2 ก.ย.62 - ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปัตตานี ผู้ประกอบการเรือประมง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยลูกเรือประมงรวมตัวกันประมาณ 200 คน นำโดยนางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมการประมง จ.ปัตตานี และยื่นหนังสื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินคดีจากการจ่ายค่าแรงงานช้ากว่ากำหนดในสัญญาจ้าง โดยที่นายจ้างไม่มีเจตนาจะเบี้ยวค่าจ้าง แต่เกิดจากปัญหาต่างๆ เช่น เรือจอดติดมรสุมทำให้ขาดรายได้สะสมเป็นระยะเวลานาน ขาดสภาพคล่องตัว

ด้วยเหตุนี้นายจ้างจึงไม่สามารถจ่ายค่าจ้างได้ตรงตามเวลาตามสัญญาจ้างที่ระบุไว้ โดยลูกจ้างยินยอม แต่ในทางปัฎิบัติแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานในภาคประมงทะเล ข้อที่10 (1) ต้องบังคับดำเนินคดีทันที ซึ่งกฎหมายข้อนี้ขัดกับวิถีชีวิตของชาวประมงเป็นอย่างมาก เพราะอาชีพประมงทะเลไม่มีรายได้ที่แน่นอน บางเดือนอาจจับปลาได้มาก บางเดือนได้น้อย หรือไม่ได้เลย

ทั้งนี้ การที่ชาวประมงรวมตัวกันมายืนหนังสือร้องเรียนนั้น อยากให้รัฐบาลผ่อนปรนกฎหมายให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของชาวประมง โดยใช้การตักเตือนแทนการบังคับคดีทันที และขอให้ปรับแก้กฎหมายข้อบังคับต่างๆให้สอดคลองกับบริบทในพื้นที่

หนังสือดังกล่าวชาวประมงได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้ข้อ 1.การจ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือน สามารถที่จะจ่ายเป็นรายวันเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ในประเทศไทย 2.การจ่ายค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคารอย่างเดียว สามารถที่จะจ่ายเป็นเงินสดได้ โดยมีการลงชื่อรับเป็นลายลักษณ์อักษร และ
3.การลงชื่อเวลาพักงานในทะเล ควรที่จะต้องยกเลิกเพราะการทำงานในทะเลนั้นไม่เหมือนการทำงานบนฝั่ง และเอกสารที่ต้องทำเกี่ยวกับ Log book กรมประมงก็สามารถระบุเวลาทำงานและไม่ทำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ  อยากให้หน่างงานภาครัฐเร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมง

นางอันน์เกตุ กล่าวว่า เหตุผลที่ชุมนุมเพื่อขอให้ทางจังหวัดมีความยืดหยุ่นในการบังคับใช้กฎหมายเรื่องการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกเรือประมง โดยที่นายจ้างไม่มีเจตนาค้างเงิน เพียงแต่ไม่ได้จ่ายตรงตามเวลาตามสัญญาจ้างที่กฎหมายได้กำหนดไว้ แต่การจ่ายนั้นช้าเพียง 1-2 วัน ซึ่งการจ่ายล่าช้าโดยที่ลูกจ้างยืนยอม และลูกจ้างได้รับการกินดีอยู่ดีในเรือประมงอยู่แล้ว จึงขอให้ทางภาครัฐเข้าใจผู้ประกอบการเรือประมงด้วย