กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

          หากยึดตามคำยืนยันจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ผู้เสนอบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพล ตำแหน่ง ผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง จเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) วาระประจำปี 2562 เมื่อ บิ๊กตู่ บอก "จบแล้ว" เช่นเดียวกับ บิ๊กแป๊ะ ก็ว่า "การแต่งตั้งเรียบร้อยดี ทันตามกรอบเวลาแน่นอน ทั้งหมด 317  ตำแหน่ง การแต่งตั้งครั้งนี้พอๆ กับปีที่แล้ว เรียบร้อยทุกตำแหน่ง" แต่...ดูเหมือนความเคลื่อนไหวในแวดวง สีกากี จะไม่จบ ไม่นิ่ง ไม่เรียบร้อยเหมือนอย่างที่ "ผู้มีอำนาจ" ชี้แจงแถลงไข ว่ากันว่าตอนนี้ทุกอย่างยังฝุ่นตลบ ชัดๆ เห็นเก้าอี้ ผบช.ภ.1 ที่เดิมมีการแต่งตั้ง พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.1 และโยก พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นรต.38 ไปเป็น ผบช.ทท.(ท่องเที่ยว)  แต่พอชื่อ บิ๊กแซ็ก ไปอยู่ท่องเที่ยวเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แว่วๆ โผเปลี่ยนกลับมานั่งเป็น ผบช.ภ.1 ตามเดิม แล้วโยก พล.ต.ต.เชษฐา ขึ้นเป็น ผบช.ทท.แทน เล่นเอาหลายคน...มึน ๐ 

                ต้องบอกว่า อกหักดังเป๊าะ สำหรับ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สยศ.ตร.) มีชื่อติดโผจะได้ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่สุดท้ายผลการประชุม ก.ตร.ออกมา ปรากฏว่า 6 ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ว่างลงไม่มีชื่อ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทำให้ต้องนั่งอยู่เก้าอี้เดิมต่อไป ทั้งที่หากขยับขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. รอบนี้มีโอกาสสูงที่จะคั่ว ผู้นำสีกากี ในอนาคต เนื่องจากอายุราชการถึงปี 2568 โดยมีเวียงแว่วๆ ว่าสาเหตุที่ถูกดึงชายเสื้อไว้ไม่ให้ขยับ ทั้งที่ลุยงานช่วย บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีอย่างหนัก รวมทั้งงานพิเศษต่างๆ นอกจากอายุราชการที่ยังอยู่อีกยาวๆ แล้ว ก็น่าจะเอี่ยวๆ กับโครงการคัดเลือกบุคคล อาจไปสะดุดแข้งสะดุดขาบางอย่าง จนส่งผลให้เจ้าตัวไปไม่ถึงฝั่งฝันในโผการแต่งตั้งรอบนี้อย่างที่ปรารถนา ต่างจาก พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ที่จะเกษียณอายุราชการปี 2563 หรือ 1 ปีข้างหน้า แถมอาวุโสอยู่ลำดับ 14 ขออยู่เกษียณในตำแหน่งแต่สุดท้ายแรงหมด โดนดันขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ๐

                บทสรุปการจัดทัพปรับทิศ กรมปทุมวัน ปีสุดท้ายก่อนที่ ผบ.แป๊ะ จะเกษียณอายุราชการปี 2563  เก้าอี้ตัวเลขแบ่งกันระหว่าง นรต.36 รุ่นเดียวกับ ผบ.ตร. และ นรต.38 รุ่นเดียวกับ บิ๊กเบิ้ม-พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหลือให้รุ่นพี่ นรต.35 ไป 1 เก้าอี้  นรต.39 ได้ 1 เก้าอี้ และ นรต.42 ยึดไว้ 1 เก้าอี้ โดย บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง  ผบช.น. นรต.38 ขึ้นเป็น ผบช.น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นรต.38 อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม จตร. (สบ 8) นรต.38 โยกเป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3  นรต.35 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 นรต.36 เป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบช.ภ.5 นรต.39 เป็น ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รอง ผบช.ก. นรต.36  เป็น ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 นรต.42 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง  ผบช.ก. นรต.36 เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นรต.36 อยู่ที่เดิม ๐

                ปิดฉากอย่างสง่างาม ศูนย์เฉพาะกิจปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง หรือ ศงช.ตร. ที่ บิ๊กอวบ-พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ ดำเนินงานเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นและจริงจังทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางเป็นงาช้างได้ 44  คดี รวมงาช้าง 4,492 ชิ้น 1,657 กิ่ง รวม 2,186 รายการ น้ำหนัก 9,901.82 มูลค่ากว่า 990,182,000 บาท จนสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นได้รับการปลดออกจากบัญชีดำไซเตส กระทั่งวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา  บิ๊กอวบ ถือโอกาสแถลงปิดศูนย์ดังกล่าวด้วยเหตุผล "ผมในฐานะ ผอ.ศงช.ตร.และจะเกษียนอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.นี้ จึงต้องมีการปิดศูนย์ดังกล่าว แต่ถ้า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ต้องการให้มีดำเนินการที่ต่อเนื่องในการปราบปรามการค้างาช้าง ก็สามารถมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาเข้ามาสานต่องานได้เลย"...ปรบมือดังๆ ให้กับการทุ่มเทของเจ้าของฉายา มือปราบไซเตส และ มือปราบงาช้าง

ประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเป็นประธานเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมคณะกรรมการทั้ง 6 คน ที่กระทรวงกลาโหม ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมบอกว่าพิจารณา โผทหาร ไม่นาน เพราะเวลาส่วนใหญ่หารือเรื่องอื่นๆ ที่น่าจะเป็นสถานการณ์การเมือง และถ้าเป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้นก็ถือว่า "โผผ่านฉลุย" นอกจากตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ที่มีการขยับปรับเปลี่ยนแล้ว ในระดับกองพลหลัก โดยเฉพาะกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ที่เป็นชื่อของ เสธ.เนี้ยว-พ.อ.ทรงพล สาดเสาเงิน รอง ผบ.พล.1 รอ.ได้ขยับขึ้นมา ส่วน พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) กลับไปเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. นอกจากนั้นยังมีชื่อ พ.อ.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล  รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. เข้ากรุงมาเป็น ผบ.มทบ.11

ส่วนที่น่าสนใจคือการขยับ พล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11  (ผบ.พล.ร.11) น้องรักนายกฯ (ทหารเสือราชินี) ไปเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 และดัน พ.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รอง ผบ.พล.ร.11 .ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 เพื่อรองรับการจัดกองพลรูปแบบใหม่หลังจากรถยานเกราะสไตรเกอร์เข้าประจำการ พอพูดถึง พ.อ.พนา ประธานเตรียมทหารรุ่น 26 (ตท.26) ที่ผ่านมาถือได้ว่าเส้นทางสุดวิบากไม่ต่างจาก หมวกแดง พล.1 รอ. อีกหลายคน จนโผ "ผู้การกรมฯ-รองนายพล" เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว "บิ๊กแดง" เป็น ผช.ผบ.ทบ. ได้คืนความชอบธรรมให้ พ.อ.พนา อดีตผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 พัน 3 รอ.) มาเป็น รอง ผบ.พล.ร.11 หลังจากโดนดีดมาเป็น เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 11 เมื่อหลายปีก่อน ๐

พูดถึง ร.31 รอ.แล้ว ถือว่าเป็นการ "คัมแบ็ก" ของหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว หรือ "อาร์ดีเอฟ" ของ พล.1 รอ.ในกองทัพบก หลังจากที่ยุค 3 ป.รุ่งโรจน์ในกองทัพ กรมทหาราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ทหารเสือราชินี ที่มีหลักสูตรพิเศษระดับกรมใน พล.ร.2 รอ. หลายคนเติบโตแบบพุ่งพรวดมาพักใหญ่ พอมายุคนี้เป็นจังหวะของ ร.31 รอ.ที่ก้าวขึ้นมาบ้าง นอกจาก พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้  ที่เข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.เพื่อรอขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไปแล้ว ก็ยังมี พ.อ.ทรงพล  สาดเสาเงิน ที่โผนี้ได้ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ก็เคยเป็น ผบ.ร.31 รอ.มาก่อน เช่นเดียวกันและเป็นนายทหารที่น่าจับตามองที่ถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทบ.ในอีก 2-3 สมัย อีกทั้งยังมี "เสธ.ตั้ง" พ.อ.ธวัชชัย น้องรักของ "บิ๊กแดง" มาเป็นผบ.มทบ.11 ก็เคยคุมหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วเหมือนกัน

จะเห็นได้ว่าการจัดทัพในกองทัพบกตั้งแต่ช่วงที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีสูตรการสลายรวม "บูรพาพยัคฆ์" และ "วงศ์เทวัญ" ให้กลมกลืนกันเป็น บูรพาเทวัญ และมีการส่งเหล่าบรรดาดาวรุ่งไขว้สาย จาก ผบ.พล.ร.2 รอ. มาไว้ที่ พล.1 รอ. ขณะเดียวกันก็ส่งคนจาก พล.1 รอ.ไปไว้ที่ พล.ร.2 รอ. โดยช่วงนั้น พล.อ.อภิรัชต์ก็ดำรงตำแหน่งเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 และเป็นจังหวะที่เข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.พอดีได้รับมอบหมายจาก "บิ๊กเจี๊ยบ" ในการจัดทัพช่วงนั้น ทำให้โผโยกย้ายครั้งนี้ที่ พล.อ.อภิรัชต์ขึ้นมาจัดเอง คนที่ถูกไขว้ไปนอกหน่วยเพื่อแก้ไขปัญหาจัดโผในยุคหนึ่งให้น้ำหนักในทางบูรพาพยัคฆ์ค่อนข้างมาก กลับมาให้เกิดความสมดุลภายใต้การปรับรูปโฉมของหน่วยรักษาพระองค์ที่ไม่ต้องการให้ทหารแบ่งเป็นสาย แต่ที่สำคัญคือ พล.อ.อภิรัชต์จะบริหารจัดการเฉลี่ยให้ทหารทุกสายได้กลับมาเติบโตอย่างกระจายได้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดคลื่นใต้น้ำเหมือนยุคที่ผ่านมา ๐ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"