน้าอก ที่แตกต่างจากทหารประจำการที่อยู่ในหน่วยปกติทั่วไป สำหรับเสื้อยืดคอแดงจะใช้สวมใส่ในการฝึกหลักสูตรภาคสนาม และจะใช้ใส่ไว้ข้างในเมื่อต้องใส่เครื่องแบบทหาร
เมื่อหันไปดูตัวบุคคลที่อยู่ใน ฉก.จะเห็นได้ว่า ในโผโยกย้ายครั้งนี้ได้เข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญๆ และบางนายก็จ่อในไลน์เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของเหล่าทัพ ประกอบไปด้วย พล.อ.อภิรัชต์ ที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และ พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็นรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย ซึ่งในปีหน้า พล.ท.ณรงค์พันธ์จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. โดยทั้ง 2 คนยังเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
ในโผนี้ พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1 ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1, พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ได้ขยับเข้าไลน์รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2 รอ.) ได้เข้ามาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่ง พล.ม.2 รอ. ก็เพิ่งโอนเข้ามาเป็นหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเดิมไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของกองทัพภาคที่ 1
ขณะที่ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งแม้จะเป็นทหารเสือราชินี แต่เมื่อเข้ามาเป็น “คอแดง” แล้วถือว่ามีความพร้อมในการก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 (อัตราพลโท) เช่นเดียวกับสายบูรพาพยัคฆ์ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตร 3 สัปดาห์มาแล้ว และได้รับบัตรม่วงไว้ติดหน้าอก ได้แก่ พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่เส้นทางน่าจะสดใส และ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) ที่จะกลับไปคุมกำลังด้านตะวันออก ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.
ส่วนเตรียมทหารรุ่น 23 ถูกส่งไปเป็นเสาหลักด้านการศึกษา ตั้งแต่ปีที่แล้วคือ พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รอง ผบ.รร.จปร.), โผนี้ยังมีชื่อ พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่ถูกโยกไปเป็น รอง ผบ.รร.จปร. เป้าหมายเพื่อไปจัดทัพ ปรับโครงสร้าง วางรากฐานการศึกษาด้านการทหาร ให้กับ นักเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเยาวชนทหาร ต้นทางของกำลังพลที่มีคุณภาพของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ทหารม้าที่โตมาในสายผู้บังคับหน่วยรบ และสายอำนวยการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ก็มีส่วนเขียนแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” ในศึกพระวิหารมาแล้ว โผนี้ถูกส่งไป “แตกกอ” ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นเสนาธิการทหาร เพื่อจ่อขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในปีหน้า หลัง พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เกษียณอายุราชการ
ยังไม่รวมเหล่าบรรดาดาวรุ่งในโผนี้ เช่น พ.อ.ทรงพล สาดเสาเงิน รอง ผบ.พล.1 รอ.ที่จะขยับขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. และ พ.อ.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่เข้ากรุงมาเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11(ผบ.มทบ.11)
หลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรทหารรักษาพระองค์ 904 จึงเหมือนเป็นด่านฝึกทดสอบนายทหารที่จะเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญให้มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ทัศนคติ ตรงตามกรอบที่วางไว้ ซึ่งทหารทุกนายต้องมีการฝึกทบทวน และต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรอื่นๆ เช่น จิตอาสา ทหารมหาดเล็ก เป็นต้น ให้มีเป๊ะในทุกๆ ด้าน!!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |