"ณัฏฐพล"เผยเจ็บปวดทุกครั้งเห็นปัญหาการศึกษา อย่างอาหารกลางวันเด็ก วอนผู้บริหารอย่านิ่งเฉย ควรช่วยขับเคลื่อน


เพิ่มเพื่อน    


ที่โรงแรมไดมอนพลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ (สพท.) โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการมอบนโยบายทิศทางการขับเคลื่อนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า การขับเคลื่อนการศึกษาไทยไปสู่อนาคตต้องมีการต่อยอดจากสิ่งที่ทุกคนได้ดำเนินการไว้อยู่แล้ว ซึ่งตนต้องการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตร่วมมือกับตนในการต่อยอดและปรับปรุงการศึกษาไทย เพราะตนถือว่าเรื่องการศึกษาไทยจะต้องเป็นวาระแห่งชาติ เพราะตนเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อเห็นปัญหาการศึกษา โดยเฉพาะโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ดังนั้นตนจึงไม่อยากให้ผู้บริหารยึดติดคิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหาร แต่ต้องไม่นิ่งเฉยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องทำงานเชิงรุกคิดวางแผนติดตามและประเมินการบริหารจัดการอาหารกลางวันของโรงเรียนตัวเองด้วย แม้ปัญหาเรื่องอาหารกลางวันนักเรียนจะเกิดในจำนวนน้อยแต่ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งผู้บริหารจะต้องใส่ใจปัญหาต่างๆให้มากขึ้น


นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนต้องการให้อยากให้ผู้บริหารทุกคนวางโครงสร้างการบริหารจัดการให้แก่คนทำงานในรุ่นต่อไปด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงสร้าง ศธ.ในภูมิภาคทั้งการมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ศึกษาธิการภูมิภาค (ศธภ.) และ สพท. ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ทำงานทับซ้อนกัน เช่น ขณะนี้มีปัญหาน้ำท่วม ตนจะต้องถามข้อมูลตัวเลขโรงเรียนได้รับผลกระทบจากหน่วยงานไหนได้บ้างที่จะรู้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้ จะต้องมีการปรับแก้ไขแน่นอน เพราะการตนที่ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะประสานงานกับหน่วยงานใด เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องคิดแล้วว่ากระบวนการนั้นต้องมีการพิจารณา เพื่อทำให้กระบวนการสามารถเดินไปข้างหน้า สร้างประสิทธิภาพได้ ปัญหามันแก้ได้ และขอให้มั่นใจว่าตนจะไม่ลิดรอนสิทธิ์ของใคร จะดูแลเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์เอาไว้ แต่กระบวนการอาจจะต้องเปลี่ยนไปบ้าง ดังนั้นจึงอาจจะมีบ้างช่วงเวลาที่โครงสร้างมีความผิดแปลกไปบ้าง แต่ระยะยาวอีก 2-3 ปีข้างหน้า ระบบก็จะเข้าที่ด้วยตัวมันเอง ดังนั้นเราต้องคำนึงถึงอนาคตเป็นที่ตั้ง สำหรับเรื่องงบประมานของ ศธ.เป็นที่ทราบกันดีว่า ศธ.ได้รับงบประมาณสูงสุดกว่ากระทรวงอื่นๆ แต่ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเม็ดเงินเหล่านี้หากทุกคนนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการศึกษา เพราะงบประมาณคือส่วนหนึ่งของการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูและนักเรียนทุกคน


"นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาไทยเป็นอย่างมาก และมีหลายคนเฝ้ามองการทำงานของเราอยู่ ขณะเดียวกันเรื่องทุจริตของ ศธ.ก็มีจำนวนมากถึง 30-40 เรื่อง ซึ่งมันสะท้อนว่า การบริหารจัดการของเรายังไม่ดีพอ และเราจะต้องร่วมปิดช่องโหว่ในจุดนี้ให้ได้ ดังนั้นผมจึงขอให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและเดินไปพร้อมกับในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู้ศตวรรษที่ 21 และใน 1-3 ปี เราจะต้องหาสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา อย่างไรก็ตาม ถ้าทุกคนไม่อยากร่วมกันทำงานผมก็ทิ้งทุกคนแน่นอน อย่าคิดว่าผมจะมาอยู่ในตำแหน่งนี้แค่ไม่กี่เดือน แต่ผมจะอยู่ให้นานที่สุด เพราะผมผูกพันกับการศึกษาไทยและจะแก้ไขปัญหาการศึกษาอย่างเต็มที่"รมว.ศธ. กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"