เป็นอีกนักแสดงมากความสามารถ สำหรับ เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย ที่เจ้าตัวนั้นผ่านมรสุมชีวิตมามากมาย ทั้งคุณพ่อเสียกะทันหัน หย่ากับอดีตสามี ติดหนี้ จนเครียดทำให้เป็นก้อนเนื้อตรงช่องท้อง ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ถึงทุกๆเรื่องราวชีวิต
         "พี่เจี๊ยบเป็นคนที่เดินสายบุญ มันก็ต้องมีทุกข์ก่อนกว่าที่จะเข้าหาบุญ ปัญหาในชีวิตมันเยอะแยะมากมาย เป็นขั้นตอนของแต่ละช่วงวัยอายุ แล้วเราก็สะสมว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เราพ้นจากอันนั้นซึ่งหนีไม่พ้นศาสตร์ของพระพุทธเจ้า
          มรสุมทีละลูก เรื่องแรกคือคุณพ่อเสียตอนอายุ 26 ซึ่งพ่อยังหนุ่มอยู่เลย มันช็อกเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่แรงมาก โทรศัพท์มาเราก็อึ้ง เพิ่งจะมีลูกคนที่ 2 มันเหมือนกับหมดคนที่จะโพรเทคเรา เราเพิ่งแต่งงานแล้วมีลูกเลย พ่อก็จะคอยบอก คอยสอน คอยเลี้ยงลูกให้ในวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มันก็ช็อกตรงที่ว่ามันกะทันหันเกินไป คุยโทรศัพท์อยู่วันรุ่งขึ้นพ่อเสียชีวิตยังไม่ทันได้ลา ใช้เวลาทำใจเป็นปี แล้วก็เก็บทุกอย่างของพ่อมา ไดอารี่ที่พ่อเขียน แล้วก็สิ่งที่พ่อดูเอาไว้ก่อนที่พ่อจะจากไป มันคือแม่นมาก กราฟชีวิตที่พ่อดูให้ทุกคน กราฟชีวิตพ่อบอกแล้ว ทำไมไม่ดู ก็คือบอกอายุที่พ่อจะจากไป คือวงไว้เลย ถ้าอยู่ต่อก็จะอยู่ได้นาน แต่ถ้าไปก็คือไป แต่เหมือนไม่เข้าหู แต่พอเรามาดู เออ...พ่อบอกแล้ว แต่เราไม่คิด และพ่อดูให้เราด้วย ดูถึงอายุ 72 ปี พ่อดูไว้ให้เฉยๆ ไม่ได้วงอะไร แต่เราเรามาดูแล้วมาเปรียบเทียบกับการดูของคุณพ่อ เรารู้เลยว่าอันนี้คือบอกไว้แล้ว แล้วประกอบกับดูผูกดวง 3 หมอเท่ากันหมดเลย คือไม่เกิน 75 ปี ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัว เรามาดูในวัยที่น้อมธรรมเข้าสู่จิตใจแล้ว มันอยู่ในจุดที่เรารับได้

          เรื่องที่2 การหย่ากับอดีตสามี ตอนนั้นพี่เจี๊ยบอายุ 30 ลูก 3 คน เรื่องมันผ่านมาแล้ว เป็นความที่ไม่ลงตัวกัน ไม่ใช่ความรัก มันเกิดขึ้นด้วยความเคารพ เพราะฉะนั้นเหมือนเรายังไม่รู้จักความรักเลยมันเป็นรักเคารพ อยู่ได้ด้วยความรักเคารพ แต่พอมาวันนึงเราเกิดเบื่อที่จะแบมือขอต่างๆด้วยความเคารพ จะทำไงดีแน่นอนว่าคนที่อายุสูงวัยกว่าเขาไม่ยอมเขาไม่ยอมให้เราออกไปทำอะไรหรอก ก็จะถูกกำหนดกฎเกณฑ์เยอะไป เราก็มีความรู้สึกว่าชีวิตมนุษย์มันต้องมีสิทธิและเสรีภาพ ในเมื่ออีกฝ่ายมีสิทธิและเสรีภาพแล้วเราล่ะทำไมถึงถูกกฎอยู่อย่างนี้ ได้อย่างนี้ ดูแลอย่างนี้ คือมันไม่ใช่เรา เราก็เลยขอ ตอนนั้นตกลงไม่ได้ เขาไม่ให้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เศร้าหมอง จนพี่สาวบอกว่าไปเติมพลังมาให้อยู่ตรงนี้ได้ เราก็ไปบวช 15 วัน ที่แม่สาย จ.เชียงราย

          แล้วก็ติดหนี้ เรื่องของเรื่องเราทำงานพิธีกรมาสิบปี มันแบบถึงเวลาแล้วที่เราจะทำรายการของเราเอง ก็คุยกับคนนั้น คนนี้ ก็ส่งรายการไปทุกช่อง แต่ไม่ผ่านเลย น้องก็เลยบอกว่าเสนอละครไหม เผื่อจะได้ เราก็ลองดู เป็นเรื่องเกี่ยวกับตลาด ผู้ใหญ่ก็จะบอกว่าไม่ชอบเรื่องเขียนเอง ชอบนวนิยา เราก็กลับมาไปหานวนิยาย ก็เลยหยิบเรื่อง รักเกิดในตลาดสด มาทำ ถามว่าได้กำไรไหม มันได้ แต่ไม่พอปี มันควรจะมีอีกเรื่องนึง พออีกปีก็ทำอีก แต่กำไรก็ไม่พอปีแล้วควักเนื้อ แล้วที่ไปกู้มาดอกเบี้ยทั้งนั้นเลย ก็ต้องใช้ดอกเบี้ย ต้องใช้ภาษี นู่นนี่ ต่อเรื่องต้องมี 4 ล้าน เราได้มาแล้วประมาณ 2-3 ล้าน จะทำยังไงให้มันจบเรื่อง เราต้องมี 4 ล้าน และ 4 ล้านนี้ไม่ใช่แบงค์ให้เรา

          ตอนนั้นเครียดถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล สุดท้ายตัวเลขมา ไม่ลงตัวกับเพื่อน หุ้นส่วน คือแยกแน่ๆ ก้อนเนื้อมาเลยที่รังไข่ หมอบอกว่าศึกษาธรรมมะมาแล้ว หมอต้องบอกความจริง การที่มีเลือดออกมันหนักขั้นสุดท้าย ซึ่งก้อนเนื้อมันเกิดจากความเครียด หมกหมุ่นด้วยไม่หลับไม่นอน จนมันเจ็บๆอยู่ทางด้านขวา ต่อมาไปปฏิบัติธรรม แต่อยู่ๆเหมือนมีประจำเดือน แต่ปรากฏว่าเลือดนองเต็มพื้นห้องน้ำ เราก็ยังคิดว่าเป็นประจำเดือนอยู่ เป็น 14 วัน จนไม่มีแรง ต้องโทรหาหมอที่ทำคลอด หมอบอกให้มาด่วนเลย พอตรวจมันก็ไม่ใช่เนื้อร้าย เสือดที่ออกมันคือโพรงมดลูกเป็นแผลตั้งแต่ดั้งแต่เดิม พอวัยสูงขึ้นผิวมันแห้ง โพรงมดลูกก็แห้งด้วยมันปริค่ะ ก็เอาออกทั้งรังไข่และมดลูก ตอนนั้นท้องห้อยต้องเดินประครองท้อง โล่งทั้งหมด ธาตุทั้งหมดรวนเรหมดเลย ต้องมาฟื้นฟูธาตุกันใหม่ตั้งแต่ปีนั้นจนมาถึงปีนี้"

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม jeab_plodpai