เพราะมีเพื่อนอยู่หลายก๊วน หลายแก๊ง ทำให้ในแต่ละปีโดยเฉลี่ยแล้วก็จะมีโอกาสไปงานปาร์ตี้ "meeting" เพื่อนเก่า หรืองานคืนสู่เหย้า ไม่ต่ำกว่า 4-5 งาน เปลี่ยนบรรยากาศไปได้เรื่อยๆ อีกแบบ และเพิ่มรสชาติชีวิต "อัพเดต" เรื่องราวแวดวงสหายเก่าได้พอสมควร
บางก๊วนก็บานปลาย เพิ่มรอบเฮฮาจัดทัวร์ไปท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวต่างประเทศ รื้อฟื้นความหลังกันข้ามวันข้ามคืน สนุกสนานคลายเหงา คลายเครียดได้
แต่ในความคึกคักของเพื่อนๆ ที่มารวมตัวกันมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ทำให้เราตามหา ตามจิกเพื่อนเก่าที่หายไปได้ง่ายกว่าเดิมนั้น ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะคะที่ ..ชวนยังไงๆ นางก็ไม่มา ด้วยเหตุผลต่างๆ สารพัด
เหตุผลยอดนิยมสำหรับคนที่ไม่ยอมกลับมาหาเพื่อนเวลานัดชุมนุมกินข้าวกันนั้น ไม่พ้น..กลางคืนไม่สะดวก ตาไม่ดี ส่วนเหตุผลอันดับสอง ไม่มีใครอยู่บ้าน ต้องดูหลาน หรือไม่ก็ต้องเฝ้าพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
จะเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่หาทางเลี่ยงก็ตาม ล้วนแต่น่าคิดทั้งนั้น เพราะเพื่อนในรุ่นเดียวกัน ทำไมสามารถแบ่งเวลามาเจอะเจอเพื่อนได้ ทั้งๆ ที่มีข้อจำกัดเรื่องตาไม่ดี กับการมีพ่อแม่ในวัยบั้นปลายของชีวิตเฉกเช่นเดียวกัน
สรุปว่า ทุกอย่างอยู่ที่ใจว่าอยากจะมาหรือเปล่าเท่านั้นเอง!!! ฉะนั้นการออกจากบ้านไปเจอเพื่อนปีละครั้ง ไม่เหนือบ่ากว่าแรงแน่ ถ้าอยากจะทำ..จริงไหม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันก่อนเพิ่งไปงานคืนสู่เหย้าทุกชั้นปีของมหาวิทยาลัย แล้วได้ยิน "รุ่นน้อง" บอกเล่าถึงเหตุผลของเพื่อนกลุ่มเขาที่ไม่มาเจอหน้าเพื่อนเลย ..แตกต่าง...จากที่มนุษย์ป้าวิเคราะห์รวบรวมมาโดยสิ้นเชิงค่ะ ทำให้รู้สึกต้องคิดตาม คิดหนักว่า มนุษย์หนอ..ใครเป็นการสร้างข้อจำกัดมาผูกมัดตัวเอง หากไม่ใช่ "ใจ" หรือความคิดของตัวเอง
มนุษย์น้องที่เล่านั้นเป็นผู้ชาย จึงได้รู้ว่าเหตุผลของผู้ชายที่จะไม่มาเจอเพื่อนนั้น มีประการหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมากคือ สรีระเขาเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก จนเขารู้สึกว่า ...เพื่อนต้องอ้าปากค้างตกใจ แล้วแซวเขาจนเขาขาดความสุขแน่นอน
"พี่มันเคยหล่อมากตอนเรียนมหา'ลัย แต่วันนี้มัน "หัวล้าน" อ่ะพี่ มันเลยไม่กล้ามาเจอใคร"
รุ่นน้องเล่าให้ฟัง เมื่อพี่อย่างเราถามถึงน้องคนรูปหล่อที่เคยเห็นเดินไปเดินมาหน้าคณะ
อาการหายไปจากสังคมเพื่อนของอดีตรุ่นน้องรูปหล่อ เพิ่งมาตอนหลังนี้ประมาณ 5 ปี นี่คือเหตุผลที่ต้องคิดหนัก...จริงไหมคะ???
มนุษย์รุ่นพี่อย่างเราฟังแล้วก็ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเป็นเราจะรู้สึกแบบเดียวกับน้องรูปหล่อไหม เพราะว่ากันตามจริงสำหรับเพศหญิงแล้ว ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในเรื่องของสรีระ หรือหน้าตาที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลานั้น เราก็ใช้เครื่องสำอางปกปิด หรือใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมได้ ส่วนเรื่องศีรษะบนผมหายไปหมดสำหรับคุณผู้ชายนี่ ...น่าคิดนะคะ..เฮ้อ!!.
"ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |