วันก่อนผมอ่านเจอบทความในโซเชียลมีเดียที่สั้นแต่ได้ใจความ ใกล้เคียงกับที่หลายคนประเมินเอาไว้เหมือนกัน ดร.วชิรศักดิ์ จึงสถาพร ถามว่าคนไทยเรา “เตรียมตัวกันหรือยัง?”
เพราะแนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะมีผลกระทบต่ออาชีพต่างๆ จะมีความชัดเจนขึ้นในปีหน้าค่อนข้างแน่นอน
ท่านทำนายว่า
2G ทำให้โทรเลขเลิกใช้ถาวร
3G มา Email ก็มาแทนจดหมาย
โทรศัพท์บ้านหดหาย...
4G E-book มา
ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ร่วง!
E-commerce จะทำให้ห้างสรรพสินค้าพัง!
E-Banking ธนาคารจะปิดสาขาเกิน 50%
Operation กำลังจะตกงานอีกมาก
ธุรกิจถ่ายรูปและกล้องแพ้กล้องมือถือ
5G จะมาปี 2020 พร้อม Fintech, Blockchain
และ Digital Business and Robotics
Download หนังยาว 2 ชั่วโมง ไม่เกิน 2 นาที
E-Learning ถล่มมหาวิทยาลัยแน่นอน!
Logistics มีแต่ Robots
คำถามคือแล้วคนจะทำงานอะไร?
คำตอบ : ทุกคนจะเป็นนายตัวเอง
ผลิตสินค้าหรือขายบริการแบบ freelance....
มีพนักงานเท่าที่จำเป็น
เพราะทุกอย่างจะ run บน internet
และระบบ automation จะเกิดอาชีพใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ มากขึ้น
และทุกคนจะซื้อขายกันภายใต้ระบบ blockchain โดยไม่ต้องผ่านธนาคารอีกต่อไป
ดังนั้นทุกคนต้องหาตัวเองให้เจอ แล้วทำในสิ่งที่รักที่ชอบให้ดีที่สุด!
เสาะหาความรู้เรื่อง technology เพราะเราต้องอยู่กับมัน!
เรียนรู้การทำธุรกิจออนไลน์
รู้ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีนเพื่อเปิดโลกทรรศน์...
และอย่าลืมดูแลร่างกายและจิตใจของเราด้วย เพราะมันคือต้นทุนอันประเมินค่าไม่ได้!
นี่คือคำเตือนด้วยความหวังดีจากนักวิชาการที่เกาะติดความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจาก disruption เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนทั้งเร็วและแรง
อย่างที่ Charles Darwin เคยกล่าวไว้
ผู้ที่อยู่รอดได้ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด หรือวิ่งเร็วที่สุด หรือใหญ่ที่สุด หากแต่คือผู้ที่ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สังคมไทยวันนี้แม้จะเห็นสัญญาณเตือนภัยมาหลายปีแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยัง “รอให้มันมาถึงก่อน”
แต่หากคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงมาถึงตัวเมื่อไหร่ นั่นก็แปลว่าช้าไปแล้ว
เพราะพอพายุร้ายแรงแห่งความเปลี่ยนแปลงมาถึงตัว ก็ไม่มีโอกาสได้ปรับตัวแล้ว
พายุเทคโนโลยีครั้งนี้ทั้งใหญ่และแรงและไม่ปรานีใคร ไม่ว่าใหญ่ว่าเล็ก ไม่ว่าเคยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เพียงใดก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะสามารถฝ่าข้ามความ “ป่วน” หรือ disruption ที่เกิดจากคลื่นยักษ์ที่เขย่าขวัญไปทั่วทุกวงการได้
การเปลี่ยนแปลงในองค์กรไม่มีสูตรตายตัว เพราะยังไม่มีใครเก่งกาจพอที่จะเขียนตำราสำหรับการฟันฝ่าความป่วนครั้งนี้ได้
เพราะทุกคนสาละวนอยู่กับการเอาตัวรอด ไม่มีเวลาสรุปบทเรียนชัดเจนพอที่จะประกาศว่า “นี่คือสูตรสำเร็จ”
เพราะในภาวะเช่นนี้ไม่มีคำว่าสูตรสำเร็จ มีแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน แต่ละอาชีพ แต่ละองค์กรที่อาจแบ่งปันกันได้ แต่ไม่สามารถเอาไปสวมให้อีกคนหนึ่งหรืออีกบริษัทหนึ่งได้
เพราะในสภาพวันนี้สูตรความอยู่รอดเป็นเรื่องเฉพาะตัวทั้งสิ้น
ดังนั้นแค่เตรียมตัวเฉยๆ ไม่พอ ต้องลงมือทำ, ทดลอง, เรียนรู้, ปรับตัว, พร้อมจะล้มเหลว, เรียนรู้จากการล้มเหลว, แก้ไข, ปรับปรุง, ลองใหม่และพร้อมจะล้ม แต่ต้องล้มไปข้างหน้า
และลุกขึ้นมาทดลองทำใหม่อีกครั้ง
เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าความเปลี่ยนแปลงรอบใหม่แอบซ่อนตัวอยู่มุมไหนของอนาคตอันใกล้ ไม่ใช่หกเดือน, เก้าเดือน, หนึ่งปี, สามปีหรือห้าปีข้างหน้า
แต่มันอาจเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ที่พายุร้ายแห่งเทคโนโลยีจะโหมกระหน่ำมาในทิศทางของคุณ
สำหรับคนไม่พร้อมจะออกจากเขตคุ้นเคย หรือ comfort zone มันคือภัยคุกคามมหาศาล
แต่สำหรับคนที่พร้อมจะปรับตัว, สรุปบทเรียนและทดลองตลอดเวลา มันคือโอกาสทองที่หายากยิ่ง!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |