‘คุณช่อ’ไปปัตตานี! ผู้ต้องหาไม่ใช่โจรใต้


เพิ่มเพื่อน    

 “พรรณิการ์" ลงใต้ เยี่ยมครอบครัว “อับดุลเลาะ อีซอมูซอ” ซัดทหารอำนาจล้น เสี่ยงใช้อำนาจมิชอบจับกุมชาวบ้านโดยไม่ต้องมีหลักฐาน นี่ไม่ใช่ศพแรก ยันไม่ใช่โจรใต้ เป็นแค่หนึ่งในผู้ชายวัยหนุ่มจำนวนมากในสามจังหวัดที่ถูกเจ้าหน้าที่จับเข้าค่ายไปสอบสวนโดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหา ทหารใช้กฎอัยการศึกมายาวนานถึง 15 ปีแล้ว

    เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เดินทางไปยังอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะและให้กำลังใจครอบครัวนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ช่างก่อสร้างชาวปัตตานีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกควบคุมตัวเข้าค่ายอิงคยุทธบริหาร แล้วกลับออกมาในสภาพสมองบวมจากการขาดออกซิเจน อยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรา ก่อนจะเสียชีวิตในอีก 35 วันต่อมา 
    ญาติของนายอับดุลเลาะยืนยันว่า จนถึงขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาว่าจะให้เงินเยียวยาและให้ทุนการศึกษากับลูกของนายอับดุลเลาะ แต่เป็นเสียงการพูดปากเปล่า ไม่มีเอกสารยืนยันการติดต่ออย่างเป็นทางการ และที่สำคัญครอบครัวไม่ได้ต้องการเพียงเงินเยียวยา แต่ต้องการข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ ว่าผู้ชายที่แข็งแรงคนหนึ่ง อยู่ในการควบคุมตัวของทหารเพียง 12 ชั่วโมง แล้วกลับออกมาในสภาพสมองขาดออกซิเจน มีร่องรอยการถูกจี้และถูกมัดได้อย่างไร และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบการเสียชีวิตของเขา
    ด้านภรรยาของนายอับดุลเลาะยืนยันว่า ขณะนี้มีกำลังใจดี เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในชุมชน รวมถึงคนนอกพื้นที่ ยืนยันว่าจะยังสู้ต่อไป แม้การทวงคืนความเป็นธรรมให้สามีจะต้องใช้เวลานาน และอาจต้องเผชิญแรงกดดันจากผู้มีอำนาจ โดยมีแนวคิดจะจัดตั้งกองทุนเพื่อรวบรวมเงินบริจาคมาใช้ในการสู้คดี
    ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ได้ให้กำลังใจครอบครัวอีซอมูซอ โดยแสดงความชื่นชมที่ทางครอบครัวกล้ายืนหยัดต่อสู้เพื่อทวงความเป็นธรรมให้นายอับดุลเลาะ และยืนยันว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนคนเดียว กรณีของนายอับดุลเลาะไม่ใช่กรณีแรกที่มีคนโดนทหารควบคุมตัวโดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานใดๆ แล้วกลับออกจากค่ายในสภาพบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต 
    การเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะคือตัวอย่างที่น่าเศร้าของคนธรรมดาที่ต้องได้รับผลกระทบจากการใช้กฎหมายพิเศษในสามจังหวัด ซึ่งให้อำนาจทหารล้นเกินจนนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดการใช้อำนาจในทางมิชอบ และการใช้อำนาจจับกุมใครก็ได้โดยไม่ต้องมีหลักฐาน ไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก็มีแต่จะสร้างความหวาดระแวงและแบ่งแยกระหว่างรัฐกับประชาชนในพื้นที่
    “มีคนจำนวนมากบอกว่าทหารทำถูกแล้ว เพราะอับดุลเลาะเป็นผู้ต้องหา เป็นโจรใต้ ในความเป็นจริงก็คือเขาเป็นหนึ่งในผู้ชายวัยหนุ่มจำนวนมากในสามจังหวัดที่ถูกเจ้าหน้าที่จับเข้าค่ายไปสอบสวนโดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหา ไม่ต้องมีหลักฐาน แค่สงสัยว่าเป็นขบวนการ เพราะเป็นผู้ชายในวัยฉกรรจ์ แล้วพอครบ 7 วันก็ปล่อยตัว เรื่องแบบนี้ทำได้เพราะการประกาศใช้กฎอัยการศึกซึ่งมีมายาวนานถึง 15 ปีแล้ว” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
    ครอบครัวอีซอมูซอยังแสดงความกังวลว่าหลังจากครบ 7 วันการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ เมื่อสื่อเริ่มเลิกติดตาม คนเริ่มเลิกสนใจข่าวนี้ ครอบครัวจะโดนทหารกดดันให้ยอมความ ซึ่งโฆษกพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า ทางพรรคจะยืนหยัดร่วมกับครอบครัวอีซอมูซอ และช่วยทวงถามข้อเท็จจริงจากรัฐบาลผ่านช่องทางในสภาและนอกสภา เพื่อยืนยันหลักการที่ว่ารัฐต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ใช่ใช้อำนาจละเมิดประชาชนเสียเอง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"