ม็อบฮ่องกงป่วนสนามบินกระทบยกเลิกหลายเที่ยวบินเมื่อวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงหลายพันคนปิดถนนขัดขวางระบบขนส่งมวลชนหวังเรียกร้องความสนใจจากทั่วโลก หลังคืนวันเสาร์ระอุปะทะเดือด! ผู้ประท้วงชุดดำจุดไฟเผาสิ่งกีดขวางและปาระเบิดขวดใส่ตำรวจปราบจลาจลที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง 

     เขตปกครองพิเศษฮ่องกงเผชิญกับสุดสัปดาห์แห่งความรุนแรงอีกครั้งเป็นสุดสัปดาห์ที่ 13 แล้ว จุดศูนย์รวมความสนใจของสถานการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562 อยู่ที่สนามบินระหว่างประเทศ ที่นักเคลื่อนไหวนัดแนะประชาชนเดินทางมายังสนามบินในช่วงบ่ายเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อระบบขนส่งของสนามบิน
     รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า ผู้ให้บริการขบวนรถไฟแอร์พอร์ตเอกซ์เพรสได้สั่งระงับบริการภายหลังกลุ่มผู้ประท้วงชุดดำบุกเข้าไปในสถานี บางคนกางร่มเพื่อซ่อนตัวจากกล้องวงจรปิด ผู้ประท้วงชุดดำพากันจัดตั้งสิ่งกีดขวางที่สถานีรถโดยสารประจำทางและพยายามปิดกั้นถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่สนามบิน ด้านนอกอาคารผู้โดยสารหลังหนึ่ง ผู้ประท้วงปลดสลักถังดับเพลิง นำรถเข็นมาจัดตั้งเป็นสิ่งกีดขวางถนนและทำลายกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะถูกตำรวจเข้าขับไล่
     เว็บไซต์ของสนามบินประกาศว่ามีเที่ยวบินยกเลิกแล้วอย่างน้อย 16 เที่ยว ขณะที่อาคารผู้โดยสารขาออกนั้นเนืองแน่นด้วยผู้โดยสารตกค้าง
    สนามบินแห่งนี้ได้รับการคุ้มครองตามคำสั่งของศาลที่ห้ามผู้ประท้วงเข้าไปภายในหลังจากเหตุการณ์รุนแรงเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผู้ประท้วงเข้าไปปักหลักประท้วงภายในอาคารผู้โดยสารได้บานปลายเป็นการปะทะกันอย่างน่าเกลียด และทำให้สนามบินต้องระงับเที่ยวบิน 2 วัน แต่ที่ผ่านมาผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงมักไม่เชื่อฟังคำสั่งห้ามของทางการอยู่แล้ว
     ผู้ประท้วงอายุ 20 ปีที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า ถ้าพวกตนสามารถสร้างความปั่นป่วนต่อสนามบินได้ ชาวต่างชาติก็จะอ่านข่าวเกี่ยวกับฮ่องกงมากขึ้น
    ในเขตเศรษฐกิจใจกลางฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่เทศกิจออกมาทำความสะอาดเก็บกวาดซากความเสียหายและลบสีสเปรย์เปรอะเปื้อนที่เป็นผลลัพธ์ของการปะทะเมื่อคืนวันเสาร์ที่เกิดต่อเนื่องถึงเช้าวันอาทิตย์ การปะทะครั้งนี้เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของการชุมนุมประท้วงตลอด 3 เดือนเศษที่ผ่านมา 
     การชุมนุมเมื่อวันเสาร์เริ่มต้นอย่างสันติเมื่อผู้ประท้วงเข้าร่วมการเดินขบวนของกลุ่มชาวคริสเตียนในเขตหวานไจ๋ บางส่วนชุมนุมที่ย่านช็อปปิ้งคอสเวย์เบย์ท่ามกลางสายฝน แต่สถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อตกค่ำ บริเวณใกล้กับสำนักงานของรัฐบาลและกองบัญชาการกองทหารรักษาการณ์ของจีน ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสี เพื่อใช้ระบุตัวผู้ประท้วงในภายหลัง ส่วนผู้ประท้วงซึ่งสวมชุดดำใส่หน้ากากป้องกันแก๊ส ขว้างปาระเบิดขวดและก้อนอิฐตอบโต้ และจุดไฟเผาสิ่งกีดขวางบนถนน
     คำแถลงของตำรวจเวลาต่อมาบอกว่า ตำรวจ 2 นายยิงปืนขึ้นฟ้าคนละนัดด้วย เพื่อป้องกันตนเองจากกลุ่มผู้ประท้วงที่รุมล้อมและพยายามแย่งปืนพกของตำรวจ เป็นครั้งที่ 2 ที่ตำรวจยิงกระสุนจริงในเหตุการณ์ปะทะกันนับแต่มีการชุมนุมประท้วงยาวนานกว่า 3 เดือน
     การต่อสู้ลามไปถึงรถไฟใต้ดิน ทำให้บางสายต้องระงับบริการ ภาพวิดีโอที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์เผยภาพที่ตำรวจปราบจลาจลใช้เข้าจับกุมผู้ประท้วง 2 คู่ และฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ทั้งคู่ที่นั่งอยู่บนพื้นของรถไฟ ชายคนหนึ่งร้องด้วยความเจ็บปวดขณะใช้แขนโอบปกป้องเพื่อนหญิงของเขา 
    ตำรวจเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 63 คนฐานต้องสงสัยว่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่, ชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินสาธารณะ สถานีรถไฟใต้ดิน 3 แห่งปิดให้บริการในวันอาทิตย์ 
    องค์กรแอมเนสตีอินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้สอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจที่สถานีรถไฟใต้ดิน โดยกล่าวว่าความรุนแรงที่กระทำต่อตำรวจโดยตรงเมื่อวันเสาร์ไม่ใช่ข้ออ้างที่ตำรวจจะออกไปอาละวาดในสถานที่อื่น 
    เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีผู้บาดเจ็บจากการปะทะเมื่อคืนวันเสาร์ถูกส่งเข้ารักษา 31 คน ในจำนวนนี้ 5 คนอาการสาหัส
    วันเสาร์ที่ผ่านมาตรงกับวันครบรอบ 5 ปี ที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของชาวฮ่องกงที่ต้องการสิทธิเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกผู้บริหารของตนเอง อันนำไปสู่การเกิดขึ้นของขบวนการร่มที่ยึดครองฮ่องกงยาวนาน 79 วัน  สโตน ผู้ประท้วงวัย 22 ปี เปิดเผยกับเอเอฟพีเมื่อคืนวันเสาร์ว่า การประท้วงอย่างสันติไม่ได้ผล
    เมื่อวันศุกร์ ทางการฮ่องกงได้จับกุมนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยคนดัง 5 ราย และสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายประชาธิปไตยอีก 3 ราย ผู้ถูกจับรวมถึงโจชัว หว่อง และแอ็กเนส โจว อดีตแกนนำขบวนการร่ม ซึ่งถูกแจ้งข้อหายุยงและเข้าร่วมการชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย ก่อนได้รับการประกันตัว.