หนี้ครัวเรือนพุ่ง13ล้านล. ส่งออกชะลอ-จ้างงานลด


เพิ่มเพื่อน    

 สภาพัฒน์สั่งจับตาหนี้ครัวเรือนแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังไตรมาส 1/62 พุ่ง 13 ล้านล้านบาท  ทะยานเป็นอันดับ 2 เอเชียและอันดับ 11 ของโลก สูงสุดในรอบ 27 เดือน ด้านส่งออกชะลอตัวกระทบจ้างงานลดลง 0.3%
    นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงสถานการณ์สังคมไทยไตรมาส 2/2562 ปัญหาหนี้ครัวเรือนว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/62 หนี้ครัวเรือนเท่ากับ 13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6.3% คิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพีเท่ากับ 78.7% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2560 ซึ่งหนี้ครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2560
    สำหรับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 2/62 ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะภาพรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในระดับสูง 9.2% โดยมียอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 11.3% สูงสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ไตรมาส 4/58 ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัว 7.8% และยอดคงค้างสินเชื่อรถยนต์ขยายตัว 10.2%
    ทั้งนี้ ยอดคงค้างหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพื่อการอุปโภคบริโภคในไตรมาส 2/62 มีมูลค่า 127,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดคงค้างหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสินเชื่อรถยนต์ 32.3% และบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 12.5% และสินเชื่อบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระเกิน 3  เดือนขึ้นไปกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
    "หนี้ครัวเรือนไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ และอันดับ 11 ของโลก จาก 74 ประเทศ โดยหนี้ที่ต้องจับตาคือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งหนี้บัตรเครดิตและรถยนต์มีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง จากความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้มากขึ้น" นายทศพรกล่าว
    สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 คาดว่าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มลดลง และความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้ แต่ด้านคุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มด้อยคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากในช่วงก่อนมีมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ธนาคารพาณิชย์มีการแข่งขันปล่อยสินเชื่อลักษณะที่ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การอนุมัติ  รวมถึงมีการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในวงเงินสูงกว่าที่แท้จริง ทำให้ผู้กู้ได้เงินสดกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น
    อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในไตรมาส 2/62 การจ้างงานลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผู้มีงานทำภาคการเกษตรลดลงต่อเนื่อง 4% เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร ขณะที่ผู้มีงานทำภาคนอกเกษตรเพิ่มขึ้น 1.5% โดยสาขาที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการขนส่งและเก็บสินค้าเพิ่มขึ้น 7.2%, สาขาการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 6.2%, สาขาการศึกษาเพิ่มขึ้น 3.1% และสาขาโรงแรมและภัตตาคารเพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนสาขาที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่  สาขาการค้าส่ง/ค้าปลีกลดลง 0.4% และสาขาการผลิตลดลง 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับการส่งออกที่หดตัว
    ทั้งนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.98% เพิ่มขึ้นใกล้เคียง 0.92% ในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ลดลง  1.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าจ้างแรงงานที่แท้จริงของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 4.7% โดยในภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 5.4% ขณะที่นอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 3.7% ผลิตภาพแรงงานโดยรวมเพิ่มขึ้น  2.6%
    สำหรับกรณีเศรษฐกิจชะลอตัว จากการหดตัวของภาคส่งออกและการท่องเที่ยวนั้นได้ส่งผลต่อการจ้างงาน ซึ่งการส่งออกที่หดตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแรงงานรวมประมาณ 5.1 ล้านคน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลง อาจส่งผลต่อแรงงานในภาคบริการและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ซึ่ง ครม.ได้มีการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทั้งมาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน และมาตรการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลดีต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว ไม่ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นเกิน 80%
    "ในส่วนของภาคท่องเที่ยวแนวโน้มเริ่มดีขึ้น การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่าตัวเลขการท่องเที่ยวจะเป็นไปตามเป้า ส่วนการส่งออกจะต้องดูผลการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งทราบว่าจะมีการนำมาตรการด้านส่งเสริมการลงทุนและมาตรการด้านส่งออกเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 6 ก.ย.นี้" นายทศพร กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"